ใครๆ ก็อยากให้น้ำหนักตัวที่พุ่งปรี๊ดระหว่างตั้งท้อง หายไปเร็วๆ ขอบอกเลยว่า ไม่ยากค่ะ! แต่คุณแม่ต้องตั้งใจให้ดี เห็นตัวอย่างได้จากคุณแม่ทาทา ยัง ที่ลดน้ำหนักลงได้กว่า 20 กิโลกรัม สิ่งที่เธอทำคือคุมอาหาร ให้นมลูก พร้อมกันนั้นก็ต้องเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ เรียกได้ว่าทั้งหน้าที่คุณแม่และงานที่รัดตัวขนาดนี้ เจ้าตัวยังสามารถลดน้ำหนักได้
คุณแม่ท่านอื่นๆ ก็ต้องไม่ท้อนะคะ และเพื่อให้คุณแม่มีแนวทางในการลดน้ำหนัก ขอแนะนำ 7 วิธีช่วยคุณแม่ลดน้ำหนักระหว่างให้นมลูก ต้องทำอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลย
1.คุณแม่หลังคลอดต้องไม่กดดันตัวเอง
ในช่วงแรกๆ ของคุณแม่หลังคลอด ร่างกายจะยังไม่เข้าที่ ขอให้คุณแม่ใจเย็นๆ ค่อยๆ ดูแลตัวเองตามที่คุณหมอแนะนำไปก่อน ทั้งนี้ อาจต้องใช้เวลาราวๆ 6 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น ในการปรับตัวทั้งคุณแม่และคุณลูก ช่วงนี้จึงต้องบำรุงร่างกายและเทความสนใจทั้งหมดไปที่ลูกน้อยเสียก่อน พอร่างกายคุณแม่เริ่มเข้าที่เข้าทาง ลูกน้อยเคยชินกับโลกใบนี้ คุณแม่ค่อยมาวางแผนในการลดน้ำหนักและออกกำลังกายอีกครั้ง
2.เลือกกินของว่างอย่างชาญฉลาด
เวลาที่หิว เป็นต้องนึกถึงของอ้วนๆ ก่อนเสมอ แต่ช้าก่อน! ก่อนจะหยิบเข้าปาก ขอให้คุณแม่ทบทวนอีกนิด ว่าสิ่งที่กำลังจะกินเข้าไปนั้น มีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน แทนที่จะเป็นขนมกรุบกรอบหรือของหวานๆ ลองเลือกทานข้าวโอ๊ตดูสิคะ เพราะข้าวโอ๊ตดีต่อคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือจะเลือกทานเป็นมื้อเช้าก็ได้ ซึ่งข้าวโอ๊ตนั้นดีต่อคุณแม่ให้นม ช่วยลดน้ำหนัก กินแล้วอิ่มนาน แถมยังทำให้ระดับอินซูลินในเลือดคงที่อีกด้วย
3.ตั้งมั่นในการลดน้ำหนัก
ถ้าคิดจะทำ ต้องทำให้สุด! การลดน้ำหนักให้ได้ผล ต้องมีการเตรียมการ ใช้การวางแผน เช่น ตั้งเป้าไว้เลยว่าจะทานผลไม้เยอะๆ ก็ซื้อผลไม้สดเตรียมไว้ในตู้เย็น หิวเมื่อไหร่ก็หยิบทานได้ทุกเมื่อ หรือทำอาหารไขมันต่ำ เน้นผักและโปรตีน โดยทำเป็นหม้อใหญ่ๆ เก็บไว้ทานได้นานๆ จะแช่ช่องฟรีซไว้ก็ได้ ถ้าคุณแม่มีกิจกรรมต้องเดินทางไปไหน ก่อนจะขับรถเตรียมของว่างที่ดีต่อสุขภาพไปด้วยเสมอ ตอนที่รถติดร่างกายจะได้ไม่โหย จนเผลอทานอาหารมื้อใหญ่นอกบ้าน
4.กินน้อยๆ แต่กินบ่อยๆ
การไม่กินอะไรเลยระหว่างมื้ออาหาร จะมีผลต่อร่างกายคุณแม่ให้นม โดยร่างกายจะดึงพลังงานสำรองมาใช้ ทำให้ระดับอินซูลินลดต่ำ มีผลต่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์ เกี่ยวโยงไปถึงฮอร์โมนโปรแลคติน ที่ควบคุมการสร้างน้ำนมในร่างกายคุณแม่ เรียกได้ว่ากระทบกันเป็นทอดๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ เวลาที่คุณแม่โหยและอยากอาหารมากๆ จะทำให้ไม่มีสติในการกิน เลือกกินสิ่งที่อยากกินแต่ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น คุณแม่ต้องแบ่งอาหารออกเป็น 6 มื้อต่อวัน และคำนวณตามแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวัน
5.คำนวณแคลอรี่ แต่ไม่ต้องเป๊ะ!
แคลอรี่ที่เหมาะสมในแต่ละวันของคุณแม่ให้นมคือ 1,800 แคลอรี่ อาจดูจะเยอะกว่าคนที่ต้องการไดเอตสักหน่อย แต่อย่าลืมว่า การกินอาหารทุกคำมีผลต่อน้ำนมแม่ จึงต้องควบคุมให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอเพื่อน้ำนมคุณภาพของคุณแม่ เพราะฉะนั้น คุณแม่ต้องเลือกทานอาหารที่เปี่ยมไปด้วยสารอาหาร ซึ่งมีคุณค่าต่อร่างกายและน้ำนม
6.อยากลดน้ำหนักก็ต้องออกกำลังกาย
ผ่านพ้น 6-8 สัปดาห์ ที่ร่างกายคุณแม่หลังคลอดเริ่มอยู่ตัว น้ำหนักที่เหลืออยู่และรอบเอวที่เห็นคือของจริง จากนี้จึงต้องวางแผนการออกกำลังกายอย่างจริงจัง อย่างแรกที่คุณแม่ต้องปฏิบัติคือการทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกาย สักครึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลาออกกำลังกาย ขอแนะนำพวกคาร์โบไฮเดรตจากพืช เช่น มันฝรั่งอบสักครึ่งผล ก่อนออกไปวิ่ง วิธีนี้นอกจากจะให้พลังงานแล้วยังช่วยให้น้ำนมแม่ไหลได้ดีไม่มีปัญหา
7.ทำไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด
ร่างกายของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนร่างกายเผาผลาญได้เร็ว หรือลดน้ำหนักได้ไว แต่คุณแม่อีกท่านออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่ลดลงเลย หากมานั่งเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ก็ต้องท้อใจเป็นธรรมดา… ท้อได้ค่ะ แต่ห้ามถอยเด็ดขาด สิ่งที่ควรทำคือ ทำต่อไป ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ทุกอย่างต้องทำเรื่อยๆ แม้ว่าคุณแม่ให้นมจะลดน้ำหนักได้แค่สัปดาห์ละ 1 ปอนด์ (ราวๆ 0.453592 กิโลกรัม)
อย่างที่บอกไว้ว่า ร่างกายของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน การลดน้ำหนักจึงต้องปรับให้ยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์ อย่าลืมว่า ตราบใดที่กินน้อย ออกกำลังกายเยอะ ก็ยังทำให้น้ำหนักลดได้อยู่ และเพื่อให้คุณแม่ไม่ล้มเลิกการลดน้ำหนักไปเสียก่อน คุณแม่สามารถทานสิ่งที่ชอบได้แม้ว่าแคลอรี่จะเยอะกว่าที่คำนวณไว้ ขอแค่คุณแม่ออกกำลังกายมากกว่าเดิม ยังไงก็ลดได้อยู่แล้ว
ที่มา : thebump.com และ Kapook.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
น้ำขิง ช่วยแม่ลดน้ำหนัก แถมเพิ่มน้ำนมให้ลูก
ผลวิจัยชี้ : ลูกดูดนมแม่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ลดน้ำหนัก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!