8 เรื่องลับๆ กระซิบข้างหู แม่ลูกอ่อนควรรู้ไว้
8 เรื่องลับๆ กระซิบข้างหู แม่ลูกอ่อนควรรู้ไว้ ทุกเรื่องที่เราจะกระซิบบอกว่านี้ เชื่อว่าไม่มีใครเคยบอกคุณแม่ลูกอ่อนแน่ๆ ค่ะ
1. ไม่ต้องกังวลเรื่องให้นมแม่
เรื่องเครียดอันดับต้นๆ ของแม่ลูกอ่อนคงหนีไม่พ้นเรื่องให้นมแม่ นมจะมาทันไหม? นมจะน้อยไปไหม? ลูกจะอิ่มไหม? คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงไป การให้นมแม่นอกจากจะมีบทความความรู้ทั้งหลายอยู่ในโลกออนไลน์แล้ว ที่เหลือคือประสบการณ์ตรงที่คุณแม่จะเจอเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ ของคนที่เป็นแม่อยู่แล้วค่ะ
หากวันใดที่ประสบพบเจอปัญหา ก็มีทั้งคลินิกนมแม่ตามโรงพยาบาลทั่วไป เพจนมแม่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์เอเชี่ยนพาเรนท์แห่งนี้ค่ะ
2. เด็กแรกเกิดน่ะ ยังไม่ต้องมีตารางและการฝึก
กว่าลูกจะปรับตัวได้ดีก็ประมาณเดือนที่ 9 แล้วค่ะ ก่อนหน้านั้นคุณแม่ไม่จำเป็นต้องกังวลกับตารางเวลาและกิจกรรม หรือแม้กระทั่งการฝึกต่างๆ เช่น ฝึกนอนเอง หรือฝึกเข้าห้องน้ำนะคะ เพราะการฝึกเด็กเล็กวัยนี้นั้น นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังทำให้คุณแม่และลูกเครียดได้โดยไม่จำเป็นอีกด้วย
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการพักผ่อนมากๆ ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง เลี้ยงลูกไปตามความต้องการของลูก เช่น หิวก็ให้นม ฉี่อึก็เปลี่ยนค่ะ ลูกน้อยเพิ่งจะออกมาดูโลกกว้าง เขายังต้องใช้เวลาปรับตัว มีเวลาอีกมากมายที่จะให้ฝึกเรื่องพวกนี้
3. เด็กแรกเกิดน่ะ สปอยล์ไปเถอะ
คำแนะนำแบบอย่าไปอุ้มลูกมาก เดี๋ยวติดอุ้ม หรือ ปล่อยให้ร้องบ้างก็ได้ นั้น ไม่เป็นผลดีต่อเด็กๆ และคุณแม่ค่ะ แม้คำแนะนำแบบนี้จะมาจากผู้สูงอายุที่หวังดีทั้งหลาย หรือแม้แต่ป้าข้างบ้าน ที่ก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเรา
ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แล้ว ไม่มีการสปอยล์เด็กแรกเกิดค่ะ ข้อเท็จจริงคือการสนใจความต้องการของทารกแรกเกิดนั้น จะทำให้สมองของลูกพัฒนาได้อย่างเต็มที่และมีพัฒนาการตามวัยได้ดีค่ะ ดังนั้น อย่าไปสนใจกับคำแนะนำของคนอื่นมากนักเลย
4. อย่าเพิ่งไปจิตตกกับเชื้อโรค
แม้ว่าฝันร้ายของคุณแม่คือการที่ลูกวัยแรกเกิดจะป่วย และก่อนจะอุ้มจะจับ คุณแม่จำเป็นต้องล้างมือฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง และไม่ว่าใครจะมาขอจับขออุ้มลูกก็ตาม ควรจะล้างมือก่อนทุกครั้ง ถ้าฆ่าเชื้อทั้งตัวได้คุณแม่ก็ทำไปแล้ว และมันก็เครียดเหมือนกันที่ความสะอาดภายในบ้านต้องเนี๊ยบอยู่ตลอดเวลาค่ะ
แน่นอนว่าความสะอาดนั้นสำคัญค่ะ แต่มันก็มีบางงานวิจัยที่บอกว่าหากคุณแม่รักษาความสะอาดมากเกินไป ก็เป็นผลเสียต่อเด็กๆ ได้เช่นกัน การปล่อยให้ลูกเล่นดินเล่นทราย (ที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อทุกครั้งไป) นั้นดีต่อสุขภาพของลูกด้วยรวมเหมือนกันนะคะ เนื่องจากในดินทรายนั้นมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายของลูกอยู่ค่ะ
5. มีเวลาดูแลตัวเองบ้าง
การเลี้ยงลูกไม่ได้เป็นเรื่องของคุณแม่เพียงคนเดียวค่ะ คุณพ่อก็มีหน้าที่เลี้ยงลูกเช่นกัน ยิ่งช่วงแรกคลอดใหม่ๆ สามีจะเป็นต้องมีบทบาทในการช่วยภรรยาดูแลลูกบ้าง เนื่องจากสาวๆ ก็ต้องการการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายจากการตลอดนะคะ ระหว่างวันหากลูกนอนหลับ คุณแม่ก็ควรจะงีบหลับตามลูกด้วยนะคะ เพราะการนอนยาวๆ ของคุณแม่ กว่าจะสามารถทำได้อีกครั้ง ก็ตอนลูกเข้าโรงเรียนไปแล้วน่ะค่ะ
6. สุขบ้าง ทุกข์บ้าง เรื่องปกติ
ช่วงเวลาที่ตั้งท้องมาถึง 9 เดือน การคลอดลูกทำให้คุณแม่หลายคนปลื้มปิติค่ะ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะไม่มีความทุกข์หลังคลอดเลย ยังไงๆ เราก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ปุถุชนเท่านั้น บางทีก็เพียงการนอนไม่เพียงพอ ที่มันทำให้คุณแม่รู้สึกแย่มากๆ
การให้กำเนิดเทวดานางฟ้าตัวน้อยๆ คือสิ่งสวยงาม คือช่วงเวลาแห่งความสุข แต่มันก็เป็นเรื่องปกติมากๆ เช่นกัน ที่นาทีต่อมาสิ่งต่างๆ จะทำให้คุณแม่รู้สึกแย่ลง การเป็นแม่มันยากและไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆ ก็ทำได้
7. การมาเยี่ยมเยียนของคนรอบข้าง
หลังคลอดลูก ใครๆ ก็อยากมาเยี่ยมคุณแม่มือใหม่ค่ะ เด็กแรกเกิดน่ารักนี่นา แต่คุณแม่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดรับให้ทุกคนมาเยี่ยมหรอกนะคะ นั่นก็เพราะหลังคลอดคุณแม่ยังเหนื่อยอยู่ คุณแม่อาจจะจำกัดคนมาเยี่ยมใหม่ๆ ได้ แน่นอนว่าอาจจะมีเรื่องไม่คาดคิดที่ทำให้เหนื่อยใจเพิ่มขึ้น
คนที่มาเยี่ยม นอกจากจะมาดูความน่ารักของเจ้าตัวเล็กแล้ว สิ่งสำคัญคือมาช่วยให้กำลังใจคุณแม่ค่ะ ถ้าไม่ชัวร์จริงๆ ก็รอสภาพร่างกายตัวเองฟื้นก่อนค่อยเปิดบ้านก็ได้ค่ะ
8. อย่าเพิ่งกลัว อย่าเพิ่งท้อไป คุณแม่เอาอยู่
ความเป็นแม่มันคือเรื่องที่น่ามหัศจรรย์นะคะ ขอให้คุณแม่เชื่อมือตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะวิตกกังวลไปบ้าง แรกๆ อะไรๆ ก็ยังไม่คล่องตัว ยังไม่ง่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณแม่จะรู้สึกใจหายเลยละ เชื่อในสัญชาตญาณของความเป็นแม่ค่ะ การเป็นแม่ไม่ง่าย แต่เชื่อเถอะว่าคุณแม่เอาอยู่
ที่มา Bellybelly
บทความที่น่าสนใจ
อย่าให้ใครมาว่าได้ ว่าเป็นแม่ห่วยๆ เพราะเราจะเป็นแม่ที่ดีขึ้น
พ่อแม่ที่ดี ต้องปกป้องลูกชายจาก 5 เรื่องนี้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!