สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานว่า โฆษกของสายการบินแอร์แคนาดาได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่สตรีชาวแคนาดาวัย 23 ปีรายหนึ่งเกิดเจ็บครรภ์ขณะที่เครื่องบินกำลังบินไปสู่เมืองโตเกียว คลอดลูกบนเครื่องบิน โดยได้มีแพทย์ที่เป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินเสนอตัวเป็นแพทย์อาสาเพื่อทำคลอด จนในที่สุดทารกน้อยได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยแข็งแรงทั้งแม่และลูก
สายการบินได้รับสิทธิพิเศษในการลงฉุกเฉินที่สนามบินนาริตะ เพื่อนำคุณแม่และทารกน้อยส่งโรงพยาบาล โดยพ่อของเด็กได้อุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขน และได้กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายจริงๆ”
สำหรับเงื่อนไขของสายการบินแคนาดายินดีต้อนรับให้สตรีตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 36 สัปดาห์สามารถขึ้นเครื่องบินได้แต่ต้องไม่มีประวัติการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งบางสายการบินจะไม่อนุญาตให้สตรีที่มีอายุครรภ์เกิน 36 สัปดาห์ขึ้นเครื่อง ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าคุณแม่ป้ายแดงบนเครื่องมีอายุครรภ์กี่สัปดาห์ในขณะที่เธอขึ้นเครื่องบินลำนี้ คลอดลูกบนเครื่องบิน
คลอดลูกกลางทะเล สุดแปลก! แม่ใจกล้าคลอดลูกกลางทะเล
อีกหนึ่งเทรนด์ที่เป็น การคลอดทางเลือก ที่มีคนสนใจอย่างมากในต่างประเทศ อย่างหนึ่งก็คือ การคลอดลูกในน้ำ วันนี้เราจะมานำเสนอข่าวคุณแม่คนหนึ่งที่ตัดสินใจ คลอดลูกกลางทะเล
ในเมืองไทย การคลอดลูกในห้อง ที่โรงพยาบาลนั้น ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่ เนื่องจากเรื่องความปลอดภัย เครื่องมือ และ บุคคลากรต่างๆที่ครบครัน และ เชื่อถือได้ แต่ในต่างประเทศ มันมีเทรนด์การคลอดลูกแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมา ไม่เว้นแต่ละวัน จะเรียกได้ว่า เป็นแพทย์ทางเลือก ของเขาก็เป็นได้
ที่พบเจอ มีทั้งแม่ที่คลอดลูกใน ห้องนั่งเล่น อ่างอาบน้ำ และ ในเคยนี้คลอดลูกในทะเล และ ทะเลแห่งนี้ก็ว่า กันว่าเป็นทะเลที่สวยที่สุดในโลกอีกด้ว ไม่ว่าคุณแม่จะรู้สึกว่ามันทำให้ ร่างกายของเขา ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น จะได้ใกล้ชิดกับ ลูกมากขึ้น หรือ เหตุผลอะไรก็ตาม การคลอดลูกในสถานที่แปลกๆ แบบนี้ ก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
คุณแม่ท่านนี้คลอดลูกในทะเล Red Sea ทะเล ที่ตั้งอยู่ทั้งในประเทศ อียิปต์ (Egypt) อยู่กึ่งกลางระหว่าง ทวีปเอเชีย และ แอฟริกา และ มีคนถ่ายรูปเหตุการณ์มาไว้ได้ทั้งหมด
ผู้คนที่อาศัยอยู่ ชื่อ Hadia Hosny El ใกล้ๆ เป็นคนถ่ายภาพ
อ้างอิงจากสำนักข่าว Fox News, Hadia Hosny El เป็นผู้ถ่ายภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ เธอบอกว่า Mohamed El ลุงของเธอนั้น แท้จริงแล้ว เป็นคนที่ช่วย คุณแม่คนนี้ คลอดลูก คู่สามีภรรยาคนที่คลอดลูกกลางทะเลนั้น เป็น นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่เดิน ทางมายังเมือง Dahabใน ประเทศอียิปต์ พวกเขาตั้งใจ ที่จะมาคลอดลูกที่นี่โดยเฉพาะ
ตอนแรกพวกเขาลงไปว่ายน้ำกันก่อน
ทั้งตัวคุณแม่ แฟนของเธอ และ คุณหมอ ลงไปในน้ำกันก่อน เมื่อเธอ คลอดลูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขึ้นจากน้ำเพื่อไปพักผ่อน ในภาพเฟซบุ๊คมีการอธิบายว่า หลังจากคลอดเสร็จ คุณแม่ก็เดินขึ้นน้ำ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอแม่ขึ้นไปพักแล้ว ตัวแฟนและคุณหมอ ก็มาเช็คดูอาการของทารกน้อย ที่พึ่งเกิด คุณหมอเป็นคนดูอาการ ส่วนผู้ชายอีกคน ที่คาดว่าจะเป็นแฟนของเธอนั้น นำเอา รก ของเด็กมาใส่ภาชนะสีเหลือง ไม่นานทั้งสองคนก็เดินกลับมายังชายหาดอีกครั้ง
เด็กอีกคนรอเจอทารกน้อยอยู่
เมื่อทุกคนขึ้นมาบนชายหาดได้ เราก็เห็นว่ามีเด็กคนนึง ตั้งตาจะรอพบเจอกับสมาชิกคนล่าสุด อย่างตื่นเต้น ส่วนคนเป็นแม่ ไม่มีท่าทีเหมือนกับคนที่พึ่งคลอดลูกเลยแม้แต่น้อย
พอดูทุกอย่างหมดแล้ว ทุกคนก็ออกจากบริเวณชายหาดไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
รูปถูกพูดถึงทั่วโลก จนกลายเป็น Viral
หลังจากที่รูปถูกปล่อย ออกไป รูปนี้ก็ถูกแชร์ออกไปยังสื่อต่างๆทั่วโลก ทาง Egypt บอกว่า เธอไม่ใช่แม่คนแรก แต่มีคุณแม่อีกหลายคนมาคลอดลูกที่ทะเล Red Sea แห่งนี้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้เหมือนกันว่า เหตุผลที่คุณแม่หลายคนตั้งใจมาทำแบบนี้ด้วยเหตุผลอะไร
การคลอดลูกในน้ำเป็นอีกหนึ่งวิธีของการคลอดลูกแบบธรรมชาติ ความอุ่นของน้ำจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการเบ่งคลอด ในขณะที่คุณแม่รู้สึกตื่นเต้น ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเป็นไปอย่างนุ่มนวลผ่านการขับเคลื่อนของถุงน้ำคร่ำในท้อง ออกมาสู่อ่างน้ำหรือโลกใบใหญ่ของทารกแรกเกิดได้อย่างวิเศษ
เมื่อทารกลอยออกมาสู่ผิวน้ำพร้อมเข้าสู่อ้อมกอดของคุณ คุณจะได้โอบอุ้มลูกไว้อย่างนุ่มนวล วินาทีแรกพบ ความรู้สึกของคุณจะเต็มไปด้วยความสุข ความปลาบปลื้ม เมื่อได้เป็นแม่คนแล้วนั่นเอง
ซึ่งการคลอดลูกในน้ำสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 15 ข้อนี้ให้เกิดขึ้นได้
1.สร้างความรู้สึกที่สบาย คุณแม่สามารถขยับตัวไปมาได้อย่างอิสระ เพื่อปรับท่าและตำแหน่งที่ช่วยให้ลูกคลอดออกมาได้ง่ายขึ้น
2.ลดอาการเจ็บปวดของช่องท้อง เนื่องจากการลอยตัวอยู่ในน้ำนั้นช่วยลดการหดเกร็งของมดลูกและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีกว่า ทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ดี เมื่อคุณแม่มีอาการเจ็บปวดน้อยลง ออกซิเจนจะมีมากพอที่จะส่งไปยังทารกได้มากขึ้น
3.ช่วยรักษาพละกำลังของคุณแม่ การอยู่ในน้ำนั้นช่วยลดแรงต้านทานตามแรงดึงดูด น้ำจะช่วยพยุงร่างกายของคุณแม่ไว้ ทำให้คุณแม่มีกำลังมากพอที่จะเบ่งทารกออกมา
4.การคลอดในน้ำช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น น้ำอุ่นจะช่วยให้ฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมาได้ดี เป็นตัวช่วยให้การเบ่งคลอดเป็นไปรวดเร็วขึ้น เป็นจังหวะมากขึ้น ทำให้การคลอดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5.น้ำช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานผ่อนคลายมากขึ้น
6.น้ำช่วยลดอัตราการเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยอื่น ๆ
7.น้ำช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสที่ผิวหนัง และช่วยกระตุ้นประสาทควบคุมการเจ็บปวดให้ทำงานได้ดีขึ้น
8.การคลอดในน้ำให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าและปลอดภัยมากขึ้น
9.น้ำเป็นตัวช่วยที่กระตุ้นให้ปากมดลูกเปิด เพราะฉะนั้นจึงส่งผลดีสำหรับแม่ที่ยังไม่มีสัญญาณเตือนการเจ็บท้องคลอด
10.น้ำช่วยลดความต้องการของการให้ยาเร่งคลอด บ่อยครั้งที่คุณแม่ก้าวลงไปในน้ำ ก็จะเกิดการกระตุ้นและเจ็บท้องคลอดได้โดยง่ายในที่สุด เพียง 1 – 2 ชั่วโมง
11.การคลอดในน้ำช่วยลดอัตราความดันโลหิตสูง ที่อาจเกิดจากความวิตกกังวลของการเจ็บท้องคลอด
12.การแช่ตัวในน้ำช่วยลดความวิตกกังวล ทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและทำให้คุณแม่พุ่งความสนใจมาที่การเบ่งคลอดได้ดี
13.การคลอดในน้ำช่วยให้การหายใจเป็นไปได้ด้วยดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นเมื่อหายใจเข้า – ออก และยังดีสำหรับคุณแม่ที่เป็นโรคหอบหืดอีกด้วย
14.น้ำอุ่น ๆ ที่ใช้ในการแช่ตัวระหว่างคลอดช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับช่องคลอด ปากช่องคลอด และฝีเย็บ เป็นส่วนช่วยให้เนื้อเยื่อส่วนนี้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเมื่อคลอดทารกออกมา
15.น้ำช่วยให้ปากมดลูกเปิดง่ายขึ้น คุณแม่ตั้งท้องบางรายเกิดอาการปากมดลูกเปิดจนเกิดการเบ่งทารกออกมาได้โดยง่าย
หมอออกมาเตือน
แม้ว่า เทรนด์นี้ จะได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาเตือนว่า การคลอดลูก ในทะเล หรือ มหาสมุทรนั้น ไม่ใช่อะไรที่ปลอดภัย อ้างอิงจาก Live Science พวกเขาบอกว่า มันไม่มีงานวิจัยตัวไหนออกมาบอกเลยว่านี่คือ การกระทำที่ปลอดภัย
Dr. Saima Aftab คุณหมอ ยังกล่าวอีกว่า เกลือที่มีปริมาณสูงในน้ำทะเล อาจทำอันตรายให้กับตัวทารก ถ้าทารกเผลอกลืนน้ำทะเลเข้าไป ตอนช่วงระหว่างการคลอด
ที่มา: manager.co.th
เตรียมให้พร้อม คุณแม่ท้องจะขึ้นเครื่อง
เที่ยวตอนท้องได้อย่างสบายใจ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!