หูลูกติดเชื้อ
หูลูกติดเชื้อ จากหวัดธรรมดากลายเป็นหูน้ำหนวก หมอเตือน โรคหูน้ำหนวกในเด็ก พบบ่อยในเด็กเล็ก อาการหูลูกติดเชื้อที่พ่อแม่ต้องระวัง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้ความรู้เรื่องโรคหูน้ำหนวกในเด็ก ว่า โรคหูน้ำหนวกในเด็กเป็นการอักเสบของเยื่อบุหูชั้นกลาง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักเกิดหลังจากลูกเป็นหวัด เชื้อโรคจะเกิดขึ้นจากคอผ่านไปยังหูชั้นกลาง ทำให้เยื่อบุหูชั้นกลางอักเสบ สำหรับโรคหูน้ำหนวกแบ่งได้ 3 ชนิด
- หูน้ำหนวกชนิดเฉียบพลัน
- หูน้ำหนวกชนิดใส
- หูน้ำหนวกชนิดเรื้อรัง
หูลูกติดเชื้อเป็นโรคหูน้ำหนวกชนิดเฉียบพลัน
หูน้ำหนวกชนิดเฉียบพลันเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่เกิดหลังจากเป็นหวัดหรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ มักมีอาการค่อนข้างรุนแรง เด็กจะมีอาการปวดหูมากและเป็นไข้ ต่อมาอาจมีแก้วหูทะลุและมีน้ำหนวกไหล
วิธีรักษาโรคหูน้ำหนวกชนิดเฉียบพลันในเด็กเมื่อหูลูกติดเชื้อ : แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ ยาแก้หวัด ยาแก้ไข้ และยาหยอดจมูก
หูลูกติดเชื้อเป็นโรคหูน้ำหนวกชนิดใส
นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี อธิบายว่าหูน้ำหนวกชนิดใส เกิดจากการทำงานของท่อระบายอากาศในหูชั้นกลางบกพร่อง ทำให้มีน้ำขัง ลูกจะรู้สึกเหมือนมีน้ำขังอยู่ในหูตลอดเวลา มักเป็นหลังการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไซนัสอักเสบโรคภูมิแพ้ทางจมูก มักมีอาการปวดหูเล็กน้อย หูอื้อ เสียงก้องในหู
วิธีรักษาโรคหูน้ำหนวกชนิดใสในเด็กเมื่อหูลูกติดเชื้อ : แพทย์จะรักษาโรคที่เป็นต้นเหตุของน้ำในหูชั้นกลางควบคู่กับการให้ยา ถ้าไม่หายภายใน 3 เดือน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โดยการเจาะแก้วหูเพื่อดูดน้ำออกจากหูชั้นกลาง และใส่ท่อระบาย
หูลูกติดเชื้อเป็นโรคหูน้ำหนวกชนิดเรื้อรัง
หูน้ำหนวกชนิดเรื้อรัง คือ ภาวะที่มีอาการอักเสบของหูชั้นกลางมากกว่า 3 เดือน และมีแก้วหูทะลุ มีน้ำหนวกไหล อาจมีอาการตลอดเวลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ เกิดจากการที่เป็นหูน้ำหนวกเฉียบพลัน แล้วไม่ได้รับการรักษาปล่อยไว้จนอักเสบเรื้อรัง แบ่งเป็น
1. หูอักเสบเรื้อรังชนิดไม่รุนแรง มีแก้วหูทะลุ มีน้ำหนวกไหลเป็นระยะ รักษาด้วยการกินยาและหยอดยา หรือผ่าตัดปะแก้วหูเมื่อหูแห้ง
2. หูอักเสบชนิดเรื้อรังรุนแรง เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ฝีหลังหู หน้าเบี้ยว เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในสมอง หูหนวก เวียนศีรษะ ชัก เป็นต้น รักษาโดยการผ่าตัด
เมื่อหูลูกติดเชื้อ พ่อแม่ต้องดูแลสุขอนามัยของลูก และให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนอย่างเพียงพอ ที่สำคัญ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้อาการหูลูกติดเชื้อ ดีขึ้นได้เร็วที่สุด
ที่มา : https://www.thaihealth.or.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ตัดเล็บโดนเนื้อถึงได้รู้! ลูกป่วยโรคเลือดไหลไม่หยุด พบได้แค่ 1 ในล้าน!
แม่จ๋า! อ่านก่อนนะอย่าเพิ่งแคะหูลูกเพราะขี้หูมีประโยชน์มากกว่าที่คิด
ระวัง! หวัดขึ้นหู เสี่ยงลูกหูหนวก โรคอันตรายจากหน้าฝน