TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง อารมณ์ดี ไม่งอแง

บทความ 5 นาที
กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง อารมณ์ดี ไม่งอแง

กิจกรรมที่ทำแล้วลูกไม่โง่ เรียนเก่ง อารมณ์ดี ไม่งอแง มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

พ.ญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ด้านทารกแรกเกิด และให้คำปรึกษา ได้แนะนำ 7 กิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำกับลูกทุกวัน ซึ่งจะช่วยพัฒนาเสริมสร้างความฉลาดทางสติปัญญา และอารมณ์ เรียกว่าเป็น กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง อารมณ์ดี ไม่งอแง

7 กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง อารมณ์ดี ไม่งอแง

1.อ่านหนังสือให้ลูกฟัง

สามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยนะคะ เพราะการให้ลูกได้ฟังเรื่องราวที่คุณพ่อคุณแม่อ่านจะช่วยพัฒนาสมอง เพิ่มคลังคำศัพท์ให้ลูกได้เรียนรู้คำใหม่ ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน กระตุ้นการเรียนรู้วิธีพูด การใช้ภาษา และปลูกฝังการรักการอ่านให้กับลุกตั้งแต่ยังเล็ก

2.พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ

เวลาอยู่กับลูก หรือทำกิจกรรมอะไรกับลูกก็แล้วแต่ ให้คุณพ่อคุณแม่พูดกับลูกไปด้วย เช่น แม่กำละงอาบน้ำให้หนูอยู่นะคะ น้ำอุ่นสบายดีไหมจ๊ะ อาบน้ำแล้วจะได้เนื้อตัวหอม ๆ สบายตัวแล้วเราไปกินนมกันนะคะ เป็นต้น เพราะงานวิจัยพบว่าพ่อแม่ที่พูดกับลูกวัยละ 2,000 คำขึ้นไปต่อวันลูกจะมีพัฒนาการที่ดีกว่า เด็กที่พ่อแม่พูดกับลูกวันละ 600 คำต่อวัน เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าลูกยังเล็กอยู่คุยไปเขาก็ไม่รู้เรื่องนะคะ

กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง

หาเวลาอยู่กับลูก อ่านหนังสือให้เขาฟัง พูดคุยกับเขาบ้าง

3.ร้องเพลงให้ลูกฟัง

พ่อแม่บางคนอาจพูดคุยไม่เก่ง ไม่รู้จะพูดอะไรกับลูก ก็หันมาร้องเพลงให้ลูกฟังแทนก็ได้ค่ะ ถือว่าเป็นสารสื่อสารกับลูกอีกทางหนึ่ง หรือถ้าใครอยากทั้งพูดคุย ทั้งร้องเพลงไปด้วย ก็ได้นะคะ

4.ใช้ศิลปะช่วย

ให้ลูกได้วาดรูป ระบายสี  ทำงานศิลปะ การจับดินสอหรือพู่กันจะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กให้กับเด็ก ๆ และการทำงานศิลปะยังช่วยพัฒนาสมองทั้งซีกซ้าย และซีกขวาให้ทำงานสอดประสานกัน และช่วยให้เด็กมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานขึ้นด้วย

5.ให้ลูกเล่นเยอะ ๆ ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์

ให้ลูกได้ออกไปเล่นนอกบ้าน ได้เล่นดินเล่นทราย เล่นน้ำ ได้เรียนรู้จากธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างจินตนาการและเรียนรู้จากการสัมผัสของจริงตรงหน้า ได้ออกไปเคลื่อนไหวร่างกายจะได้มีสุขภาพแข็งแรงไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเลอะเทอะ เพราะเสื้อผ้าเราซักได้แต่เรื่องประสบการณ์จริงที่ลูกจะได้ถ้าไม่ออกไปทำด้วยมือตัวเองก็ไม่มีทางได้เรียนรู้ และควรมอบหมายงานบ้านให้ลูกช่วยทำไม่ว่าจะเป็นกวาดบ้าน ถูกบ้าน ทำกับข้าว หรือปลูกต้นไม้ ลูกจะได้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง และมีความภูมิใจในตัวเองกลายเป็นเด็กที่มีความมั่นใจ ที่สำคัญเมื่อลูกเล่นสนุกเละจนพอใจแล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้ลูกเก็บกวาด เช็ดถูให้เรียบร้อย และเก็บของเล่นให้เป็นระเบียบเพื่อเป็นการฝึกวินัยให้ลูกไปในตัว

กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง

ให้ศิลปะช่วยพัฒนาสติปัญญา และอารมณ์ของเจ้าตัวเล็ก

6.อย่าจำกัดพื้นที่ลูก

คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรจับลูกให้อยู้แต่ในรถเข็นหรือคอกกั้นเด็กแคบ ๆ แต่ควรหาบริเวณให้ลูกได้เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่เพื่อเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างปลอดภัยโดยมีคุณพ่อคุณแม่ดูแลให้ความช่วยเหลืออยู่ใกล้ ๆ

7.จำกัดเวลาการจ้องจอ

ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต โทรทัศน์ หรือสมาร์โฟน สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำไม่ให้เด็กอายุต่ำว่า 18 เดือนดูสื่อจอเลย ยกเว้นการวิดีโอคอลล์คุยกับญาติหรือคนในครอบครัวเป็นครั้งคราว เพราะสื่อจอเหล่านี้เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว ไม่ช่วยพัฒนาสมอง ทั้งยังทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาเช่น โรคอ้วน ปัญหาการนอนยาก มีปัญหาพฤติกรรมเช่น สมาธิไม่ดี เลียนแบบสิ่งไม่ดีจากโทรทัศน์ และขาดทักษะทางสังคมเสี่ยงป่วยเป็นโรคออทิสติกเทียมได้

กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง

ปล่อยลูกอยู่กับจอมาเกินไป ทำให้ลูกขาดโอกาสในการเจอโลกกว้าง

นอกจากกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการต่าง ๆ แล้ว โภชนาการอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญ อาหารอะไรบ้างที่จะช่วยส่งเสริมความฉลาดของลูกให้มากขึ้นไปอีก ไปดูกันค่ะ

7 อาหารบำรุงสมองลูก ให้ลูกกินบ่อยๆ เเล้วฉลาด ความจำดี

บทความ : อยากให้ลูกฉลาดต้องกินอะไร ? 7 อาหารบำรุงสมองลูก ให้ลูกกินบ่อยๆ เเล้วฉลาด ความจำดี

1.สตรอว์เบอร์รี่

ผลไม้รสอมเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วสดชื่นน..เมนูโปรดของคนหลายคน อ่านมาถึงตรงนี้ต้องยิ้มแน่นอน! เพราะว่า เป็นผลไม้ที่อุมดมไปด้วยวิตามินซี ป้องกันโรคหวัด โรคภูมิแพ้ เเล้วยังมีประโยชน์ช่วยบำรุงสมอง เพราะสตอร์เบอร์รี่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน สามารถทานได้เเบบสดๆ

2.ถั่ว

ถั่วนั้นอุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ทั้งยังมีไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อหัวใจ โดยเฉพาะลูกวอลนัทเเละอัลมอนต์ แต่ไม่ควรทานเกิน 250 กรัมต่อวัน เเละไม่ควรทานเเบบโรยเกลือหรืออบเกลือเพื่อป้องกันโซเดียมค่ะ

3.ปลา

ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย รสชาติอร่อยเเถมมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะปลาเเซลมอนที่มีประโยชน์มากมายเต็มไปด้วยโอเมก้า 3 ค่ะ ซึ่งบำรุงสมอง ทำให้ความจำดี ไม่หลงลืมง่าย เเต่นอกจากปลาแซลมอนแล้วไทยพื้นบ้านของเราก็มีโอเมก้า 3 สูงไม่เเพ้กัน เเถมราคายังถูกกว่าเยอะมากเช่น ปลากะพงขาว ปลาดุก ปลาสวาย ปลาจาละเม็ด ปลาทู ปลาเก๋า ฯลฯ ค่ะ สามารถนำมาทำได้หลายเมนูมากเลยค่ะ

กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง อารมณ์ดี

7 อาหารบำรุงสมอง

4.แปะก๊วย

สมุนไพรที่ทานง่าย เเละมีชื่อเสียงเรื่องการรักษาโรคเกี่ยวกับสมอง เพราะประโยชน์ของเเป๊ะก้วยมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดในสมอง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองช่วยป้องกันอาการหลงลืมง่าย

5.แครอท

ผักรสชาติหวานกรอบเเสนอร่อย ทานง่าย สามารถทำอาหารได้หลากหลายมากๆ ซึ่งเจ้าเเครอทนั้นเต็มไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยในเรื่องของความจำได้ดี โดยแนะนำให้ทำอาหารด้วยแครอทบ่อยๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

6.น้ำเต้าหู้

สุดยอดอาหารบำรุงที่มีประโยชน์หลากหลายมาก ซึ่งอุดมคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน แคลเซียม ฟอสฟอรัส จึงช่วยบำรุงทั้งร่างกาย เเละมีสารอาหารที่จำเป็นต่อสมองมีผลส่วนช่วยให้บำรุงสมอง เพิ่มความสามารถในการจำ ช่วยป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อม เเนะนำให้อุ่นให้ลูกทานทุกเช้าค่ะ

7.ไข่

อาหารสารพัดประโยชน์ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยจริงๆ โดยเฉพาะเด็กๆ ค่ะ รสชาติอร่อย ทำอาหารได้หลากหลายเเถมเต็มไปด้วยโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สารโคลีนในไข่มีส่วนช่วยต่อการทำงานของสมอง ช่วยในเรื่องความจำเสริมสร้างและซ่อมแซมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ควรนำมานำอาหารให้ลูกทานวันละ 1 ฟองค่ะ

_________________________________________________________________________________________

บทความจากพันธมิตร
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
ไม่ใช่แค่ยุงกัด...แต่คือวิกฤต เมื่อ “ไข้เลือดออก” สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งมากกว่าที่คิดในครอบครัว
ไม่ใช่แค่ยุงกัด...แต่คือวิกฤต เมื่อ “ไข้เลือดออก” สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งมากกว่าที่คิดในครอบครัว
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน

theAsianparent Thailand เชื่อว่าการศึกษาที่ดี จะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้างสภาวะแวดล้อมในการเรียนรู้ได้อย่างสมวัย และเป็นไปตามที่พ่อแม่ต้องการ การเลือกโรงเรียนให้กับลูก คือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริมสร้างพหุปัญญาทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่อง ไม่จำกัด และทำให้เด็กค้นพบตัวตน และมีความสุขกับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

แหล่งข้อมูล  www.facebook.com

บทความอื่น ๆ เกี่ยวข้อง

ความฉลาดของลูกมาจากไหน กินอะไรให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในท้อง 

ความเชื่อผิด ๆ ในการเลี้ยงลูกที่อาจทำให้ลูกโง่ และเจ้าอารมณ์ 

พ่อแม่อย่าเมิน 17 วิธี เลี้ยงลูกให้เก่งกว่าคนอื่น 

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Weerati

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • กิจกรรมที่ลูกทำแล้ว เรียนเก่ง อารมณ์ดี ไม่งอแง
แชร์ :
  • ลูกชอบจับจู๋ จับจิ๋ม ผิดปกติไหม? พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี?

    ลูกชอบจับจู๋ จับจิ๋ม ผิดปกติไหม? พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี?

  • ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

    ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

  • 20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

    20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

powered by
  • ลูกชอบจับจู๋ จับจิ๋ม ผิดปกติไหม? พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี?

    ลูกชอบจับจู๋ จับจิ๋ม ผิดปกติไหม? พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี?

  • ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

    ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

  • 20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

    20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว