ตกขาวระหว่างตั้งครรภ์ สำหรับแม่บางคนอาจจะมาน้อย บางคนอาจจะมาเยอะ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งที่ต้องสังเกตดี ๆ ก็คือ สี และกลิ่นที่ตามออกมาด้วย ซึ่งจะบอกได้ว่าคุณแม่ควรจะไปพบแพทย์ หรือแค่ไปเปลี่ยนชั้นในตัวใหม่ก็พอ บทความนี้จะพามาดูลักษณะตกขาวที่ผิดปกติ พร้อมวิธีรับมือ
ตกขาวระหว่างตั้งครรภ์ สีไหนผิดปกติ?
1. ตกขาวสีขาว
- คือสีปกติที่พบได้ทั่วไป
- ตกขาวทั่วไป จะมีกลิ่นจาง ๆ คล้ายกลิ่นนม เป็นกลิ่นปกติ แต่หากคุณแม่เริ่มรู้สึกว่า ชักจะมีกลิ่นแรงขึ้น จากกลิ่นนมธรรมดา คล้าย ๆ ว่า จะกลายเป็นนมบูด หรือเริ่มมีอาการคันบริเวณนั้น ก็อาจจะเริ่มไม่ปกติแล้ว
- ปริมาณตกขาวที่มากขึ้นเล็กน้อย ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
- เมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น จุดซ่อนเร้นบริเวณอวัยวะเพศก็จะบอบบางมากขึ้น
- อาจมีเมือกใสเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ก็เป็นเรื่องปกติ
- ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ปากมดลูกจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อาจจะบางลง หรือกว้างขึ้นได้
- ตกขาวก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เช่น อาจจะมีฟองอยู่ข้างใน หรือมีเลือดปะปนมาด้วยเล็กน้อย
- ระยะต่อมา คุณแม่จะสังเกตว่า ตกขาวจะใสขึ้น และเหนียวข้นน้อยลง อาจเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเวลาคลอดแล้ว
- แต่หากคุณแม่เจอตกขาวที่ค่อนข้างข้น เป็นก้อน เหมือนชีสคอทเทจ อาจจะหมายถึงการติดเชื้อ หรือมีเชื้อราภายในช่องคลอดได้
2. ตกขาวสีเขียว ตั้งครรภ์
- พอพูดถึงตกขาวที่มีสีเขียว ฟังดูอาจจะน่ากลัวไปหน่อย เพราะตกขาวสีเขียวนั้น อาจหมายถึงอาการติดเชื้อเรื้อรัง
- หากคุณแม่พบว่าตัวเองมีตกขาวสีเขียวนี้เปรอะเปื้อนอยู่ ก็ควรจะไปพบคุณหมอ เพราะอาจจะมีการติดเชื้อในช่องคลอดอยู่ก็ได้
- เป็นไปได้เช่นกันว่า คุณแม่อาจมีอาการติดเชื้อบริเวณนั้น หรือบริเวณใกล้เคียง และเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ทำงาน เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคนี้ ส่วนเซลล์เม็ดเลือดที่ตายลงจะมีสีเขียว ก็ทำให้ตกขาวมีสีเขียว ก็เป็นไปได้เช่นกัน
- แต่หากตกขาวสีเขียวมีฟอง และมีกลิ่นที่ไม่ค่อยจะดีนัก อาจจะเป็นการติดเชื้อจากปรสิตบริเวณช่องคลอด ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบย่อย หรือร้ายแรงที่สุดคือ เป็นโรคหนองใน ควรรีบไปปรึกษาแพทย์
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตกขาวสีเขียว คืออะไร? แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่?
3. ตกขาวสีชมพู
- อาจจะเป็นไปได้ว่าตกขาวเป็นสีขาว แต่มีเลือดปนออกมาเล็กน้อย จึงทำให้กลายเป็นสีชมพู
- หากเป็นตกขาวสีชมพูตอนอายุครรภ์ที่มากแล้ว ก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าใกล้คลอด เนื่องจากมีเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นมากเป็นพิเศษ
- ในระยะใกล้คลอด ตกขาวจะยิ่งมีลักษณะเหนียวข้นขึ้น ซึ่งหมายถึงการคลอดอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
- อาจจะมีการติดเชื้อที่มดลูก หรือบริเวณใกล้เคียง ยิ่งถ้ามีอาการคัน หรือเจ็บ ๆ แสบ ๆ ต้องรีบพบคุณหมอด่วน
- บางกรณีอาการตกขาวสีชมพู อาจจะเกิดการแท้งลูกได้เช่นกัน ในกรณีที่เด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แต่ยังไม่มีการขับออก ร่างกายจึงไม่รู้ว่ามีภาวะสูญเสียบุตรเกิดขึ้น
- บางกรณีก็เป็นอาการท้องนอกมดลูก ซึ่งทำให้อวัยวะภายในถูกเบียดจากร่างกายของเด็ก จนทำให้มีเลือดออกปนมากับตกขาวได้
- สุดท้ายคือ หากคุณแม่มีภาวะรกเกาะต่ำ การบีบตัวของมดลูก จะทำให้หลอดเลือดฉีกขาด และมีเลือดออกได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้คุณแม่เสียเลือดมาก จนอาจจะเกิดภาวะซีด หรือช็อกได้
4. คนท้องตกขาวสีเหลือง
- หากตกขาวมีสีเหลือง หมายความว่าน่าจะมีการติดเชื้อในช่องคลอด
- มีการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวใกล้บริเวณช่องคลอด
- หากติดเชื้อจริง อาจจะมีสีเขียวปนอยู่ด้วย และหากยังไม่ได้รับการรักษา ตกขาวจะเปลี่ยนจากสีเหลือง เป็นสีเขียว
- ตกขาวสีเหลือง อาจเกิดจากการที่ตกขาวสีขาวสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน จึงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก็ได้
- ถ้าคุณแม่มีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ก็จะทำให้ตกขาวมีสีเหลืองได้เช่นกัน
- นอกจากภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว ถ้ามีกลิ่นคาวมากขึ้น และมีอาการคัน ๆ แสบ ๆ อาจเป็นเพราะผิวหนังบริเวณนั้นเกิดความระคายเคือง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตกขาวคนท้องระยะแรก ช่วงตั้งครรภ์ มีมูกใสตอนท้อง อันตรายไหม?
5. ตกขาวสีแดง
- หากตกขาวมีสีแดง มีก้อนเลือดปนออกมา หรือมีอาการปวดเกร็งช่องท้องร่วมด้วย คุณแม่ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเกิดความผิดปกติกับครรภ์ เช่น แท้ง หรือท้องนอกมดลูก
- แม่ท้องราว 10 – 15 เปอร์เซ็นต์ ประสบกับภาวะสูญเสียบุตร หรือการแท้งบุตร หลังจากมีเลือดออกมาปะปนกับตกขาว ทำให้ตกขาวมีสีแดง
- หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรก การมีเลือดออกมาปะปนกับตกขาว ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนบนผนังมดลูกของคุณแม่ โดยมีผลการวิจัยที่ระบุว่า หญิงตั้งครรภ์ 7 – 24 เปอร์เซ็นต์ จะมีเลือดออก ในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์
- ในช่วงท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ หากตกขาวมีสีแดง หรือมีเลือดปะปนออกมา อาจหมายถึงเกิดความผิดปกติกับครรภ์ หรืออาจจะคลอดก่อนกำหนดได้ ต้องรีบไปพบแพทย์เช่นกัน
6. ตกขาวสีน้ำตาล
- สาเหตุที่ตกขาวมีสีน้ำตาล อาจเกิดจากเลือดที่ตกค้างอยู่ในร่างกายตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์เริ่มต้น
- แม้ว่าตกขาวสีน้ำตาลจะยังไม่ใช่สถานการณ์ที่น่ากังวลมาก แต่คุณแม่ก็ควรจะพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรู้สึกว่า ตกขาวมีสีน้ำตาลที่เข้มขึ้นกว่าเดิม
7. ตกขาวสีเทา
- ตกขาวสีเทา มีกลิ่นคาวปลา กลิ่นรุนแรงขึ้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาจจะหมายถึงภาวะช่องคลอดอักเสบ ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis หรือ BV)
- สาเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวสีเทา กลิ่นแรงนี้ อาจจะเป็นเพราะการชำระล้างบริเวณอวัยวะเพศอย่างรุนแรงเกินไป รวมทั้งการเปลี่ยนคู่นอน ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแบคทีเรียภายในช่องคลอด และติดเชื้อได้
ตกขาวแบบไหน ควรรีบไปปรึกษาแพทย์?
- ตกขาวมีเลือดสีน้ำตาลปนออกมา ลักษณะคล้ายเลือดที่เก่า หรือแห้งแล้ว ในขณะที่คุณแม่ยังมีอายุครรภ์ไม่ถึง 37 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการคลอดก่อนกำหนดได้ จึงต้องรีบไปพบแพทย์
- รู้สึกเจ็บระหว่างปัสสาวะ หรือมีกิจกรรมทางเพศ และพบว่าผิวหนังบริเวณนั้นมีสีแดงมากขึ้นกว่าปกติ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะติดเชื้อบริเวณช่องคลอดที่เกิดจากยีสต์ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
- หากตกขาวมีกลิ่นคาว และมีสีเทาอ่อน หรือขาวอ่อน อาจจะมีภาวะติดเชื้อแบคทีเรียได้
- หากตกขาวมีสีเหลือง หรือเขียว และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาจจะมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์เป็นเชื้อรา มีตกขาว คนท้องใช้ยาเหน็บได้ไหม? อันตรายหรือเปล่า?
จัดการกับตกขาวอย่างไร ในช่วงตั้งครรภ์?
- ช่วงที่ตั้งครรภ์ อาจจะมีตกขาวจำนวนมากกว่าปกติ การใส่ผ้าอนามัยแบบบางจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายขึ้นได้ระหว่างวัน แต่ต้องหมั่นเปลี่ยนบ่อย ๆ ป้องกันการอับชื้น จนอาจเกิดเชื้อราขึ้นได้อีก
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดในระหว่างการตั้งครรภ์ เนื่องจากจะทำให้คุณแม่เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ อีกทั้งคุณแม่อาจจะรู้สึกไม่สบายตัวเลย จากการใส่ผ้าอนามัยแบบสอด
- ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอยู่เสมอ เช็ดแห้ง เพื่อป้องกันการอับชื้น อย่าลืมว่าวิธีการเช็ดที่ถูกต้อง คือการซับเบา ๆ จากหน้าไปหลัง เชื้อโรคจะได้ไม่ผ่านเข้าไปทางช่องคลอด และอย่ารุนแรงเกินไป
- กางเกงในผ้าฝ้าย ช่วยระบายอากาศ และซับเหงื่อได้ดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันแบคทีเรีย และเชื้อโรคได้อีกด้วย
- ไม่ควรใส่กางเกงในที่ทำจากผ้าไนลอน
- อย่าใส่กางเกงในที่รัดเกินไป ให้เลือกที่พอดีตัว หรือหลวมเล็กน้อย
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำในอ่าง เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อได้
- ใช้สบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ในการทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ
ตกขาวระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่หากคุณแม่สังเกตว่ามีอาการตกขาวผิดปกติ เช่น มีสีผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น หรือมีแผลที่อวัยวะเพศ ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคติดต่อได้ ทางที่ดีควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และถ้าหากมีเรื่องกังวลหรือสงสัย ก็ควรจะสอบถามแพทย์ทันที
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ตกขาวมีกลิ่น ช่องคลอดเหม็นไม่ไหว แก้ไขได้ง่าย ๆ ไม่ยาก
เช็กอย่างไรว่า อาการตกขาว แบบไหนที่ปกติ และแบบไหนที่ผิดปกติ
10 ยาแก้ตกขาว สำหรับผู้หญิง มีทั้งแบบสอด และแบบทา ไม่ระคายเคือง
ที่มา : momjunction, medicalnewstoday
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!