ประกันโรคร้ายแรง จะเป็นรูปแบบประกันที่นอกเหนือจากการทำประกันสุขภาพปกติทั่ว ๆ ไป เป็นการคุ้มครองที่มุ่งเน้นในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต่อเนื่อง เป็นระยะเวลายาวนาน แล้วจะต้องใช้เครื่องมือ และตัวยาเฉพาะทาง ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงจนอาจจะสร้างความลำบากให้กับตัวคนไข้ รวมไปถึงครอบครัว คนใกล้ชิดอีกด้วย
การทำประกันประเภท ประกันโรคร้ายแรง จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจ เมื่อคุณเป็นโรคที่ไม่อาจจะคาดถึงได้ หลายคน อาจจะต้องใช้เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อการรักษาตัวเองจนแทบจะไม่เหลือให้ได้ใช้ ในอนาคต จนบางครั้งอาจถึงขั้นถอดใจไม่อยากทำการรักษาต่อเลยก็มี ดังนั้น การทำประกันชีวิตโรคร้ายแรง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณอาจจะต้องซื้อเอาไว้ เพื่อความอุ่นใจ เพราะทุกวันนี้ โรคภัยไข้เจ็บมีเยอะแยะมากมายเหลือเกิน
ประกันโรคร้ายแรง เป็นประกันที่มุ่งเน้นการดูแลเมื่อเรามีอาการเจ็บป่วยจากโรคที่มีความเสี่ยงสูง อีกทั้งจะต้องใช้เวลาในการรักษาที่ยาวนาน และต่อเนื่อง หลายคนแทบจะขายที่ ขายบ้าน ขายรถ เพื่อนำเงินมารักษาตัวเองก็มี เพราะนอกจากค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ ตัวยาที่จะต้องใช้ในการรักษา ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
อีกทั้งประกันสุขภาพทั่วไปนั้น โดยมากจะไม่ครอบคลุมโรคร้ายแรงต่าง ๆ เหล่านี้ จนทำให้ผู้ที่ทำประกันสุขภาพ เกิดความน้อยอกน้อยใจว่า โรคมีตั้งมากตั้งมาย ทำไมถึงต้องมาเป็นโรคร้ายแรงที่ประกันสุขภาพที่คุณซื้อเอาไว้นั้น ไม่คุ้มครอง แล้วโรคร้ายแรงที่กล่าวถึงนี้มีอะไรบ้างล่ะ
- โรคมะเร็ง
- กลุ่มโรคหลอดเลือด
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- กล้ามเนื้อหัวใจตาย
- โรคไตวายเรื้อรัง
- โรคปอดอักเสบ
- โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
ซึ่งโรคต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นโรคร้ายแรงหลัก ๆ ที่คนไทยมีสถิติการเสียชีวิตสูงมากในแต่ละปี จนทำให้บริษัทประกันหลาย ๆ แห่งได้เปิดกรมธรรม์เกี่ยวกับการคุ้มครองโรคต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้น เพื่อเพิ่มการคุ้มครองที่ครอบคลุมให้กับผู้ที่กังวลหากเกิดความเสี่ยงเหล่านี้ โดยแต่ละบริษัท ก็จะมีเงื่อนไข และคุ้มครองโรคร้ายแรงเหล่านี้ แตกต่างกันออกไปไม่มากนัก ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อประกัน ควรจะศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ และดูโรคร้ายแรงที่บริษัทนั้นคุ้มครองให้ละเอียดถี่ถ้วน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ประกันสุขภาพ แบบนอนโรงพยาบาล แบบไหนคุ้มค่าที่สุด
เบี้ยประกันแพงตามความร้ายแรงของโรคหรือไม่?
อย่าให้เงินที่เราสะสมเอาไว้ จะต้องหมดไปเพราะการรักษาตัว
เนื่องจากประกันโรคร้ายแรงนั้น เป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองที่แยกออกมาจากการคุ้มครองสุขภาพทั่วไป ดังนั้นค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ 3,000 – 8,000 บาทต่อปี นับว่าถูกกว่าการคุ้มครองโรคทั่วไป ซึ่งในบางบริษัท ก็ยังสามารถชำระเป็นแบบรายเดือนได้อีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทนั้น ๆ นับว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวค่ะ
แต่เบี้ยประกันนั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อประกัน โดยเราจะสามารถแบ่งลักษณะของการจ่ายเบี้ยประกันได้เป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ เบี้ยประกันแบบคงที่ และเบี้ยประกันที่ปรับขึ้นตามอายุ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันโรคร้ายแรงใด ๆ นั้น การคำนวณค่าใช้จ่าย ว่าประกันของบริษัทไหนคุ้มค่ากับการจ่ายเบี้ยประกันมากที่สุด และจะไม่เป็นภาระให้เราเมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วยค่ะ
ซึ่งเบี้ยประกันนั้น มักจะแตกต่างกันออกไปตามไปเงื่อนไขของแต่ละบุคคล ทั้งในเรื่องเพศ อายุ และโรคประจำตัวที่มีอยู่เดิม รวมถึงวงเงินการคุ้มครองที่คุณต้องการ เพราะแน่นอนค่ะ หากคุณต้องการความคุ้มครองที่สูง เบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วย
ประกันโรคร้ายแรงมีกี่ประเภท
ณ ปัจจุบันประกันโรคร้ายแรงมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบหลัก ๆ คือ
- แบบดูแลค่ารักษาพยาบาล เป็นแผนประกันที่ครอบคลุมเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้นของโรคร้ายแรงที่อยู่ในสัญญา เมื่อถูกตรวจพบ โดยความคุ้มครองนั้นจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่กำหนดไว้ และจ่ายค่ารักษาตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น ตามเงื่อนไข และวงเงินของความคุ้มครอง
- แบบสัญญาแบบ “เจอ จ่าย จบ” ประกันลักษณะนี้ เมื่อถูกตรวจพบว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ประกันก็จะจ่ายเงินตามวงเงินความคุ้มครองที่คุณได้เลือกซื้อเอาไว้เต็มจำนวน ประกันประเภทนี้จะเหมาะสำหรับผุ้ที่ต้องการเงินทุนสำรอง และนำไปบริหารด้วยตนเอง เนื่องจากการรักษาโรคร้างแรงนั้น มักจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง แต่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ทำประกันชีวิตดีไหม ได้อะไรบ้าง เปรียบเทียบราคาทำประกันชีวิต
รูปแบบเสริมที่น่าสนใจ
บางบริษัทประกันสุขภาพจากโรคร้ายแรงหลาย ๆ บริษัท เล็งเห็นถึงการจ่ายเบี้ยประกันที่ทิ้งเปล่าในหลาย ๆ เคส เพราะโอกาสที่จะเป็นนั้น น้อยมาก ไม่เหมือนกับไข้หวัดทั่วไป จนอาจจะทำให้หลายคนตัดสินใจไม่เลือกซื้อประกันชนิดนี้ เพราะดูแล้วไม่คุ้มค่า บางคนกลับคิดว่าเป็นการแช่งให้ตัวเองเป็นโรคร้ายด้วยซ้ำไป จึงเกิดเงื่อนไขว่า หากคุณจ่ายเบี้ยไปในระยะหนึ่ง แล้วไม่เกิดโรคร้ายแรงตามสัญญา ก็จะมีการคืนเบี้ยประกันให้นั่นเอง
ตัวอย่างเงื่อนไข จุดเด่นประกันโรคร้ายแรง ของเมืองไทยประกันชีวิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ระยะเวลาการคุ้มครอง
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราจะต้องให้ความใส่ใจ ถึงเงื่อนไขระยะเวลาการคุ้มครอง และสามารถต่ออายุการรับประกันได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ประกันโรคร้ายแรงที่เราทำนั้น สามารถคุ้มครองจนถึงอายุเท่าไหร่ เนื่องจากอาการเจ็บป่วยของร่างกายนั้น ยิ่งอายุเยอะมากแค่ไหน ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ ก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว และการย้ายบริษัทประกันโรคร้ายแรงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ก็ดูจะเป็นเรื่องยาก หรือเบี้ยประกัน ก็อาจจะสูงขึ้นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น
เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เมื่อเรามีการวางแผนที่ดี
ยกตัวอย่างการเลือกต่อประกัน เช่น หากประกันโรคร้ายแรงที่ซื้อเอาไว้นั้นมีระยะเวลาความคุ้มครองถึงอายุ 60 ปี แต่ก็ยังสามารถต่ออายุสัญญาเพิ่มได้จนถึงอายุ 70 ปี ก็จะเป็นการทำประกันที่คุ้มค่ากับการจ่ายเบี้ยในแต่ละปีนั่นเองค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อประกันใด ๆ ก็แล้วแต่ พยายามตรวจดูเงื่อนไขให้ครอบคลุมก่อน จะดีที่สุดค่ะ
ตรวจสอบความคุ้มครองเพิ่มเติม
การจำกัดความของโรคร้ายแรงของแต่ละบริษัท ถึงแม้จะเหมือนกัน แต่ก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การที่คุณจะตรวจสอบว่า โรคร้ายแรงที่บริษัทนั้น ๆ คุณอาจจะต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ทางอ้อม หรือความคุ้มครองที่เสริมเพิ่มเติมจากการรักษา เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง
เช่นการชดเชยรายได้รายวันที่จะต้องสูญเสียไปเมื่อต้องทำการรักษาตัวในโรงพยาบาล การนำค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับตัวคุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ วิธีการทำต้องทำอย่างไร
ตรวจสอบเงื่อนไข และข้อยกเว้นต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน
การทำประกันมักจะมีเงื่อนไข และข้อยกเว้นกำกับเอาไว้อยู่เสมอ โดยเฉพาะการทำประกันเกี่ยวกับโรคร้ายแรงต่าง ๆ ดังนั้นคุณจะต้องใส่ใจในรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้เป็นพิเศษ เช่น หากคุ้มครองโรคมะเร็ง จะคุ้มครองมะเร็งที่เกิดขึ้นทั้งหมดหรือไม่ หรือแค่บางประเภทเท่านั้น เป็นต้น
ระยะเวลารอคอยของสัญญาก็เป็นอีกเรื่องที่คุณจะละเลยไม่ได้ ว่าหลังจากที่คุณทำประกันไปแล้วนั้น จะมีระยะเวลารอคอยความคุ้มครองยาวนาน แค่ไหน เช่น 60 – 90 วันเป็นต้น
การทำประกันโรคร้ายแรง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแบ่งเบาภาระที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะโรคภัยไข้เจ็บนั้น เราไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นเราก็ไม่ควรใช้ชีวิตอย่างประมาท การทำประกันทั้งสุขภาพทั่วไป ประกันโรคร้ายแรง หรือ ประกันภัยอื่น ๆ ก็จะมีส่วนช่วยเมื่อเกิดสิ่งที่นอกเหนือจากการวางแผนเอาไว้นั่นเอง
ที่มา : เมืองไทยประกันชีวิต
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!