X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ช่องคลอดขยายตัว 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 89

บทความ 5 นาที
ช่องคลอดขยายตัว 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 89

สำหรับคุณแม่ที่ผ่านการคลอดลูกน้อยด้วยวิธีธรรมชาติ ปัญหาหนึ่งที่มักทำให้คุณแม่รู้สึกไม่มั่นใจก็คงจะหนีไม่พ้น คือ ช่องคลอดขยายตัว ความไม่ฟิตกระชับของช่องคลอด เป็นผลทำให้เกิดปัญหา ที่ทำให้คุณแม่รู้สึกอายมากกว่าเดิม ก็คือปัญหา จิ๋มตด หรือภาวะลมออกมาจากช่องคลอด ที่มักเกิดขึ้นในเวลาที่ไม่คาดคิด เช่นขณะที่ออกกำลังกาย หรือแม้แต่ขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่อาการดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไร  ช่องคลอดขยายตัว แล้วจะสามารถกลับมาฟิตเหมือนเดิมได้อีกหรือไม่ มาเรียนรู้ไปพร้อมกัน ๆ ค่ะ

การคลอดลูกทำให้ช่องคลอดขยายใหญ่ขึ้นถึงห้าเท่า
ปรกติแล้วช่องคลอดจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว แต่เมื่อถึงเวลาคลอดลูก มันสามารถจะยืดออกไปได้ใหญ่กว่าเดิมจนเส้นผ่าศูนย์กลางอาจมีขนาดตั้งแต่ 4 - 5 นิ้ว ทั้งนี้เพื่อให้มีขนาดใหญ่พอที่เด็กจะคลอดออกมาได้ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะหลังคลอดประมาณหกสัปดาห์ ช่องคลอดก็จะหดตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ช่องคลอดขยายตัว

ออกกำลังเป็นผลดี
การออกกำลังสามารถช่วยรักษาช่องคลอดมีสุขภาพดีได้  "การฝึกขมิบ กล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดที่เรียกว่า Kegel Exercise จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งแรง กล้ามเนื้อส่วนนั้น คือกล้ามเนื้อที่ช่วยให้คุณกลั้นปัสสาวะ" หากฝึกขมิบกล้ามเนื้อบ่อย ๆ นานประมาณแค่สอง หรือสามเดือน คุณก็จะเห็นผล ช่องคลอดของคุณจะกระชับขึ้น 

 

การมีกลิ่นเป็นเรื่องปรกติ

ช่องคลอดที่มีสุขภาพเป็นปรกติจะมีกลิ่นเล็กน้อย ทั้งนี้กลิ่นจะเป็นแบบไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขึ้นอยู่กับอาหารที่รับประทาน ขึ้นอยู่กับสารเคมีในร่างกาย หรือขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในช่วงไหน ของรอบวงจรประจำเดือน ของบางสิ่งอาจทำให้ กลิ่นในช่องคลอดแรงขึ้นได้ เช่น การมีเหงื่ออกเยอะ ๆ กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงปรารถนาได้

“การขมิบ” เป็นวิธีหนึ่งที่จะเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้กระดูกหัวหน่าว ทำให้จุดซ่อนเร้นมีความกระชับขึ้น แม้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอควรกว่าจะเห็นผล แต่ก็เป็นวิธีแรก ๆ ที่สาวหลายคนเลือกปฏิบัติกัน เพราะสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และทำได้ทั้งท่านั่ง นอน หรือยืน

คำตอบของสูตินรีแพทย์เจ้าประจำทำให้เราสบายใจขึ้น และเผยสาเหตุเดียว ที่ทำให้ช่องคลอดหลวม มีอย่างเดียว คือ การคลอดบุตรทางช่องคลอดตามธรรมชาติ เพราะช่องคลอดอาจจะสูญเสียความสามารถในการบีบรัดตัว

หลายคนจึงพึ่งหมอสูติฯทำรีแพร์ (Repair) ยอมเสียตังค์เป็นพันเป็นหมื่นไปทำสาว ทว่าการทำรีแพร์นั้น เป็นการเย็บผนังช่องคลอดให้ตึงเท่านั้นนะจ๊ะ ขณะที่กล้ามเนื้อภายในช่องคลอดโดยรอบยังหลวมอยู่ หมายความว่าช่องคลอดก็จะไม่ได้มีแรงพอที่จะบีบรัด…

 

ช่องคลอดขยายตัว

ขมิบ ด้วยตัวเองเท่านั้น เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด

ตามประวัติ คุณหมอสูติฯ Kegel เป็นผู้คิดค้นเทคนิคขมิบเมื่อ 50 ปีก่อน เพื่อรักษาผู้ป่วยหญิงที่มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ แต่ผลออกมาได้สองเด้ง นอกจากช่วยรักษาอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ให้ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้คนไข้มีชีวิตเพศสัมพันธ์ที่ดีขึ้นด้วย คนไข้กลับมาเล่าว่าสามีได้รู้สึกรับสัมผัสได้ยอดมาก ส่วนตัวเองก็รู้สึกถึงจุดสุดยอดได้เยี่ยมกว่าเดิม

เทคนิคนี้จึงได้รับการขนานนามว่า Kegel exercise

ขมิบโดยความหมาย หมายถึง การทำให้ช่องทวารหนัก ทวารเบาเม้มไว้ การเม้มหรือขมิบโดยปกติก็มี หรือเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ที่ต้องฝึกก็เพื่อให้สามารถควบคุมได้ตามที่เราต้องการ เช่น ความแรง ความนาน จำนวนครั้ง

จากบทความของ นพ.รุ่งโรจน์ ตรีนิติ อธิบายความหมายไว้ ท่านบอกชื่อกล้ามเนื้อของเราที่ใช้ในการขมิบด้วยค่ะ

การขมิบต้องอาศัยกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่เรียกว่า ชุดกล้ามเนื้อ ซึ่งประกอบด้วยกล้ามเนื้อย่อย ๆ อีกหลายชิ้น เช่น กล้ามเนื้อ pubococcigeous, กล้ามเนื้อ puborectalis แต่กล้ามเนื้อหลักที่ใช้งานคือ กล้ามเนื้อ pubococcigeous หรือเรียกย่อ ๆ ว่า PC บางคนจึงเรียกการออกกำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานว่า PC exercise หรือ pelvic floor exercise

 

เอาล่ะ ต่อไปนี้เรามาศึกษาวิธีการออกกำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน หรือเรียกง่ายๆ ว่า มาฝึกขมิบกันค่ะ

 How to ขมิบ

  1. ขมิบหรือเกร็งกล้ามเนื้อไว้ นับหนึ่งถึงสามแล้วปล่อย หายใจเข้าออกตามปกติ
  2. เกร็งกล้ามเนื้อขณะสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามเกร็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะการหายใจเข้า โดยจะต้องระวังอย่าเผลอเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องตามไปด้วย
  3. ขมิบแล้วปล่อย ขมิบแล้วปล่อยสลับกันไป ทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้พร้อมกับหายใจเข้าตามปกติ
  4. ออกแรงเบ่งให้เหมือนว่ากำลังพยายามดันอะไรบางอย่างออกจากช่องคลอด หรือกำลังรีบฉี่ให้หมดเร็ว ๆ ตามปกติคนมักกลั้นหายใจเวลาทำแบบนี้ แต่ตามหลักการ Kegel exercise ต้องพยายามหายใจตามปกติให้ได้

ช่องคลอดขยายตัว

ขมิบให้ได้ผลดี คุณต้องมีวินัย…

  • ความแรงของการขมิบ ให้กล้ามเนื้อบริเวณก้น ท่อปัสสาวะ และช่องคลอด การหดรัดตัวอยู่ในระดับปานกลาง โดยสามารถ สั่ง ให้ขมิบ หรือหยุดขมิบได้
  • การปฏิบัติมิใช่แค่ขมิบแล้วคลายทันที แต่ต้องทำเหมือนคนเล่นกล้าม คือ ขมิบและเกร็งไว้ราว 10 วินาที (นับ 1 - 10) แล้วค่อยคลาย อย่างนี้เรียกว่า 1 ครั้ง
  • จำนวนครั้ง ควรทำให้ได้ 6 - 10 ครั้งต่อชุด และฝึกอย่างน้อยวันละ 6 - 10 ชุด แต่จะขมิบวันละกี่ชุดก็ได้ ไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งต่อวันยิ่งดี แต่ไม่ต้องทำรวดเดียวจบ เสนอให้แบ่งเป็นหลังอาหารสามเวลา เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เพิ่มรอบดึกได้
  • การฝึกขมิบช่วงแรก ๆ ให้เริ่มวันละน้อย ๆ ครั้ง เพราะทำใหม่ ๆ จะเหนื่อยง่าย เดี๋ยวจะหมดแรงเสียก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวนครั้งขึ้นเรื่อย ๆ แนะนำว่ายิ่งทำมากเท่าไร ก็ยิ่งได้ผลดีเท่านั้น
  • การฝึกขมิบควรทำเป็นคอร์ส ๆ ละ 1 - 3 เดือน ซึ่งการขมิบจะได้ผล และมีประสิทธิภาพจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ค่ะ

 

ขณะขมิบ ไม่ควร…

  • ไม่ควรเกร็งกล้ามเนื้อหน้าอก และกลั้นหายใจขณะฝึก ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
  • ไม่ควรเกร็งกล้ามเนื้อท้อง และกล้ามเนื้อหลังขณะฝึก ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการปวดท้อง และปวดหลัง
  • ไม่ควรขมิบขณะที่ปวดปัสสาวะมาก ๆ เพราะการกลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ตอนที่กระเพาะปัสสาวะเต็ม จะทำให้ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ได้

ขมิบไปเถอะค่ะไม่ว่าจะเป็นสาววัยใด แม้แต่สาวรุ่นอายุน้อย เพราะจะเป็นประโยชน์ทีเดียวสำหรับสตรีที่ยังไม่เคยมีบุตร และสตรีที่ผ่านการมีบุตรแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว นอกจากจะช่วยให้ชีวิตรักการมีเพศสัมพันธ์ของคุณแฮปปี้ขึ้น ยังช่วยป้องกันเรื่องการหย่อนตัวของมดลูก ทวารหนัก และกระเพาะปัสสาวะในระยะยาว ดีต่อสุขภาพภายในของหญิงเราอีกด้วยนะ

บทความจากพันธมิตร
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
เตรียมความพร้อมก่อนกลับไปทำงานของคุณแม่นักปั๊มฉบับ Working Mom
เตรียมความพร้อมก่อนกลับไปทำงานของคุณแม่นักปั๊มฉบับ Working Mom
ทำความรู้จัก NAN GOLD HA3 เจ้าของรางวัล Parents’ Choice Awards Best Hypoallergenic Formula Milk จากเวที theAsianparent Awards 2022
ทำความรู้จัก NAN GOLD HA3 เจ้าของรางวัล Parents’ Choice Awards Best Hypoallergenic Formula Milk จากเวที theAsianparent Awards 2022

ที่มา : (1) , (2) , (3)

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

10 อาหารกระชับช่องคลอด ช่วยน้องสาวให้กลับมาฟิต หอมหวานน่ากิน! 

วิธีขมิบ ขมิบช่องคลอด ทําอย่างไร การขมิบช่องคลอดหลังคลอด ออกกำลังกายน้องสาว ขมิบน้องสาวให้ฟิต

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

ammy

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • ช่องคลอดขยายตัว 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 89
แชร์ :
  • 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 20 ตารางให้นมลูก

    100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 20 ตารางให้นมลูก

  • 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 4 การทำความสะอาดร่างกายคุณแม่

    100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 4 การทำความสะอาดร่างกายคุณแม่

  • ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

    ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

  • 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 20 ตารางให้นมลูก

    100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 20 ตารางให้นมลูก

  • 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 4 การทำความสะอาดร่างกายคุณแม่

    100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 4 การทำความสะอาดร่างกายคุณแม่

  • ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

    ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ