ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ อันตรายไหม ทำอย่างไรให้เพิ่มน้ำหนักลูกในท้อง

ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ลูกในท้องน้ำหนักน้อย ลูกในท้องตัวเล็ก อันตรายไหม อยากให้ลูกตัวใหญ่ สมบูรณ์แข็งแรง คนท้องต้องทำอย่างไรบ้าง
ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ทำอย่างไรดี
ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ คงเป็นเรื่องที่แม่ท้องหนักใจมาก โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายใกล้คลอดต้องรีบทำน้ำหนักโดยด่วน กลัวลูกจะตัวเล็ก ไม่สบายบ่อย ป่วยง่าย ไม่แข็งแรง แล้วแบบนี้คนท้องควรทำอย่างไรให้เพิ่มน้ำหนักลูกน้อยในครรภ์ก่อนถึงกำหนดคลอด
คนท้องควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ถึงจะดี
โดยปกติแล้ว คนท้องควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5 กิโลกรัมใน 3 เดือนแรก สำหรับคุณแม่บางคนที่น้ำหนักตัวไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย เพราะแพ้ท้องหนักมาก กินอะไรก็ไม่ได้ อาเจียนออกมาหมด พยายามจะกินเพื่อลูกหลายต่อหลายครั้ง แต่แม่ไม่ไหวกินได้แค่นี้จริงๆ
สำหรับน้ำหนักตัวโดยรวมของหญิงตั้งครรภ์ควรเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 กิโลกรัม หากน้ำหนักตัวคุณแม่เพิ่มขึ้นไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เป็นไปได้สูงว่าน้ำหนักตัวของเด็กทารกแรกเกิดจะมีน้ำหนักต่ำกว่าปกติ หรือทารกน้ำหนักน้อย ตัวเล็กผิดปกตินั่นเอง ในทางตรงกันข้ามหากคุณแม่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป จะทำให้คุณแม่คลอดลำบาก เหนื่อยง่าย ปวดหลังมากขึ้น เส้นเลือดขอดมากขึ้น และทำให้แผลผ่าตัดติดช้า เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดได้ง่ายค่ะ ดังนั้น คนท้องควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ดังนี้
- ไตรมาสแรก ควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1-2 กิโลกรัม
- ไตรมาสที่สอง ช่วงอายุ 3-8 เดือน น้ำหนักจะเพิ่มโดยเฉลี่ย 1/2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์
- ไตรมาสที่สาม น้ำหนักจะคงที่หรือลดลงเล็กน้อยประมาณ 1/2 กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นเพียงเพิ่มขึ้นเพียง 2-3 กิโลกรัม

ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ อันตรายไหม
คนท้องน้ำหนักไม่ขึ้นแค่ไหนต้องไปหาหมอ
ในกรณีที่คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 2-4 เดือน แล้วน้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้นเลย หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ในช่วงไตรมาสที่สอง หรือมีน้ำหนักเพิ่มมากกว่า 1/2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ในช่วงไตรมาสที่สาม สัญญาณเหล่านี้เริ่มอันตราย ให้คุณแม่ไปพบแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะผู้ที่นิยมกินอาหารรสจัดหรือกินบ่อยเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์ตัวเล็กมากกว่าเกณฑ์
น้ำหนักของคนท้องมาจากไหนบ้าง
- น้ำหนักตัวของคุณแม่ 10 – 12 กิโลกรัม
- น้ำหนักตัวทารกในครรภ์ 3000 กรัม
- น้ำหนักรก 500- 700 กรัม
- น้ำหนักน้ำหล่อเด็ก 1000 กรัม
- เต้านม 300-500 กรัม
- ปริมาณเลือดที่เพิ่ม 1000 กรัม
- ปริมาณน้ำในร่างกายแม่ 1500 กัม
- ไขมันที่สะสมในตัวแม่ 3000 กรัม

ทำอย่างไรให้เพิ่มน้ำหนักลูกในท้อง
วิธีเพิ่มน้ำหนักลูกในท้อง
- ต้องนอนพัผ่อนกเยอะๆ เพราะการพักผ่อนจะช่วยให้มีเลือดสูบฉีดได้ดี หากแม่ทำงานเยอะ ออกแรงเยอะ เลือดก็ต้องไปเลี้ยงส่วนอื่นๆ ได้น้อยลง ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงลูกในท้องไม่เพียงพอด้วยค่ะ ดังนั้น คุณแม่ควรนอนกลางคืนอย่างน้อย 8 ชม. และช่วงกลางวันประมาณ 1-2 ชม. ค่ะ
- เลิกพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อลูกในท้อง ได้แก่ เลิกสูบบุหรี่ เลิกกินเหล้า เลิกสารเสพติด ยาบางชนิด
- อย่าเครียด เพราะคววามเครียดจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกในท้องตัวเล็กกว่าปกติ
- ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ อย่าอด และทานให้ถูกหลักโภชนาการถึงจะดีที่สุดค่ะ หากกินอาหารไม่ได้เลย แนะนำให้ค่อยๆ กินทีละน้อย กินเท่าที่กินได้ แต่กินบ่อยๆ เพื่อให้ได้ปริมาณตามที่เหมาะสม
- เพิ่มปริมาณอาารที่ให้พลังงานมากขึ้น เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง เผือก และมัน เป็นตัน
ลูกในครรภ์น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์อันตรายไหม
ลูกน้อยในครรภ์ตัวเล็กจะอันตรายหรือไม่ ขึ้นอยู่ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรมากกว่าค่ะ โดยสาเหตุหลักๆ ก็มาจาก
- มาจากตัวคุณแม่: คุณแม่ทานอาหารไม่เพียงพอ หรือขาดสารอาหาร หรือมาจากโรคประจำตัว หรือมาจากพฤติกรรมของคุณแม่บางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ พฤติกรรมแบบนี้นอกจาทำให้ลูกในท้องโตช้าแล้ว ยังเสี่ยงต่อลูกพิการอีกด้วย
- มาจากโครโมโซม: ความผิดผกติของโครโมโซมของหญิงตั้งครรภ์นี้เองที่ทำให้ทารกในครรภ์โตช้า หรือแม้แต่การติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ ซึ่งอาจทำให้ทารกพิการ หรือเสียชีวิตอได้
- มาจากรกเสื่อม: สำหรับสาเหตุนี่อาจทำให้เด็กได้รับสารอาหาร และปริมาณออกซิเจนไม่เต็มที่ จึงส่งผลให้ลูกในท้องตัวเล็ก ซึ่งถ้าเกิดจากสาเหตุนี้เมื่อลูกคลอดออกมาก็มีโอกาสเติบโตได้ดีเป็นปกติค่ะ
ที่มา: หมอชาวบ้าน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
กินกล้วยแฝดได้ลูกแฝดจริงหรือ ความเชื่อโบราณที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้
ท่ายืดกล้ามเนื้อเตรียมคลอด คนท้องเตรียมฝึกเอาไว้ จะได้คลอดลูกง่ายขึ้น
4 ท่าโยคะสำหรับคนท้อง ช่วยเสริมทารกกลับหัว ให้อยู่ในท่าเตรียมคลอด