ปกติแล้วเมื่อเด็กๆ เริ่มไปโรงเรียน การติดหวัดเพื่อนๆ นับว่าเป็นเรื่องธรรมดานะคะ ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค บอกไว้ว่า ร่างกายจฟื้นฟูหายจากอาการไม่สบายจริงๆ ภายใน 7-10 วัน
แต่เด็กๆ ต้องใช้เวลานานกว่านั้นค่ะ และที่แน่ๆ คือ เด็กๆ ติดเชื้อโรคง่ายกว่าผู้ใหญ่ 6-10 เท่าค่ะ และคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็จะหาซื้อยามาให้ลูกกินเอง แต่การใช้ยา Over The Counter Medications หรือ OTC (คือยาที่ซื้อหาได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากคุณหมอ อย่างยาแก้ไอ ยาแก้ไข้) ไม่ควรใช้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี
เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก
เมื่อเด็กๆ ต้องกินยาที่อยู่ในกลุ่มของ OTC นั้น การใช้มาตรฐานเดียวกับการกะขนาดสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการให้เด็กๆ กินในปริมาณที่น้อยกว่าตามอายุหรือตามน้ำหนักนั้นก็ทำไม่ได้เช่นกันค่ะ แม้ว่าจะมีอาการเดียวกันกับผู้ใหญ่ก็ตาม เพราะยาประเภทนี้ไม่มีการรับรองความปลอดภัยว่าสามารถใช้กับเด็กๆ ได้
ซึ่งในปี 2008 องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาหรือ FDA ห้ามไม่ให้ใช่ยา OTC ที่ช่วยแก้ไอ ลดไข้ กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ และตกลงกับบริษัทผู้ผลิตยาว่าจะติดป้ายห้ามยานี้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ขวบ
ไม่ใช่แค่เรื่องนิดหน่อย แต่ทำให้เสียชีวิตได้
มีรายงานการเสียชีวิตของเด็กจำนวน 100 คน ที่ใช้ยาในกลุ่ม OTC ทั้งที่เกินขนาด และให้กินบ่อยเกินไป การวัดตวงปริมาณมาณยาที่มากเกินไป และการออกฤทธิ์ที่ส่งผลเสียต่อร่างกายของเด็กๆ
นอกจากนี้ยังมีตัวยาโคเดอีนที่ผสมอยู่ในยาแก้ไอ ซึ่งจะออกฤทธิ์คล้ายมอฟีน ซึ่งอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของเด็กๆ สามารถทำให้หยุดหายใจได้ แม้จะเป็นการใช้ในผู้ใหญ่ก็ต้องระมัดระวังเช่นกันค่ะ
ไม่ง้อยาก็ได้
การรักษาทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า อย่างเช่น การหยดหรือสเปรย์จมูก การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ควบคุมอุณหภูมิและความชื่นในบ้านหรือในห้องนอน ก็ช่วยในเรื่องของอาการคัดจมูกได้เป็นอย่างดีค่ะ หากลูกมีไข้ หายาลดไข้ที่มีตัวยา Acetaminophen หรือ Ibuprofen ดูค่ะ
ถ้าลูกไอมาก ลองให้จิบน้ำผึ้งทีละนิด ก็ช่วยได้ค่ะ แถมยังปลอดภัยกว่ายาแก้ไอที่ขายอยู่ทั่วไปด้วย สิ่งสำคัญคือการพักผ่อนนอนหลับให้มากๆ และหยุดเรียนจนกว่าจะหาย เพื่อไม่ให้เชื้อโรคไปติดเพื่อนๆ แต่ถ้าหากลูกมีอาการอื่นๆ มากกว่านี้ ก็ควรพาลูกไปหากุมารแพทย์นะคะ
ที่มา CNN
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ลูกเสี่ยงตาย เพราะในยาเเก้ไอมี..
โรคติดต่อที่มักพบในโรงเรียนอนุบาล

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!