แม่ท้องติดมือถือหนักมาก จะเป็นอันตรายต่อลูกไหมนะ ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทำอย่างไรดี ? แม่ท้องติดมือถือหนักมาก ก่อนที่จะท้องเล่นมือถือบ่อย ๆ อยู่แล้ว สมัยนี้ใคร ๆ ก็หันมาใช้มือถือกันมากขึ้น แต่แม่ท้องคงกังวลว่า การเล่นมือถือบ่อย ๆ สัญญาณของมือถือจะมีผลกับทารกในครรภ์หรือไม่ หรือหากวางมือถือลงบนหน้าท้อง จะส่งผลเสียอะไรไหม ปัญหาแบบนี้หาคำตอบได้แน่นอน จะเป็นอย่างที่คุณแม่กังวลไหม ลองมาอ่านบทความนี้ดู

 

แม่ท้องติดมือถือหนักมาก เป็นอันตรายต่อทารกไหม ?

เรื่องนี้มีคำตอบโดย คุณหมอ นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ ได้บอกเล่าเรื่องราวไว้ใน Facebook ส่วนตัวของท่าน เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ คุณแม่ทั้งหลายที่ไม่ว่าจะติดเกม, ติด Chat, ติด Facebook, ติดดู TikTok หรือติดดูซีรีส์ เรามีคำตอบมาให้คุณแม่ท้องที่กำลังกังวลกัน สำหรับคลื่นโทรศัพท์, คลื่นวิทยุ หรือแม้แต่คลื่นโทรทัศน์ต่าง ๆ เหล่านี้เอง ล้วนเป็นคลื่นที่มีอยู่รอบตัวคุณแม่เต็มไปหมด ไม่สามารถหนีพ้นได้ แม้เดินไปไหนก็ต้องเจอคลื่นเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่มีทางหลบเล็ดลอดไปได้เลย แถมตอนนี้มีทีวี Digital ออกมาเป็นร้อย ๆ ช่อง คลื่นต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งหนาแน่นยิ่งไปกว่าเก่า ไม่แปลกที่คุณแม่จะเป็นกังวล แต่คลื่นโทรศัพท์มือถือ เป็นเพียงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่ใช่เป็นคลื่นกัมมันตภาพรังสี ดังนั้นจึงไม่ได้มีอันตรายใด ๆ ต่อทารกในครรภ์

ยิ่งกว่านั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ายังสามารถทะลุทะลวงเข้าไปสู่ผิวหนังของคนเราได้เพียง 1 - 2 เซนติเมตรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้ทารกในครรภ์ได้รับผลกระทบจากคลื่นโทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ได้ค่อนข้างน้อย ยิ่งคุณแม่ที่มีขนาดตัวใหญ่ หรือมีครรภ์ที่ใหญ่ ทำให้หนังท้องมีความหนามากขึ้น ก็น่าจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นคุณแม่จึงสามารถวางใจได้แน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 สิ่งที่ คนท้องควรเลี่ยง ข้อห้ามที่คนท้องควรรู้ ข้อห้ามที่คนท้องห้ามทำ

 

วิดีโอจาก : พี่กัลนมแม่ Pekannommae mother and child care

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คลื่นโทรศัพท์กับมะเร็งสมอง ?

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เคยมีเรื่องฮือฮากันว่า ใช้โทรศัพท์มือถือแล้วทำให้เกิดมะเร็งในสมองขึ้นมาได้ เนื่องจากมีการวิจัยชิ้นหนึ่งของหน่วยงานที่เรียกว่า  "Wireless Technology Research" ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่ว่า ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ หากทำการคุยต่อเนื่องกันนาน ๆ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะทำให้เป็นโรคเนื้องอกในสมองชนิดที่เรียกว่า “Neuroepithelial Tumors” ซึ่งทำให้ในช่วงแรก ๆ มีหลายคนที่กล้า ๆ กลัว ๆ กันไปพักนึง ไม่ค่อยกล้าเล่นโทรศัพท์มาก แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะยอดขายโทรศัพท์มือถือกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากจะให้ยกเหตุผลหลัก ๆ คงมาจากการที่โทรศัพท์เป็นปัจจัยสำคัญในยุคปัจจุบันไปแล้ว และการวิจัยเรื่องใช้มือถือแล้วเป็นเนื้องอกในสมองก็ไม่ได้มีการต่อยอด หรือให้ข้อมูลมากขึ้นไปกว่าข้อมูลชุดเดิมเลย

 

งานวิจัยคลื่นโทรศัพท์ VS สมองของลูก

เรื่องของงานวิจัยนั้นยังไม่จบ เนื่องจากยังมีงานวิจัยที่ระบุว่า พบว่าคลื่นโทรศัพท์มือถือ สามารถทะลุทะลวงเข้าสู่เนื้อเยื่อสมองของเด็กเล็กได้ และก่อให้เกิดผลกระทบได้มากกว่ากับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุไม่เกิน 5 ปี ที่คลื่นมือถือสามารถทำลายเนื้อเยื่อสมอง ได้มากกว่าผู้ใหญ่มากถึง 5 เท่า ส่งผลทำให้เด็กเล็กในช่วงอายุนี้ มีอาการปวดหัว และอาจจะทำให้เกิดมะเร็งในสมองได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอยู่ชิ้นหนึ่งที่กล่าวเอาไว้ว่า คลื่นโทรศัพท์มือถืออาจทำให้เกิด หรือส่งผลต่อปัญหาทางด้านพฤติกรรมได้ด้วย สามารถพอสรุปได้ว่า รังสีจากโทรศัพท์จะสามารถเคลื่อนที่ และไปเป็นส่วนหนึ่งของต้นเหตุที่ทำให้ทารกกลายเป็นบุคคลสมาธิสั้น หรือมีปัญหาด้านพฤติกรรม อีกทั้งยังมีอารมณ์ค่อนข้างสับสน, มีพฤติกรรมตื่นเต้น และอาจทำตัววุ่นวายมากขึ้น (Hyperactive) หรือเข้าข่ายที่เรียกกันว่า “อยู่ไม่สุข” เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในภายหน้า เป็นปัญหาให้คุณพ่อคุณแม่ปวดหัวกันได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ อะไรบ้างที่คนท้องไม่ควรกิน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

คลื่นโทรศัพท์มือถือ กับความจริงที่ยังไม่มีใครรู้

สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับการวิจัยนั้น ถ้าจะให้กล่าวถึงคงมีมากมาย แต่สรุปเลยละกันว่า ผลของคลื่นโทรศัพท์มือถือต่อเด็ก ๆ หรือต่อคนทั่ว ๆ ไปอาจมีความเป็นไปได้อยู่ แต่ก็ยังไม่มีใครสักคนที่สามารถสรุป หรือมีข้อมูลสรุปชี้ชัดใด ๆ อย่างเป็นทางการ มีแต่แค่บอกว่าอาจจะเป็นนั่น เป็นนี่ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารของเราเองด้วย  ข้อสังเกตต่อมาก็คือ ในตอนนี้ ถือว่ายังไม่มีการค้นคว้างานวิจัยในคุณแม่ตั้งครรภ์จริง ๆ สักอัน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าเราไม่สามารถเอาคนท้องมาวิจัยแบบนี้ได้ เพราะมันผิดจริยธรรม และไม่เหมาะสมนั่นเอง

ดังนั้นในขณะที่เขายังไม่มีข้อสรุปชัดเจน คุณแม่ก็ควรใช้มือถือด้วยความระมัดระวังไว้ก่อนจะดีที่สุด ใช้มือถือได้ตามความจำเป็น เพียงครั้ง ๆ คราว ๆ เท่านั้น พกติดตัวไปไหนมาไหนได้ตามสะดวก แต่ก็ควรพกใส่กระเป๋าถือ ที่วางไว้ห่างจากตัว ไม่ควรเอามาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ เพราะมันอาจจะอยู่ใกล้กับหัวของทารกในครรภ์มากเกินไป หากสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงไว้บ้าง แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่ได้ซีเรียสมากมาย ไม่ต้องคิดมากตลอด ยังไงก็แล้วแต่ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็สามารถผ่านหนังหน้าท้องเราลงไปได้นิดเดียวเท่านั้น ไม่ต้องคิดมากอะไร จะพากันเครียดไปเปล่า ๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

มาถึงตรงนี้แล้ว คุณแม่คงได้คำตอบแล้วว่าจะเป็นอย่างไรหากติดมือถือ ถึงแม้จะไม่ได้มีข้อมูลที่ชัดเจนสรุปออกมาได้ แต่การเล่นมือถือตลอดก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง หากคุณแม่ต้องการครรภ์ที่แข็งแรง ก็ควรแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ เป็นต้น

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องไม่สบาย กินยาอะไรได้บ้าง ตอนตั้งครรภ์ระวังป่วยโรคอะไร

คนท้องห้ามตอกไข่ ? คนท้องห้ามทำอะไรอีกบ้าง ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับคนท้อง

กิจกรรมที่ควรงดเมื่อตั้งครรภ์ ท่าที่คนท้องไม่ควรทำ มีอะไรบ้างคนท้องควรรู้

ที่มา : 1, babycentre

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

daawchonlada