หลังจากอาทิตย์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินประจำปี 2560 โครงการ เงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ เดือนละ 600 บาทต่อคน ทำให้คุณแม่ได้เฮทั้งประเทศ แต่ เมื่อไหร่จะได้เงินอุดหนุน เลี้ยงดูเด็ก และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างวันนี้มีคำตอบ!
เมื่อไหร่จะได้เงินอุดหนุน เลี้ยงดูเด็ก เงินอุดหนุน มีการจ่ายอย่างไร
- เด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2558 – 30 ก.ย. 2559 และได้มาลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุน ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2559 คุณแม่จะได้รับเงินอุดหนุนเดือนละ 400 บาท นับตั้งแต่เดือนที่น้องเกิด ไปจนถึงเดือน ก.ย. 2559 หลังจากนั้นคุณแม่จะได้รับเงินเดือนละ 600 บาท ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 จนเด็กอายุครบ 3 ขวบ
- เด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560 และได้มาลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุน ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2560 จะได้รับเงินอุดหนุนเดือนละ 600 บาท ตั้งแต่เดือนที่เกิด จนเด็กอายุครบ 3 ขวบ
- เด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2558 – 30 ก.ย. 2559 แต่มาลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุน ภายหลังวันที่ 30 ก.ย. 2559 จะได้รับเงินอุดหนุนเดือนละ 600 บาท นับแต่เดือนที่มา ลงทะเบียน จนเด็กอายุครบ 3 ขวบ
สำหรับในเดือน ก.ย. เงินอุดหนุน จะเริ่มเบิกจากผ่านระบบ Prompt Pay ในวันที่ 22 ก.ย. 2560 และจะเบิกจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร หรือเงินสดในวันที่ 25 ก.ย. 2560
วิธีการรับ เงินอุดหนุน
- รับเงิน ณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นรับแทนได้)
- รับเงิน ณ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นรับแทนได้)
- รับผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย (นำสำเนาสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทยที่มีหน้าแสดงหมายเลขบัญชีและชื่อผู้รับเงินมายื่น – เข้าบัญชีผู้เลี้ยงดูเด็กได้)
หมายเหตุ: กรณีมอบอำนาจในการรับเงิน ให้นำหนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจมายื่นด้วย
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ได้รับ เงินอุดหนุน
เด็กแรกเกิด:
- เกิดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560
- มีสัญชาติไทย (บิดาและมารดา หรือบิดา หรือมารดา เป็นผู้มีสัญชาติไทย)
- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใด จากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ เงินสงเคราะห์บุตรจากกองทุนประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และไม่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานของรัฐ เช่น บ้านพักเด็กและครอบครัว สถานสงเคราะห์ของรัฐ
หญิงตั้งครรภ์:
- มีกำหนดคลอดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560
- อยู่ในครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน โดยที่หญิงตั้งครรภ์สามารถยื่นลงทะเบียนไว้ก่อนได้ ทั้งนี้ หากการคลอดบุตรในภายหลัง ไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560 ให้ถือว่าสิทธิ์ที่ลงทะเบียนไว้ถูกระงับไปโดยปริยาย
หมายเหตุ:
- กรณีมารดาเด็กเป็นคนต่างด้าว หรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ หรือเสียชีวิต อนุโลมให้บิดาเด็กสัญชาติไทยตามสูติบัตร ลงทะเบียนแทนมารดาเด็กได้หลังจากเด็กเกิดแล้ว โดยให้นำเอกสารหลักฐานของบิดาเด็กและมารดาเด็กในกรณีดังกล่าว ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐมายื่นเพื่อแสดงความจำนงขอรับสิทธิ์
- กรณีอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว หรือสถานสงเคราะห์ของรัฐ จะไม่ได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เนื่องจากได้รับการดูแลจากภาครัฐ แต่หากมีคุณสมบัติ สามารถขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนได้ แต่จะได้รับเงินเฉพาะเดือนที่ไม่อยู่ใน ความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวหรือสถานสงเคราะห์ของรัฐ (หลังออกจากบ้านพักเด็กและครอบครัวหรือสถานสงเคราะห์ของรัฐแล้ว)
กรณี ครัวเรือนยากจน และครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน
หมายถึง ครัวเรือนที่สมาชิกในครัวเรือน มีรายได้เฉลี่ยต่ากว่า 3,000 บาท ต่อคน ต่อเดือน หรือต่ากว่า 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี โดยนำรายได้ของสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว หารด้วยจานวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวซึ่งรวมเด็กแรกเกิดด้วย ในความเป็นจริงการสอบถามรายได้อาจไม่ได้ข้อมูลที่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงจำเป็นต้องใช้การประเมินความยากจนระดับครัวเรือน ด้วยข้อมูลสถานะของครัวเรือนมาประกอบการพิจารณาด้วย (แบบ ดร.02) โดยต้องมีข้อเท็จจริงข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- ครอบครัวมีภาระพึ่งพิง ได้แก่ ในครอบครัวมีคนพิการ หรือผู้สูงอายุ หรือเด็กอายุต่ากว่า 15 ปีหรือคนว่างงาน อายุ 15 – 65 ปี หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
- สภาพที่อยู่อาศัย สภาพบ้านชารุดทรุดโทรม บ้านทำจากวัสดุพื้นบ้าน เช่น ไม้ไผ่ ใบจาก หรือวัสดุเหลือใช้ หรืออยู่บ้านเช่า
- ไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคล รถปิกอัพ รถบรรทุกเล็ก รถตู้
- เป็นเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินไม่เกิน 1 ไร่
ตัวอย่าง การคำนวณรายได้ครัวเรือน:
- ตัวอย่างที่ 1 : ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 5 คน (รวมเด็กแรกเกิด) มีสมาชิกที่มีรายได้ 2 คน คนละ 10,000 บาท รวมมีรายได้ 20,000 บาท นำมาหารจำนวนสมาชิกทั้งหมด คือ มีรายได้ต่อคนต่อเดือน เดือนละ 4,000 บาท จึงไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติครัวเรือนยากจน และครัวเรือนเสี่ยงต่อความยากจน
- ตัวอย่างที่ 2 : ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 7 คน (รวมเด็กแรกเกิด) มีสมาชิกที่มีรายได้ 2 คน คนละ 10,000 บาท รวมมีรายได้ 20,000 บาท นำมาหารจำนวนสมาชิกทั้งหมด คือ มีรายได้ต่อคนต่อเดือน เดือนละ 2,857 บาท จึงผ่านเกณฑ์คุณสมบัติครัวเรือนยากจน และครัวเรือนเสี่ยงต่อความยากจน
วิธีการลงทะเบียน
คุณแม่สามารถไปลงทะเบียนรับ เงินอุดหนุน ได้ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานที่ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด
- กรุงเทพมหานคร : ลงทะเบียน ณ สำนักงานเขต
- ต่างจังหวัด : ลงทะเบียน ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาล
- เมืองพัทยา : ลงทะเบียน ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา
เอกสารที่ต้องเตรียมนำไปลงทะเบียน
- แบบลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ ฯ (แบบ ดร.01)
- แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (แบบ ดร.02)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของหญิงตั้งครรภ์ หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ
- สำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด (ยื่นหลังคลอด) ที่ได้รับการรับรองแล้ว
- สำเนาเอกสารแสดงการฝากครรภ์ หรือ สำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก หน้า 1
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย (กรณีประสงค์รับเงินผ่านบัญชีธนาคาร) หรือ สามารถใช้บัญชีธนาคารกรุงไทยของผู้อื่นที่หญิงตั้งครรภ์ได้แสดงความจำนงไว้ได้ โดยต้องมอบอำนาจ
แบบฟอร์มที่ใช้ประกอบการลงทะเบียน
1. ประกาศกรมกิจการเด็กและเยาวชน เรื่อง การลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
2. แบบลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (แบบ ดร.01)
3. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (แบบ ดร.02)
4. แบบใบสำคัญรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (แบบ ดร.03)
5. แบบรายงานการรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (แบบ ดร.04)
6. ประกาศองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง รายชื่อผู้ขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (แบบ ดร.05)
7. หนังสือขอส่งรายชื่อผู้ขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (กทม.) (แบบ ดร.06/1)
8. หนังสือขอส่งรายชื่อผู้ขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (ต่างจังหวัด) (แบบ ดร.06/2)
9. หนังสือขอแจ้งผลการได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (กทม.) (แบบ ดร.07/1)
10. หนังสือขอแจ้งผลการได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (ต่างจังหวัด) (แบบ ดร.07/2)
11. หนังสือส่งเอกสารหลักฐานของผู้มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (กทม.) (แบบ ดร.08/1)
12. หนังสือส่งเอกสารหลักฐานของผู้มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (ต่างจังหวัด) (แบบ ดร.08/2)
13. หนังสือมอบอานาจ
การรับรองความยากจนในแบบรับรองสถานะของครัวเรือน
ต้องมีผู้รับรอง 2 คน ดังนี้
ผู้รับรองคนที่ 1:
- กรุงเทพมหานคร : ประธานกรรมการชุมชน หรือหัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมประจำสำนักงานเขต
- เมืองพัทยา : ประธานชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขเมืองพัทยา
- เทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล : อพม. หรือ อสม.
- บ้านพักเด็กและครอบครัว หรือ สถานสงเคราะห์ของรัฐ : เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว หรือ เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์
ผู้รับรองคนที่ 2:
- กรุงเทพมหานคร : ผู้อำนวยการเขต หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
- เมืองพัทยา : ปลัดเมืองพัทยา หรือรองปลัดเมืองพัทยาที่ได้รับมอบหมาย
- เทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล : ปลัดเทศบาล หรือปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล หรือผู้ที่ปลัดมอบหมายหรือกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน
- บ้านพักเด็กและครอบครัว หรือ สถานสงเคราะห์ของรัฐ : หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว หรือ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์
หมายเหตุ:
- กรณีที่ผู้ขอรับสิทธิ์ไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนาของตนเอง อาจเกิดปัญหาในการหาผู้รับรอง : องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถอำนวยความสะดวกให้กับหญิงตั้งครรภ์ในการรับลงทะเบียน นอกที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การออกหน่วยเคลื่อนที่ การลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น รวมทั้งกรณีผู้ลงทะเบียนประสบความยากลำบากในการหาผู้รับรอง ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำนวยความสะดวกในการจัดหาผู้รับรองสถานะของครัวเรือนให้กับผู้ลงทะเบียน เช่น มอบหมาย อพม. หรือ อสม. ไปเยี่ยมบ้านเพื่อสอบถามข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานะของครัวเรือนเพิ่มเติม
ที่มา :
https://csg.dcy.go.th/
thestandard.co
คู่มือการดำเนินงานโครงการอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
บทความที่น่าสนใจ :
คัมภีร์ดูแลทารก เด็กแรกเกิดต้องดูแลแบบนี้นะ
ไอเดียฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของเจ้าตัวเล็กที่คุณแม่ทำได้ง่ายๆ (คลิป)
เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด กับ เงินสงเคราะห์เด็ก ต่างกันยังไง ฉบับอัปเดต 2563