ตั้งครรภ์แล้วคันตามตัว คันแขน คันขา คันในร่มผ้า แม่ท้องคนไหนเป็นมั่งคะ อาการคันเป็นได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศ และวัย นอกเหนือจากอาการคันที่พบได้ในบุคคลธรรมดาทั่วไป ซึ่งมีสาเหตุมาจาก การติดเชื้อรา ติดเชื้อแบคทีเรีย ยุงกัด การแพ้สารเคมี แพ้เหงื่อ การแพ้เสื้อผ้า เหมือนคนปกติแล้ว หญิงตั้งครรภ์ยังมีลักษณะพิเศษของโรคผิวหนังที่พบในช่วงตั้งครรภ์
ตั้งครรภ์แล้วคันตามตัว โรคผิวหนังที่พบในช่วงตั้งครรภ์ ได้แก่
- คันเพราะผื่นนูนแดง
- คันเพราะผื่นแดงเฉียบพลัน คล้ายลมพิษ
- คันเพราะผื่นแดง ตุ่มหนอง
- คันเพราะผื่นแพ้
สาเหตุเหล่านี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง อ่านต่อ >>>
# คัน เพราะผื่นนูนแดง
พบมากในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์เฉลี่ยอายุครรภ์ 35 สัปดาห์ สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าเกิดจากการที่ผนังท้องขยายมาก ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และคอลลาเจน กระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบ อาการผื่นมีหลายลักษณะ เช่น ผื่นนูนแดงคล้ายลมพิษ หรือ เป็นตุ่มน้ำขนาดประมาณ 1 – 2 มม. พบมากบริเวณหน้าท้อง โดยเฉพาะที่เป็นรอยแตกลาย โดยเว้นรอบสะดือ แล้วจึงกระจายไปที่ต้นขา ก้น หน้าอก และแขน โดยทั่วไปมีอาการคันมาก ผื่นชนิดนี้ ขึ้นนานประมาณ 6 สัปดาห์ และหายได้เองหลังคลอดภายใน 1 – 2สัปดาห์ ไม่มีอันตรายต่อมารดา และทารกในครรภ์แต่อย่างใด การรักษาเป็นการบรรเทาอาการคัน เช่น ยาทาคาลาไมด์ ยาทากลุ่มสตีรอยด์ และยาแก้แพ้ ก็เพียงพอ
# คัน เพราะผื่นแดงเฉียบพลัน คล้ายลมพิษ
ผื่นชนิดนี้พบได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ไม่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเริม หรืองูสวัด ลักษณะสำคัญคือ เป็นผื่นแดงเฉียบพลันคล้ายลมพิษบริเวณลำตัว หลังจากนั้นจะกลายเป็นตุ่มน้ำใส หากมีการแตกของผื่นอาจกลายเป็นตุ่มน้ำใหญ่ได้ และมีอาการคันมาก การรักษาคือใช้ยาทาสเตียรอยด์ ผื่นชนิดนี้พบว่า มีความสัมพันธ์กับภาวะทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ และภาวะการณ์คลอดก่อนกำหนด
#คัน เพราะผื่นแดงตุ่มหนอง
พบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ลักษณะเป็นผื่นแดงรวมกับตุ่มหนอง กระจายทั่วลำตัว ผื่นมีอาการคันหรือเจ็บ แม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ปวดข้อร่วมด้วย ผื่นมักหายได้เองหลังคลอด และอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ เช่น ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสโลหิต ภาวะรก และทารกตายในครรภ์การรักษาคือ ใช้ยาสตีรอยด์ขนาดสูงตลอดการตั้งครรภ์ ยาไซโคลสปอริน การรักษาด้วยแสงอัลตราไวโอเลตชนิดบี ภาวะนี้มีอันตรายทั้งแม่ และทารก ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
#คัน เพราะผื่นแดงกระจายเต็มตัว
สัมพันธ์กับผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้อยู่ก่อน พบในช่วงไตรมาสที่ 2 – 3 ของการตั้งครรภ์ ผื่นพบได้ 2 แบบคือชนิด เป็นผื่นแดง คัน บริเวณใบหน้า ลาคอ หน้าอก และข้อพับแขนขา อีกชนิดหนึ่งคือ ชนิด ซึ่งเป็นตุ่มแดง คัน กระจายทั่ว เป็นบริเวณด้านนอกของแขนขา การรักษาใช้ยาทากลุ่มสตีรอยด์ ยาแก้แพ้บรรเทาอาการคัน โรคนี้ไม่มีผลกับทั้งแม่ และทารกในครรภ์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังพบว่า อิทธิพลของฮอร์โมนจะมีผลต่อการทำงานของตับ โดยทำให้เกิดการขับถ่ายกรดน้ำดีมากผิดปกติ ทำให้เกิดอาการคัน เป็นต้น ซึ่งอาการคันในระหว่างตั้งครรภ์นั้น ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจสาเหตุก่อน เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยทั้งคุณแม่ และลูก
ข้อควรรู้
คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการผื่นแพ้ เพราะฮอร์โมน คุณหมอมักรักษาตามอาการ แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ให้ยาแก้แพ้ใด ๆ เพราะยาอาจมีผลต่อเด็กในครรภ์ได้ และคุณแม่ควรดูแลผิวไม่ให้อักเสบติดเชื้อ พยายามอย่าถู หรือเกา และไม่ควรซื้อยาแก้แพ้มากิน หรือทาเองอย่างเด็ดขาด เพราะยาอาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ และอาการผื่นแพ้นี้ มักจะหายไปหลังจากคลอดลูก
โรคผื่นลมพิษ แม่ตั้งครรภ์
บทความ : โรคผื่นลมพิษ แม่ตั้งครรภ์ โรคผื่นลมพิษในคุณแม่ตั้งครรภ์ พบบ่อย! ผื่น PUPPP
โรคผื่นลมพิษ แม่ตั้งครรภ์ โรคผื่นลมพิษในคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Pruritic urticarial papules and plaques of pregnancy ( PUPPP) หรือ Polymorphic eruption of pregnancy (PEP) ซึ่งพบได้บ่อยถึงประมาณ 1 ใน 100-300คน ของคุณแม่ตั้งครรภ์ เลยค่ะ
โรคผื่นลมพิษ แม่ตั้งครรภ์โรค PUPPP เกิดจากอะไร?
จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุของโรคนี้ชัดเจน แต่มีข้อสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับการที่ผิวหนังหน้าท้องขยายตัวเร็ว เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจนมีผลกระตุ้นให้เกิดปฏิกริยาการแพ้ตรงบริเวณนั้นก่อน แล้วจึงกระจายไปยังผิวหนังตำแหน่งอื่นๆ
มีความเสี่ยงอะไรบ้างของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องกับโรค PUPPP?
โรคนี้พบมากในคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก หรือตั้งครรภ์แฝด มักพบในการครรภ์แรก ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ แต่บางคนอาจมีอาการตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆ หรือหลังคลอดได้นะคะ
ลักษณะอาการของโรค PUPPP เป็นอย่างไร?
ลักษณะผื่นของโรคนี้ มีหลายรูปแบบ แต่ที่พบบ่อยมักเป็นผื่นนูนแดงแบบลมพิษ หรืออาจเป็นตุ่มน้ำใส หรือผื่นแพ้ลักษณะอื่น ๆ พบมากบริเวณหน้าท้องโดยเริ่มเป็นที่ท้องตรงรอยแตกลาย มักเว้นรอบสะดือ แล้วจึงกระจายไปที่อื่นได้แก่ ต้นขา ก้น หน้าอก และแขน แต่ไม่เป็นที่หน้า มือ และเท้า มีอาการคันมาก
การดำเนินโรค PUPPP เป็นอย่างไร?
ผื่นชนิดนี้จะหายได้เอง ใน 4-6สัปดาห์ หรือหายภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากคลอดแล้ว โดยไม่ได้มีอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์นะคะ
คุณหมอจะรักษาโรค PUPPP ได้อย่างไร?
โดยปกติโรคนี้จะหายได้เอง จึงอาจไม่ต้องใช้ยาใดๆรักษา แต่เนื่องจากมีอาการคันมาก คุณหมออาจให้ยาเพื่อบรรเทาอาการคัน เช่น ยาสเตียรอยด์ชนิดทา และให้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน ในระยะสั้นๆ ที่มีอาการคันค่ะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.bangkokhealth.com/
www.mfu.ac.th/school/anti-aging
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องสุขภาพที่คุณแม่ต้องรู้..เมื่อไม่ได้ อยู่ไฟหลังคลอด
ร้องอ๋อดังมาก อาการสุดฮิตคนท้องแก่ใกล้คลอดเป็นอย่างนี้นี่เอง
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!