X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

อาการท้องเสียในเด็กจากโรคไทฟอยด์

บทความ 3 นาที
อาการท้องเสียในเด็กจากโรคไทฟอยด์

ไม่นานมานี้มีความตื่นตระหนกของผู้ปกครองจากข่าวโรคไทฟอยด์ระบาดในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งเผยแพร่ออกทางโทรทัศน์ คุณพ่อคุณแม่ต้องการพาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันไทฟอยด์กันเป็นจำนวนมาก แต่จริงๆ แล้วเป็นอาการท้องเสียจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “ซัลโมเนลลา (Salmonella)” กลุ่มที่ไม่ใช่ไทฟอยด์ เรามาศึกษาเรื่องโรคนี้กัน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องนะคะ

เชื้อ Salmonella มีลักษณะอย่างไร และแบ่งเป็นกี่ชนิด? ไข้รากศาสตร์น้อย เชื้อ Salmonella เป็นเชื้อ แบคทีเรียรูปแท่งแกรมลบ สามารถแบ่งกลุ่มใหญ่ ๆ ตามอาการและความรุนแรงที่ก่อโรคได้เป็น

ท้องเสียจากโรคไทฟอยด์

 

1. กลุ่มไทฟอยด์ ได้แก่ เชื้อ Salmonella typhi ทำให้เกิดอาการในระบบทางเดินอาหาร คือ ท้องเสีย มีอาการรุนแรง ไข้สูงยาวนาน ติดเชื้อในกระแสเลือดได้บ่อย ซึ่งเรียกกันว่า “โรคไข้รากสาด” และ เชื้อ Salmonella paratyphi A, B หรือ C ซึ่งทำให้เกิดอาการคล้ายกับ เชื้อ Salmonella typhi แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า จึงเรียกกันว่า “โรคไข้รากสาดน้อย”

2. กลุ่มไม่ใช่ไทฟอยด์ (Non-typhoidal Salmonella) แบ่งเป็นกลุ่ม A B C D ตามลักษณะทางปฏิกริยาของน้ำเหลืองต่อแบคทีเรีย และคุณสมบัติทางชีวเคมี มักทำให้เกิดอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรง สามารถหายได้เองภายใน 3-7 วัน
ในที่นี้เราจะเน้นที่โรคไทฟอยด์ ซึ่งเกิดจากเชื้อ Salmonella typhi ที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่านะคะ

โรค ไทฟอยด์คืออะไร

โรคไทฟอยด์สามารถติดต่อได้อย่างไร?

การติดต่อของโรคไทฟอยด์เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำปนเปื้อนเชื้อ Salmonella typhi อยู่ โดยเชื้อจะอยู่ในอุจจาระติดอยู่ที่มือของผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อนี้ คือมีเชื้อโรคอยู่ในร่างกายแต่ไม่มีอาการ

โรคนี้พบได้ทุกช่วงอายุ แต่พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่นะคะ

อาการของโรคไทฟอยด์เป็นอย่างไร?

เมื่อได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการไข้สูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันเหมือนลักษณะขั้นบันได ไข้สูงได้ถึง 39-40 องศาเซลเซียส ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดท้อง เบื่ออาหาร อาจมีท้องผูกหรือท้องเสียก็ได้ เป็นประมาณ 7 วัน ต่อมาจึงมีอาการถ่ายเหลวมีมูกเลือดปน อาจมีผื่นแดงที่หน้าท้องหรือหน้าอก เชื้อโรคจะเข้าสู่กระแสเลือดได้บ่อย หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจมีไข้ ยาวนานถึงเป็นเดือนๆได้ และอาจมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร ลำไส้ทะลุและภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน ไข้จะเริ่มลดลงและหายไปภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จากนั้นอาการโดยทั่วไปจะดีขึ้น แต่ผู้ป่วยอาจจะมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียเรื้อรังอยู่อีกหลายเดือนได้

หากลูกมีอาการท้องเสียสงสัยการติดเชื้อโรคไทฟอยด์ควรทำอย่างไร?

Advertisement

หากลูกมีอาการท้องเสียยืดเยื้อเป็นสัปดาห์ อุจจาระมีมูกเลือดปน มีไข้สูง ซึมลง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาที่ถูกต้อง โดยต้องทำการตรวจอุจจาระ ทำการเพาะเชื้อในอุจจาระและเลือด จึงจะทราบว่าเกิดจากการติดเชื้อชนิดใด แต่หากลูกมีท้องเสียไม่รุนแรง ไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำๆ ทานได้ ไม่ซึม คุณพ่อคุณแม่อาจให้จิบน้ำเกลือแร่ เช็ดตัว หรือทานยาลดไข้ และสังเกตอาการก่อนได้

ไม่ควรทานยาที่ออกฤทธิ์ทำให้หยุดถ่าย เพราะจะทำให้มีเชื้อโรคหลงเหลืออยู่ในลำไส้ไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ ส่งผลให้อาการแย่ลงและเกิดภาวะแทรกซ้อน เป็นอันตรายอย่างมากนะคะ

เราจะป้องกันการติดเชื้อโรคไทฟอยด์ได้อย่างไร?

โรคไทฟอยด์ในเด็กสามารถป้องกันได้โดยสอนลูกให้รู้จักการรักษาสุขอนามัย เช่น ล้างมือให้สะอาดก่อนทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ขับถ่ายลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ทานอาหารที่ผ่านการปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด ใช้ช้อนกลางเมื่อทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไทฟอยด์ ป้องกันได้เฉพาะเชื้อ Salmonella typhi แต่ไม่แนะนำให้ใช้วัคซีนนี้ในประเทศไทยแล้ว

เนื่องจากปัจจุบันพบโรคไทฟอยด์ในประเทศไทยน้อยมากๆเนื่องจากสุขอนามัยที่ดีขึ้น จึงแนะนำให้รับวัคซีนป้องกันโรคเฉพาะ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อสูง เช่น อินเดีย บุคลากรที่ทำงานในห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับเชื้อโรคนี้โดยตรงและบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อเท่านั้น

สำหรับข่าวการระบาดในครั้งนี้ สรุปว่าเกิดจากการติดเชื้อในกลุ่ม Salmonella ที่ไม่ใช่ไทฟอยด์ วัคซีนจึงไม่มีประโยชน์ในการป้องกันค่ะ

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

ทุกเรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ เมื่อลูกท้องเสีย

5 โรคติดต่อควรเฝ้าระวังในปี 2559

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • อาการท้องเสียในเด็กจากโรคไทฟอยด์
แชร์ :
  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว