รองเท้าเด็ก อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อลูกน้อยเป็นอย่างมาก ถึงแม้ในช่วงเล็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่จะอุ้มหรือให้ลูกได้นอนอยู่ในรถเข็น แต่แค่เพียงไม่กี่เดือนนิ้วเท้าของลูกควรจะได้รับการสวมใส่รองเท้า เพื่อย่างก้าวที่สำคัญของเขา การที่คุณพ่อคุณแม่จะ เลือกรองเท้าหัดเดินให้ลูก รองเท้าคู่แรก เลือกผิดเท่ากับปิดกั้นพัฒนาการ ดังนั้นเราควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับเท้าของลูกน้อย เพื่อที่จะช่วยให้คุณแม่ได้เลือก รองเท้าคู่แรกของลูก ได้ถูกต้อง ในขนาดที่พอดี เหมาะกับการก้าวเดินเพื่อเสริมพัฒนาการที่ดีให้กับลูกน้อยได้
ควรซื้อรองเท้าให้ลูกเมื่อใด ?
สำหรับเด็กในวัยแรกเกิด ไปจนถึงในช่วงวัยหัดคลานอาจจะยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อรองเท้าให้มากสักเท่าไหร่ เพียงแค่สวมถุงเท้าสำหรับเด็กให้กับลูก เพื่อมอบความอบอุ่นแก่เท้าของทารกก็เพียงพอ แต่หากลูกอยู่ในวัยเกาะยืน เกาะเดิน ควรจะซื้อรองเท้าไว้สำหรับให้ลูกใส่ออกนอกบ้านก็ได้ หรือจะรอจนเมื่อลูกเริ่มยืนหรือเดินได้ แล้วค่อยเลือกซื้อรองเท้าคู่แรกให้กับลูก แต่ถ้าหัดเดินในบ้าน แนะนำให้เดินเท้าเปล่าจะดีที่สุด เพราะลูกจะได้ฝึกเรียนรู้ผิวสัมผัสของพื้นที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้ลูกน้อยได้พัฒนากล้ามเนื้อเท้า และนิ้วเท้าได้อีกด้วย
เพราะเท้า คือ พื้นฐานสำคัญของการเจริญเติบโตของเด็ก หลังจากที่เด็กเริ่มสังเกต ด้วยการมอง การฟัง พวกเขาจะเริ่มเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยการเดินไปสัมผัส หากเด็กมีสุขภาพเท้าที่ดี มีขาที่แข็งแรง ลูกก็พร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกกว้าง ฉะนั้น รองเท้าหัดเดิน สำหรับเด็กในวัยหัดเดิน จึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ ไม่ควรมองข้าม ต้องพิถีพิถัน ในการเลือกสรรให้เหมาะกับลูกน้อยของคุณแม่ ให้มากที่สุด ส่วนใหญ่เด็กจะเริ่มหัดเดินในช่วงอายุ 10 – 12 เดือน ซึ่งอาจยังไม่ต้องรีบใช้ รองเท้าหัดเดิน โดยเฉพาะขณะอยู่ในบ้าน ควรเดินเท้าเปล่า ด้วยเหตุผล คือ
- เด็กจะได้ฝึกลงน้ำหนักเท้า และการทรงตัวที่ถูกต้อง
- ทำให้รู้สึกถึงผิวสัมผัสของพื้น ได้พัฒนากล้ามเนื้อเท้า และ นิ้วเท้า
- เพื่อให้เท้าไม่ถูกจำกัดการเคลื่อนไหว และ จำกัดการเจริญเติบโต
รองเท้าคู่แรกของลูก เลือกผิด เท่ากับไปปิดกั้นพัฒนาการของลูก เรื่องจำเป็นที่แม่ควรรู้
*ดร. เจน แอนเดอเซน ได้กล่าวไว้ว่า “ก่อนที่ทารกเริ่มต้นที่จะเดินนั้นรองเท้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับให้ความอบอุ่นเท่านั้น” แต่หลังจากที่เจ้าตัวเล็กเข้าสู่วัยเริ่มหัดเดิน รองเท้าคือสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องเท้าเล็ก ๆ และการต่อยอดสู่พัฒนาการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วของลูกในอนาคต การมองหารองเท้าให้ลูกเพื่อก้าวแรกจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย ทารกเพิ่งหัดเดินหรือเจ้าตัวเล็กวัยเตาะแตะที่ชอบเดินควรได้สวมใส่รองเท้าได้อย่างพอดีและสบายสำหรับการเริ่มต้น
บทความน่าสนใจ : 10 รองเท้าเด็ก แบบไหนดี? วิธีเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับลูกน้อย
เลือกรองเท้าหัดเดินให้ลูก ควรเลือกขนาดให้พอดี
ขนาดรองเท้าของเด็กนั้นอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อและผู้ผลิต และบางครั้งป้ายขนาดของรองเท้าที่แสดงเป็นช่วงอายุนั้นจะมีช่วงระยะที่ค่อนข้างกว้าง (ตัวอย่างเช่น 6 – 12 เดือน หรือ 12 – 18 เดือน) การวัดความยาวของคุณหนูจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย
วัสดุของรองเท้าแบบไหนดีที่สุด ?
แม้ว่าลูกน้อยของเราจะยังเด็กไม่ใช่วัยรุ่น แต่ต่อมเหงื่อของลูกน้อยกำลังพัฒนาอย่างมาก ซึ่งทำให้เท้าของเด็กมีเหงื่อออกเยอะ รองเท้าที่ทำเคลือบพลาสติกหรือใช้วัสดุสังเคราะห์ จะปิดทางระบายอากาศทำให้อับชื้น แต่ถ้าดีที่สุดควรเป็นรองเท้าหนัง ผ้าหรือผ้าใบ ที่ผิวของมันจะระบายอากาศได้ ส่วนพื้นรองเท้าควรเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและมีดอกยางที่ช่วยในการยึดเกาะพื้น
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ารองเท้าสวมไม่สบาย ?
เพราะเท้าของเด็กยืดหยุ่นมากพอ ที่จะสามารถบีบเข้ากับรูปทรงของรองเท้าได้ โดยที่เด็กจะไม่บ่นหรืองอแง แต่การที่คุณพ่อคุณแม่จะรู้ได้ว่า รองเท้าที่ลูกใส่แล้วจะรู้สึกไม่สบายนั้น อาจต้องให้เด็กลองเดินไปทั่วห้องและให้สังเกตเมื่อตอนถอดรองเท้าออก หากเห็นรอยเส้นสีแดงหรือรอยกด และสัญญาณอื่น ๆ อย่างเช่น เด็กจะพยามถอดรองเท้าออกหรือเดินด้วยท่าทางแปลก นั่นเท่ากับว่ารองเท้าที่ซื้อมาให้นั้นไม่สบาย ที่สำคัญทิปสำคัญในการเลือกซื้อรองเท้าลูก ควรจะซื้อตอนบ่ายดีกว่าตอนเช้า เนื่องจากเท้าของเด็กจะขยายตัวในตอนกลางวัน
วิธีวัดความยาวเท้าลูกน้อย
โดยให้เจ้าตัวเล็กไปยืนบนกระดาษเพื่อได้ความยาวเท้าจริงจากการลงน้ำหนักเท้า และใช้ปากกาขีดเส้นตรงที่หัวนิ้วเท้าและส้นเท้า วัดด้วยสายวัดหรือไม้บรรทัดเพื่อให้ได้ขนาดความยาวเท้าที่แท้จริง และเลือกไซส์รองเท้าให้ลูกโดยเลือกความยาวรองเท้าที่ยาวกว่าเท้าน้องจริงในปัจจุบันประมาณ 1.0 -1.5 ซม เพื่อให้ลูกน้อยใส่ได้รองเท้าที่สบาย พอดี ไม่คับหรือหลวมเกินไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีสอนทารกให้เดินได้เร็ว วิธีสอนลูกให้เรียนรู้เรื่องการเดินให้ได้เร็วที่สุด
- ขอบคุณภาพประกอบ :www.oksecondhand.com
กฎทอง 2 ข้อสำหรับการเลือกรองเท้าที่พอดีสำหรับลูก
1. ไปซื้อรองเท้าด้วยกัน
ให้ลูกได้ใส่ถุงเท้าแล้วพาไปร้านรองเท้าเพื่อให้เขาได้ลองกับรองเท้าคู่ใหม่ และควรจะไปเลือกซื้อในช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงที่เท้าจะขยายมากที่สุดในช่วงวัน
2. อย่าไปสนใจแฟชั่น
รองเท้าสำหรับลูกน้อยหรือเจ้าตัวเล็กวัยเตาะแตะอาจจะดูน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะหนีบ รองเท้ามีส้นมีเสียง หรือรองเท้าหุ้มส้นแบบต่าง ๆ แต่รองเท้าแฟชั่นเหล่านี้อาจทำให้ลูกเดินได้ยาก เพราะอาจมีการบีบรัดที่แน่นและทำให้เกิดปัญหากับรูปแบบการเดินและพัฒนาการกล้ามเนื้อของลูกได้
ในร้านรองเท้านั้นจะมีรองเท้าสำหรับทารกและเด็กมากมายหลายขนาด แต่การเลือกรองเท้าคู่แรกหรือคู่ต่อ ๆ ไปให้เหมาะสมกับลูกนั้น ควรหาคู่ที่มีขนาดพอดี โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงขนาดตามอายุหรือเบอร์ที่แปะอยู่บนรองเท้า เพื่อการสวมสบายของเจ้าตัวน้อยและได้ก้าวย่างอย่างมั่นคงและมั่นใจนะคะ
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใส่รองเท้าของเด็ก
จงจำไว้เสมอว่า กระดูกเท้าลูกน้อยของเราในวัยหัดเดินนั้นอยู่ในช่วงของการพัฒนา โดยการเปลี่ยนรองเท้าแต่ละครั้งควรเพิ่มขนาดอีก 5 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าระหว่างหัวแม่เท้ากับส้นเท้า ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนรองเท้าของลูกคุณได้ทุกเมื่อ เมื่อพบปัญหาดังต่อไปนี้
- รอยแดงบนผิวหนัง เมื่อคุณพบรอยแดงบนผิวหนัง หรือผื่นระหว่างนิ้วเท้า ฝ่าเท้า หรือบริเวณนิ้วเท้า
- อาการอักเสบ การที่ลูกสวมใส่รองเท้าที่แน่นและคับจนเกินไป ควรระวังเรื่องของการอักเสบ หรือการเปลี่ยนสีของเล็บเท้า
- นิ้วเท้าผิดรูป ตรวจสอบให้แน่ใจว่านิ้วเท้าของพวกเขาอยู่ในแนวเดียวกัน และไม่โค้งกลับ หรือมีรูปร่างที่ผิดเพี้ยนไป
- สังเกตท่าทาง รวมถึงท่ายืน หรือท่าเดินของเด็ก ๆ โดยให้ระวังเท้าของลูกคุณที่จะหันเข้า หรือหันออกจากกันมากเกินไป
การเลือกรองเท้าที่ดี จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่สำคัญของลูกน้อยได้ เพราะจะทำให้การเดินมีความมั่นคง ปลอดภัย แถมยังช่วยดูแลปกป้องอวัยวะสำคัญอย่างเท้า นอกจากนี้การเลือกรองเท้าคู่แรกอาจเลือกลาย รูปแบบ และสีที่เด็ก ๆ โปรดปราน จะได้ทำให้ลูกอยากสวมใส่รองเท้า และ การเดินของหนูน้อยก็จะเป็นก้าวย่างแห่งความสุขด้วยค่ะ
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
วิธีทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบลูกให้ขาวรับเปิดเทอม
อย่าลืม! ตรวจสอบรองเท้าลูกทุกครั้งก่อนสวมใส่! (มีคลิป)
10 รองเท้าเด็ก แบบไหนดี? วิธีเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับลูกน้อย
ที่มา : Care
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!