TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

BPA Free ในของใช้เด็กบอกอะไรคุณแม่ เรื่องรอบตัวที่คุณแม่ต้องรู้

บทความ 3 นาที
BPA Free ในของใช้เด็กบอกอะไรคุณแม่ เรื่องรอบตัวที่คุณแม่ต้องรู้

เมื่อเริ่มเตรียมซื้อของใช้เด็กแรกเกิดให้ลูกน้อย คุณแม่อาจเริ่มได้ยินคำว่า BPA Free และเริ่มสงสัยว่า ทำไมต้องมองหาที่มีผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีสัญลักษณ์ BPA Free ให้ลูกน้อย เรามีคำตอบค่ะ

BPA คืออะไร?

BPA มาจากคำว่า Bisphenol A ซึ่งเป็นสารเคมีอุตสาหกรรมที่นำมาใช้ในการทำพลาสติกใส สำหรับใช้เป็น ภาชนะบรรจุอาหาร ขวดน้ำ ขวดนมเด็ก ถ้วยหัดดื่ม เป็นต้น

 

ทำไมต้องใช้สาร BPA ในพลาสติก?

BPA มีคุณสมบัติ ช่วยให้ขวดนม หรือพลาสติก มีความแข็งแรง ใส ไม่แตกง่าย เมื่อบริโภคอาหารจากบรรจุภัณฑ์ที่มีสาร BPA ก็เท่ากับว่าได้รับสาร BPA เข้าไปโดยไม่รู้ตัว

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า สาร BPA จากภาชนะที่ทำด้วยสาร BPA สามารถซึมลงไปในอาหารหรือเครื่องดื่ม ได้ เมื่อภาชนะนั้นสัมผัสความร้อน

 

อันตรายจากสาร BPA

การสัมผัสกับสาร BPA อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสมอง เซลล์ประสาท พฤติกรรม การเรียนรู้ และส่งผลต่อความผิดปกติทางพันธุกรรมของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย

Dr Jen Landa ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช และการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน กล่าวว่า สาร BPA  สามารถเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้องอกในมดลูก และอาจเป็นอุปสรรคในการรักษาภาวะมีบุตรยาก

นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับการเกิดโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ และอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากในบางราย

เนื่องจาก BPA เป็นเอสโตรเจนแบบสังเคราะห์ ที่อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน  ซึ่งการหลั่งของเอสโตรเจนที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า มีปัญหาน้ำหนักตัว เกิดความวิตกกังวล นอนไม่หลับ

สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือ หากเด็กทารกได้รับสาร BPA จะส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่าในเด็กโต หรือผู้ใหญ่

ขวดนม bpa free

เราจะหลีกเลี่ยงสาร BPA ได้อย่างไร?

แม้ว่าสาร BPA สามารถพบได้ตามผลิตภัณฑ์พลาสติกทั่วไป แต่คุณสามารถเลือกที่จะลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารเหล่านั้นได้ เพียงทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี BPA Free

เลือกใช้ขวดนม ขวดน้ำ ที่มีสัญลักษณ์ BPA-free บนฉลาก ซึ่งหมายถึง ภาชนะนั้นๆ ปลอดภัยจากสาร BPA ที่อาจเป็นอันตรายตามที่กล่าวมาข้างต้น

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์พลาสติกบางอย่างจะมีเครื่องหมายรีไซเคิลที่ระบุเป็นสัญลักษณ์หมายเลข 1 -7 ขอให้คุณแม่หลีกเลี่ยงพลาสติกที่มีสัญลักษณ์หมายเลข 3 (PVC) หรือ 7 (Other)  เนื่องจากสาร BPA ในพลาสติกประเภทนี้สามารถปนเปื้อนออกมาจากภาชนะได้ถ้าภาชนะนั้นสัมผัสกับความร้อน

  • หลีกเลี่ยงการอุ่นอาหารในภาชนะพลาสติกและภาชนะโฟม

อย่านำภาชนะโฟมหรือพลาสติกที่ไม่ได้ระบุว่าสามารถใช้ซ้ำได้ เข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ เพราะสาร BPA ที่อยู่ในพลาสติกจะรั่วไหลลงสู่อาหารได้

บทความสุขภาพในเว็บไซต์ของ Harvard Medical School  กล่าวว่า เมื่ออาหารถูกห่อด้วยพลาสติก และนำเข้าไมโครเวฟ สาร BPA อาจรั่วไหลลงไปในอาหารได้

  • เลือกใช้ภาชนะอย่างอื่นแทนพลาสติก

แทนที่จะใช้ขวดนม ขวดน้ำพลาสติก หรือภาชนะพลาสติกในการเก็บอาหารและของเหลว ควรเลือกใช้ขวดนมที่ทำจากแก้ว ภาชนะที่ทำจาก แก้ว เครื่องเคลือบดินเผา หรือสเตนเลส แทน

อาหารที่ทานเหลือ ควรเก็บในภาชนะที่ไม่ใช่พลาสติก หรืออย่างน้อยที่สุด ควรเลือกใช้ภาชนะพลาสติกที่เป็น BPA free

  • หลีกเลี่ยงขวดน้ำพลาสติก

แทนที่จะดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ที่ไม่มีสัญลักษณ์รีไซเคิล 1, 2 หรือ 5 คุณควรลงทุนซื้อขวดน้ำที่สามารถใช้ซ้ำได้ หรือขวดน้ำที่เป็น BPA free หรือทำจากแก้ว หรือสเตนเลส แทน

อย่างไรก็ตาม หากคุณยังชอบที่จะดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ควรหลีกเลี่ยงขวดที่ผ่านการแช่แข็ง หรือตากแดด หรืออยู่ในที่อุณหภูมิสูง

ขวดนม ขวดน้ำของลูกน้อย และภาชนะบรรจุอาหารของคุณมี BPA Free หรือเปล่าคะ คุณมีวิธีปกป้องคนที่คุณรักจากสาร BPA อย่างไรบ้าง เล่าสู่กันฟังได้ที่ช่องคอมเมนต์ด้านล่างนี้

ที่มา sg.theasianparent.com

 

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

สารเคมีในชีวิตประจำวันที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง

ระวัง! 9 ของใช้เด็กอ่อนที่ควรหลีกเลี่ยง

TAP mobile app

 

บทความจากพันธมิตร
แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว! ตัวช่วยสุดปังที่แม่เลือก กันแดดเด็ก Godmami Kids ปกป้องผิวลูกน้อยจากแดดร้าย
แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว! ตัวช่วยสุดปังที่แม่เลือก กันแดดเด็ก Godmami Kids ปกป้องผิวลูกน้อยจากแดดร้าย
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
เทียบชัดๆ นมสูตร 3 ที่มี PHP ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการภูมิแพ้ ยี่ห้อไหนถูกใจแม่ยุคใหม่ที่สุด
เทียบชัดๆ นมสูตร 3 ที่มี PHP ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการภูมิแพ้ ยี่ห้อไหนถูกใจแม่ยุคใหม่ที่สุด
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • BPA Free ในของใช้เด็กบอกอะไรคุณแม่ เรื่องรอบตัวที่คุณแม่ต้องรู้
แชร์ :
  • 10 สิ่งที่ทารกต้องการที่สุด จดไว้เลย! แม่ควรทำสิ่งนี้ตั้งแต่แรกเกิด

    10 สิ่งที่ทารกต้องการที่สุด จดไว้เลย! แม่ควรทำสิ่งนี้ตั้งแต่แรกเกิด

  • เตือนภัย! "สไลม์พิษ" ทำเด็ก 5 ขวบแพ้รุนแรง หลังเล่นเพียง 30 นาที

    เตือนภัย! "สไลม์พิษ" ทำเด็ก 5 ขวบแพ้รุนแรง หลังเล่นเพียง 30 นาที

  • ทำไม 1000 วันแรกของลูก ถึงสำคัญที่สุดในชีวิต แม่ควรดูแลลูกยังไงบ้าง

    ทำไม 1000 วันแรกของลูก ถึงสำคัญที่สุดในชีวิต แม่ควรดูแลลูกยังไงบ้าง

powered by
  • 10 สิ่งที่ทารกต้องการที่สุด จดไว้เลย! แม่ควรทำสิ่งนี้ตั้งแต่แรกเกิด

    10 สิ่งที่ทารกต้องการที่สุด จดไว้เลย! แม่ควรทำสิ่งนี้ตั้งแต่แรกเกิด

  • เตือนภัย! "สไลม์พิษ" ทำเด็ก 5 ขวบแพ้รุนแรง หลังเล่นเพียง 30 นาที

    เตือนภัย! "สไลม์พิษ" ทำเด็ก 5 ขวบแพ้รุนแรง หลังเล่นเพียง 30 นาที

  • ทำไม 1000 วันแรกของลูก ถึงสำคัญที่สุดในชีวิต แม่ควรดูแลลูกยังไงบ้าง

    ทำไม 1000 วันแรกของลูก ถึงสำคัญที่สุดในชีวิต แม่ควรดูแลลูกยังไงบ้าง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว