17 อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 16

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่มือใหม่ส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกับพัฒนาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ และ แม่ท้องคนไหนมีความกังวล หรือ ความสงสัยว่าตัวเองจะท้องหรือเปล่า วันนี้ theAsianparent Thailand นำบทความ อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน มีเรื่องไหนที่ควรรู้ อาการแบบไหนที่แม่ท้องจะต้องรู้สำหรับคนท้อง มาดูกัน

 

17 อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน ที่ต้องรู้

หลายคนอาจสงสัยด้วยอาการที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ ช่วงเดือนแรกอาจสังเกตได้ยาก แต่เมื่อย่างเข้าสู่เดือนที่ 2 อาการของคนท้องจะสังเกตได้ง่ายกว่า สังเกตแบบไหนบ้าง เราจะพากันไปเช็กทีละข้อ

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการคนเริ่มท้อง เป็นยังไง ดูยังไงว่าตัวเองท้องหรือไม่ ภาวะตั้งครรภ์ปกติหรือเปล่า

 

 

1. ประจำเดือนขาด

โดยปกติแล้วประจำเดือนของผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อายุระหว่าง 15-49 ปี จะมีระยะเวลา 21-35 วัน และจะมาใกล้เคียงกันทุกเดือน แต่หากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 10 วันก็สามารถเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า “กำลังตั้งครรภ์” เนื่องจากไข่กับตัวอสุจินั้นมีการปฏิสนธิกัน โดยร่างกายจะผลิต ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จำนวนมากออกมา นั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผนังมดลูกหลุดออกมาเป็นประจำเดือน อย่างไรก็ตาม การที่ประจำเดือนขาด บางครั้งอาจจะเกิดจาก ความผิดปกติ ของฮอร์โมน หรือ ภายในมดลูกได้ ดังนั้นควรทำการตรวจเพื่อความแน่ใจอีกครั้งจะดีที่สุด เพราะบางครั้งการขาดประจำเดือนก็อาจจะหมายถึงมีโรคบางอย่าง เช่น โรคของระบบต่อมไร้ท่อ เบาหวาน โรคเกี่ยวกับรังไข่

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. คัดเต้านม

โดยทั่วไปแล้วเวลาจะมีประจำเดือน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีการคัดเต้านมเล็กน้อย ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ก็เช่นกัน แต่การคัดเต้านมของคนท้องนั้นจะคัดตึงและนานกว่า เพราะร่างกายกำลังเตรียมสร้างน้ำนมให้ลูกน้อย ขยายใหญ่ขึ้น แต่ไม่นานก็จะหายไปเอง โดยผู้หญิงบางคนอาจจะรู้สึกเจ็บเต้านมและหัวนมด้วย ในช่วงตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้หน้าอกอ่อนนุ่ม เพื่อรองรับการให้นมลูกในอนาคต อีกทั้งบริเวณหัวนมจะเริ่มมีสีคล้ำขึ้น หน้าอกจะเริ่มขยาย และ ไวต่อการสัมผัส รวมถึงบางครั้งอาจจะมีอาการเจ็บตึงด้วย

 

3. ปัสสาวะบ่อย

ช่วงตั้งครรภ์ใหม่ ๆ ในช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ไตจะทำงานหนักกว่าปกติ เพราะปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มขึ้น (มดลูกโตขึ้นจากการตั้งครรภ์ เลือดเลยต้องไปเลี้ยงมดลูกกว่าปกติ) ร่างกายจึงปรับตัวให้มีเลือดเพิ่มมากขึ้น ชีพจรเต้นเร็วขึ้น มีเลือดผ่านไตมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ไตกลั่นเอาปัสสาวะมามากขึ้น ในขณะเดียวกันมดลูกที่อยู่ติดกับด้านหลังของกระเพาะปัสสาวะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เบียดและกดทับกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้แม่ท้องปัสสาวะบ่อยมากขึ้น แต่เมื่อถึงช่วงกลางของการตั้งครรภ์มดลูกจะอยู่สูงขึ้น

 

4. กรดไหลย้อน

คนท้องส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคนี้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ทานอาหารเสร็จแล้วนอนเลย เนื่องจากว่ากรดในกระเพาะอาหารไหลเข้าสู่หลอดอาหารทำให้เกิดอาการแน่น จุกเสียดท้อง วิธีป้องกัน คือ คุณแม่ต้องแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผลไม้รสเปรี้ยว ช็อกโกแลต และอาหารที่มีรสเผ็ด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

5. อาการแพ้ท้อง

แม่ท้องส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ บางคนรู้สึกหวิว ๆ ใจสั่น บางคนหน้ามืด ซึ่งอาการเหล่านี้เรียกว่า “อาการแพ้ท้อง” หรือ Morning Sickness อาการแพ้ท้อง มีสาเหตุมาจากอะไรนั้น ในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่สูงขึ้น จากการทำงานของรก คนท้องส่วนใหญ่จะรู้สึกแพ้ท้องมาก หลังจากตื่นนอนตอนเช้า และจะยิ่งเป็นหนักขึ้น ถ้าหากท้องว่างมากเป็นพิเศษ แม่ท้องแต่ละคนมีอาการแพ้ท้องที่แตกต่างกัน บางคนรู้สึกพะอืดพะอม บางคนอาเจียนร่วมด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • วิงเวียนศีรษะหรือเป็นลม : โดยเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือความดันโลหิตลดลงก็อาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ แต่การรับประทานอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยป้องกันอาการเหล่านี้ได้
  • ไวต่อกลิ่น : เมื่อเข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ มีอาการที่จมูก ของแม่ท้องจะไวต่อกลิ่นทุกชนิดมากขึ้น หรือที่เรียกว่า Super Smell เป็นพิเศษ บางครั้งก็อาจทำให้แม่ท้องรู้สึก เหม็น หรือจู่ ๆ ก็ไม่ชอบกลิ่นที่คุ้นเคย จนเกิด อาการคลื่นไส้อาเจียนได้ บางครั้งก็เหม็นน้ำหอม เหม็นอาการ เหม็นตัวสามี ก็เป็นได้
  • ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไป : ในช่วงแรกของ การตั้งครรภ์ แม่ท้องอาจมีการรับรู้ รสชาติอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป จนอาจทำให้รู้สึกว่า ทานอะไรก็ไม่อร่อย บางทีก็อยากทานของแปลก ๆ อย่างเช่นอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือ อาหารที่แม่ท้องอาจไม่ได้รู้สึก ว่าอยากกินมาก่อน

 

6. ปวดหลัง

ปวดหลังตอนท้อง เป็นอาการที่แม่ท้องส่วนใหญ่ต้องเผชิญ ซึ่งการปวดหลังตอนท้องนั้น จะเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่จะมาจากการขยายตัวของกล้ามเนื้อส่วนกลาง ที่เป็นผลมาจากมดลูกขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับทารกตัวน้อยที่กำลังเติบโตภายในร่างกาย รวมถึงอาจจะมีอาการตะคริวร่วมด้วย โดยอาการเหล่านี้นับว่าเป็นอาการปกติของคนท้อง และอาการปวดหลังสามารถเกิดได้ตลอดเวลาในการตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักตัวที่มากขึ้นทำให้ศูนย์กลางของการทรงตัวเปลี่ยนไป วิธีการรับมือคือปรับเปลี่ยนด้วยท่านอน เป็นตะแคง ใช้หมอนข้างสำหรับวางขา เลือกที่นอนที่แข็งพอดี และไม่นุ่มจนเกินไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องปวดหลังมาก อันตรายไหม? บริหารร่างกายแก้ปวดหลังอย่างไรดี

 

7. มีตกขาวมากผิดปกติ

ในช่วงการตั้งครรภ์ สรีระและฮอร์โมนในร่างกายจะมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการตกขาว ในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปกติ แต่อย่าเพิ่งตกใจถ้าลักษณะของการตกขาวเป็นมูกเหลวสีขาวขุ่นหรือครีม เพราะนั่นก็ถือเป็นสภาวะปกติไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณปากมดลูกและช่องคลอดจะมีการสร้างของเหลวออกมาเพื่อหล่อลื่นบริเวณปากช่องคลอด แต่ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ก็ควรดูแลรักษาทำความสะอาดช่องคลอด เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น

 

8. มีลมในกระเพาะมากขึ้น

โดยแม่้ทองจะรู้สึกว่าท้องตัวเองป่องมากขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร เลยทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณแม่ทำงานได้ช้าลง เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย

 

 

9. สีของเยื่อบุช่องคลอด

แม่ท้องอาจจะรู้สึกว่าอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานบวมน้ำ เยื่อบุช่องคลอดคล้ำขึ้นเป็นสีม่วงแดงหรือสีน้ำเงิน บางครั้งก็เกิดจากการอักเสบบริเวณช่องคลอดได้

 

10. อารมณ์แปรปรวน

สาเหตุที่คนท้องมักมีอารมณ์แปรปรวนนั้นมาจากการที่ร่างกายเกิดความอ่อนเพลียของร่างกาย จากความเครียดสะสม และจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลต่อระดับสาร ที่ส่งผ่านประสาท ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์จากสมอง จึงทำให้คนท้องอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

11. มีอาการอ่อนเพลีย

แม่ท้องจะรู้สึกเหนื่อย และอยากนอนตลอดเวลา เนื่องจาก ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายคลายตัวเหมือนยากล่อมประสาท ภายในร่างกายมีการเผาไหม้อาหารหรือใช้พลังงานอย่างมากในการพัฒนาลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงและสูญเสียพลังงานมากขึ้น โดยทำให้แม่ท้องมีอาการเหนื่อยง่าย

 

12. ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น

ในช่วงท้องร่างกายแม่ท้องจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมากกว่าปกติ และมีความรู้สึกร้อนง่าย จากไม่ชอบพัดลม หรือแอร์ ก็จะชอบที่จะอยู่หน้าพัดลม หรือ หน้าแอร์ นั้นเป็นเพราะร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น

 

13. ปวดหัวบ่อยขึ้น

ระหว่างการตั้งครรภ์ แม่ท้องหลายคนมักมีอาการปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะร่างกายที่เปลี่ยนแปลง ด้วยระดับฮอร์โมน ความดัน โดยเฉพาะคนท้องไตรมาสแรก ที่ทำให้แม่ท้องรู้สึกปวดหัว ซึ่งจริง ๆ แล้ว การที่คนท้องปวดหัวบ่อย ๆ เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป ทั้งยังสามารถเป็นต่อเนื่องไปตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์

 

 

14. ปวดเกร็งในช่องท้อง

โดยการปวดเกร็งในช่องท้องนั้นมาจากการปวดประจำเดือนหรือตั้งครรภ์ ในช่วงแรกอาจจะบอกได้ยาก แต่ถ้าแม่ท้องรู้สึกปวดหน่วง ๆ ก็อาจจะเป็นได้ว่ามีการยืดขยายของมดลูกที่พร้อมสำหรับการมีลูก หรือ แปลว่ากำลังตั้งครรภ์นั้นเอง

 

15. หายใจถี่

เมื่อรู้สึกมีอาการหายใจถี่ เหนื่อยง่ายในขณะทำงานที่ต้องใช้แรงงาน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกได้ว่ากำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากตัวอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตในครรภ์ มีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ และเมื่อทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตมากขึ้นจะมีแรงกดดันต่อปอดและกะบังลม ส่งผลทำให้แม่ท้องมีอาการหายใจถี่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตลอดการตั้งครรภ์

 

16. มีเลือดซึมออกมาจากช่องคลอด

หากแม่เห็นเลือดซึมออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ใช่ประจำเดือนอย่าเพิ่งตกใจ เพราะนั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ในระยะแรก เนื่องจากร่างกายอยู่ในสภาวะปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการปฏิสนธิภายในมดลูก ในช่วง 11-12 วันหลังปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะฝังในเยื่อบุโพรงมดลูก อาจทำให้คุณแม่บางคนมีเลือดสีแดงจาง ๆ หรือ ชมพู ปริมาณไม่มาไหลออกมาจากช่องคลอดได้ และเลือดนี้จะหยุดไหลไปเองใน 1-2 วัน หากไม่มีอาการปวดเกร็งก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่หากเลือดไหลไม่หยุด และมีอาการปวดเกร็งท้องร่วมด้วยควรไปพบแพทย์ทันที

 

17. มีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง

ในช่วงตั้งครรภ์นั้นร่างกายจะสร้าง Pigmentation ของผิวหนังมากขึ้น ทำให้บริเวณใบหน้า คอ รักแร้ อวัยวะเพศ มีสีคล้ำขึ้น ไม่ขาวผ่อง นอกจากนี้เส้นกลางท้องที่คล้ำอาจจะเด่นขึ้น หรือที่เรียกว่า Striae

 

อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน ทั้ง 17 อาการนี้ เป็นวิธีการสังเกตเบื้องต้นหากจะเช็กด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามหากต้องการความชัดเจน เราแนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างเป็นทางการจะดีกว่า

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อาการคนท้อง 3 เดือน เป็นอย่างไร 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 17

เช็กด่วน!! อาการคนท้อง 1-2 สัปดาห์ ก่อนตรวจตั้งครรภ์ เป็นยังไงมาดูกัน !

อาการคนท้องเดือนที่ 1 – 9 เป็นอย่างไร อาการท้อง แต่ละเดือนต้องเจออะไรบ้าง

ที่มา : sikarin, pobpad

บทความโดย

bossblink