ไฟฉายส่องท้องกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็น

แม่ตั้งครรภ์ทุกคนย่อมคาดหวังอยากให้ลูกคลอดออกมาเป็นปกติและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่ตอนนี้เจ้าตัวเล็กยังอยู่ในท้องคุณแม่ ทำให้คุณแม่เองต้องดูแลสุขภาพกายและใจให้ดีเพื่อส่งผลดีต่อไปยังให้ลูก การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์เป็นวิธีการที่คุณแม่นำมาใช้ มีหลากหลายวิธี การส่องไฟฉายเป็นวิธีการกระตุ้นทารกในครรภ์อย่างหนึ่ง มาดูกันว่าการส่องไฟฉายทำอย่างไร ควรทำเมื่อตั้งครรภ์กี่เดือน และมีประโยชน์ต่อการกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็นจริงหรือไม่ ติดตามอ่าน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พัฒนาการด้านการมองเห็นของทารกในครรภ์

พัฒนาการด้านการมองเห็นของทารกในครรภ์เริ่มเมื่ออายุครรภ์ 28 สัปดาห์  การมองเห็นเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้และสติปัญญาของเด็กหลังคลอด แม้ลูกจะอยู่ในท้องแต่คุณแม่สามารถกระตุ้นการมองเห็นของเขาได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ ได้ค่ะ การใช้ความมืดความสว่างของกลางวันกลางคืนก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นำมาใช้ได้

ทารกในครรภ์สามารถรับรู้แม้จะอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ทารกก็สามารถรับรู้ต่อแสง ความมืด ความสว่าง  ในช่วงท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ เมื่อมดลูกของคุณแม่ใหญ่ขึ้นทำให้ผนังมดลูกเริ่มบางลง  แสงจึงสามารถผ่านเข้าสู่ภายในมดลูกได้  ทำให้ทารกเริ่มรู้จักความแตกต่างของความมืดและความสว่าง  มาดูกันค่ะว่า จะมีวิธีการกระตุ้นการมองเห็นของทารกในครรภ์ได้อย่างไร

ไฟฉายส่องท้องกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็น

รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงวิธีการกระตุ้นทารกในครรภ์ด้วยการใช้ไฟฉายส่อง ไว้ว่า  ทารกในครรภ์สามารถกะพริบตา  เพื่อตอบสนองต่อแสงไฟที่กระตุ้นได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน การส่องไฟที่หน้าท้องไม่จำเป็นต้องไปเล็งว่าแสงจะเข้าตรงกับนัยน์ตาของลูกหรือไม่  เพียงแค่ให้ลูกรู้ว่ามีแสงส่องเข้ามาก็พอแล้ว

คุณหมอแนะนำ : วิธีการส่องไฟที่ถูกต้อง

1. ในเวลากลางคืน คุณแม่อาจให้คุณพ่อใช้ไฟฉายส่องที่หน้าท้อง โดยเปิดและปิดสลับกันไปมา พร้อมกับบอกลูกในทุกครั้งว่า “แม่จะเปิดไฟแล้วนะ ลูกมองเห็นแสงหรือเปล่า และแม่จะปิดไฟแล้วนะลูกมองไม่เห็นแล้วใช่ไหม”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. นำไฟฉายส่องไปที่หน้าท้อง แล้ววนเป็นรูปวงกลมรอบสะดือช้า ๆ เพื่อกระตุ้นสมองส่วนที่รับรู้แสง ทารกในครรภ์จะเคลื่อนไหวและสนใจแสงไฟ แต่ถ้าส่องนานและบ่อยเกินไปเจ้าหนูจะเริ่มเบื่อได้ และความสนใจจะน้อยกว่าตอนที่เริ่มส่องไฟ

3. นอกจากไฟฉายแล้วคุณแม่อาจใช้ สัญญาณไฟกะพริบ แต่ควรวางห่างจากบริเวณหน้าท้องพอสมควร ที่สำคัญแสงที่ต้องไม่จ้าจนเกินไป การกระตุ้นโดยการใช้แสงกะพริบเช่นนี้ จะช่วยให้ลูกปรับสภาพการมองเห็นได้ดีขึ้น

4. เมื่อคุณแม่ส่องไฟทารกภายในครรภ์จะมีการตอบสนอง เช่น การถีบหน้าท้องหรือการดิ้น แสดงว่า เจ้าตัวน้อยรับรู้และเกิดการตอบสนองนั่นเอง

บทความแนะนำ  เช็คอาการ !!ลูกในท้องดิ้นแรง ดิ้นช้า หรือไม่ดิ้นบอกอะไร

5. สำหรับไฟฉายที่ใช้สำหรับส่องท้องนั้น ควรเป็นแบบ 2 ท่อน 3 ท่อน หลอดธรรมดา ห้ามใช้แบบหลอดแรงสูงเด็ดขาด เพราะแสงที่จ้าเกินไปอาจเกิดอันตรายต่อจอประสาทตาของทารกได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

6. นอกจากการกระตุ้นด้วยไฟฉายส่องท้อง คุณแม่ควรออกไปยืนรับแสงแดดอ่อน ๆ นอกบ้านช่วงเช้าหรือบ่าย ควรเลือกแสงที่มีความสว่างไม่จ้าจนเกินไป ถือเป็นการกระตุ้นทารกน้อยอีกวิธีการหนึ่งเช่นกัน

7. ข้อดีของการส่องไฟที่หน้าท้องจะทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นมีพัฒนาดีขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับการมองเห็นภายหลังคลอด

คุณแม่ได้ทราบถึงวิธีการใช้ไฟฉายส่องหน้าท้องกระตุ้นทารกน้อยในครรภ์แล้วนะคะ  สามารถทำตามวิธีการที่คุณหมอแนะนำได้เลยค่ะ  แต่ต้องระมัดระวังอย่าใช้ไฟฉายที่มีกำลังไฟแรงสูงเพราะอาจส่งผลเสียต่อจอประสาทตาได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์   คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ  หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ

อ้างอิงข้อมูลจาก

si.mahidol

https://xn--12cgi9czcoda6jh0xnb.net

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โมบายล์สีขาวดำดีต่อพัฒนาการมองเห็นของลูก

ไขข้อข้องใจ รู้ได้อย่างไรว่าทารกแรกเกิดทำไมตาเหล่