อาหารบํารุงครรภ์คุณแม่ นอกจากจะช่วงบำรุงครรภ์ของคุณแม่แล้วยังสามารถที่จะช่วยบำรุงระบบต่าง ๆ ของลูกน้องในครรภ์คุณแม่ได้อีกด้วยนะ เพื่อช่วยให้ระบบประสาทและสมองของลูกน้อยมีความเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และก็ยังมีประโยชน์ต่อตัวคุณแม่เองอีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่าคุณแม่มือใหม่มักที่จะมีความกังวลอยู่หลาย ๆ เรื่อง เช่นว่าจะกินอาหารแบบไหนเพื่อช่วยบำรุงครรภ์ และถึงจะเพียงพอต่อลูกน้อยในครรภ์ในแต่ละช่วงอายุครรภ์ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และมีประโยชน์มากที่สุด
อาหารบํารุงครรภ์คุณแม่ แบบไหนที่เหมาะสมกับลูกน้อยในแต่ละช่วงอายุครรภ์?
อาหารบำรุงครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก (อาหารบำรุงครรภ์ไตรมาสแรก)
ควรเป็นอาหารที่อุดมไปด้วย โฟเลต เพราะสำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยทางด้านสมอง และอาหารที่มี ธาตุเหล็ก จะช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือดให้คงที่ได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะทารกที่ต้องการเลือดที่เต็มไปด้วยธาตุเหล็ก เพื่อช่วยในเรื่องการจับออกซิเจนและสารอาหารเพื่อส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลูกน้อย นอกจากนี้ก็ต้องกินอาหารจำพวกที่มีโปรตีนด้วย สำหรับคนท้อง เช่นเป็นเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก แม่ท้องไม่ควรกินอาหารที่ ดิบ ๆ สุก ๆ เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อไวรัสได้
แม่ท้องควรระวังเรื่องการกินวิตามินบำรุงครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก : แม่ท้องไม่ควรที่จะวิตามินเอ ในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้ หรืออาจจะทำให้ทารกพิการตั้งแต่กำเนิดมาก็เป็นได้
อาหารบำรุงครรภ์ในช่วง 4-6 เดือน (อาหารบำรุงครรภ์ไตรมาสที่สอง)
สำหรับอาหารแม่ท้องในช่วงครรภ์ที่ 4-6 เดือนนั้น ควรระวังในอาหารที่จำพวกกลุ่มเสี่ยง อย่างเช่น นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง แป้งสาลี และอาหารทะเล หากแม่กินในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจเสี่ยงต่อการแพ้ได้ อาจจะหันมาเลือกทานเป็นข้าวกล้อง หรือเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น ไก่ ปลา ผักผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานจนเกินไป เพราะจะทำให้แม่ท้องเป็นเบาหวานในขณะที่ตั้งครรภ์ได้ และแม่ท้องก็อย่าลืมกินอาหารบำรุงครรภ์ในปริมาณที่พอดี ดื่มนม วันละแก้วก็มีความเพียงพอแล้ว หรือกินไข่วันละหนึ่งฟองด้วยนะ
อาหารบำรุงครรภ์ในช่วง 7-9 เดือน (อาหารบำรุงครรภ์ไตรมาสที่สาม)
ในช่วงที่เป็นโค้งสุดท้ายก่อนคลอด อาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาของลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ คุณแม่ต้องกินอาหารที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทและการพัฒนาของลูกน้อย เช่น ธาตุเหล็ก โปรตีน สังกะสี ซีลีเนียม โฟเลต และไอโอดีน หากขาดสารหารจำพวกนี้อาจจะทำให้ส่งผลต่อการสร้างสมองส่วนต่าง ๆ ของลูกน้อยทำให้ไม่สมบูรณ์ได้ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับแม่ท้องในช่วงนี้ คือ อาหารบำรุงน้ำนม ให้เลือกเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง จะช่วยเรื่องการบำรุงเม็ดเลือดแดงนั้นเอง
ส่วนการกินวิตามินเอ : หากพ้นในช่วง 3 เดือนแรกมาแล้วก็สามารถที่จะทานได้ตามปกติ แต่ว่าต้องรับในปริมาณที่เหมาะสม
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินเอในผักผลไม้ แม่ท้องกินได้ไหม คนท้องห้ามกินวิตามินเอ ปริมาณเท่าไร ลูกเสี่ยงพิการจริงหรือ
เมนูอาหารบำรุงครรภ์ เมนูสุดฮิตของแม่ตั้งครรภ์
- ก๋วยเตี๋ยว เป็นเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีสารอาหารครบ 5 หมู่ ไม่ว่าจะเป็นเส้น ผักต่าง ๆ เนื้อสัตว์ จึงเป็นเมนูที่แม่ท้องสามารถทานได้เรื่อย ๆ
- ปลาทูทอด เมนูปลาก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ดีต่อคุณแม่ เพราะมีโปรตีนซึ่งเป็นสารอาหารช่วยเรื่องการเจริญเติบโต ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ และปลาทูทอดก็เป็นอาหารที่ทานง่าย และอร่อยด้วย
- แกงจืดใบตำลึง อาหารประเภทแกงจืดแม่ท้องสามารถที่จะทานได้เรื่อย ๆ และทำให้ไม่อ้วนด้วย ตำลึง ประกอบไปด้วย วิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิด ใยอาหารสูงแต่ให้พลังน้อย ทำให้ไม่ไปสะสมเป็นไขมันนั้นเอง
- ผัดผักรวม ผักเป็นอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทานไว้เยอะ ๆ เนื่องจากผักใบเขียวมีวิตามินและธาตุเหล็กที่จำเป็น และมีประโยชน์ต่อร่างกายแม่ตั้งครรภ์
- อกไก่ผัดขิง ขิง ถือว่าเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ทั้งคุณแม่และคุณลูก รวมไปถึงแม่หลังคลอดด้วยนะ เนื่องจาก ขิง มีสรรพคุณในการช่วยเร่งน้ำนมได้ดี อกไก่ผักขิง เป็นเมนูที่แนะนำแม่ท้องต้องทาน เนื่องจากเนื้ออกไก่มีไขมันน้อย ทานแล้วไม่อ้วนและมีสารอาหารเยอะ รวมไปถึง ขิง ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : อยากตั้งครรภ์ต้องทำอย่างไร? อาหารช่วยได้หรือไม่?
แม่ท้องต้องทานอาหารเสริมบำรุงครรภ์หรือไม่?
อาหารเสริมสำหรับแม่ท้องนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด เป็นผงที่ให้ผสมน้ำหรือนมดื่ม แน่นอนเลยว่า สำหรับแม่ที่ตั้งครรภ์ต้องระวังผลิตภัณฑ์จำพวกนี้เป็นพิเศษ เพราะทุกอย่างที่แม่ทานเข้าไปมักส่งไปถึงลูกที่อยู่ในครรภ์เสมอ ถ้าคุณแม่คิดจะลดอาหาร แล้วกินวิตามินเสริมอย่างเดียว อาจจะไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องสักเท่าไหร่นัก เพราะถ้าหากแม่ท้องได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และจะต้องทานอาหารเสริมเพิ่มเข้าไปนั้น แม่ก็ควรที่จะตรวจสุขภาพก่อนหรือไม่ก็ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนจะดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องเป็นอย่างแน่นอน
ผลของ ยา กับแม่ท้องเป็นอันตรายหรือไม่?
เมื่อรู้ตัวเองว่าท้องหรือกำลังที่จะวางแผนจะมีลูก ควรหยุดยาต่าง ๆ ที่เคยรับประทานมาทันที และควรที่จะนำ ยา นั้น ๆ ไปปรึกษาคุณหมอที่ตนเองนั้นได้รักษาอยู่ว่าทานได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นยาแก้สิว ยาแก้ปวดท้อง หรือแม้กระทั่งยาลดไข้ เพราะในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก หรือ 3 เดือนแรกเป็นเวลาที่ทารกกำลังจะสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ยาในแต่ละชนิดที่ทานเข้าไปนั้นล้วนแต่สร้างผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ทั้งนั้น ถ้าได้รับยาหรือสารเคมีต่าง ๆ ที่ผิดปกติ อาจจะทำให้ทารกพิการได้ หรือแม้กระทั่งยาที่ไม่มีความอันตราย หรือส่งผลกระทบใด ๆ หรือผิดปกติใด ๆ ก็ไม่ควรที่จะซื้อทานเอง เช่น วิตามิน ยาบำรุงเลือด โฟลิก ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น จะส่งผลดีต่อทารกและตัวแม่เอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไมการ นอนตะแคงระหว่างตั้งครรภ์ จึงสำคัญมาก ท่านอนคนท้อง นอนแบบไหนดี
แหล่งที่มา : (cottonbaby), (bccgroup-thailand)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!