วิธีกระตุ้นการรับรู้และอารมณ์ของลูกในครรภ์
ในช่วงที่ลูกน้อยค่อยๆเจริญเติบโตอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้น ที่มีการเจริญเติบโต แต่ลูกน้อยยังมีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจควบคู่กันไปด้วย ซึ่งตลอด 9 เดือนในท้องของคุณแม่นั้น ลูกจะสามารถเรียนรู้ และซึมซับอารมณ์ของคุณแม่ และกลายเป็นพื้นฐานทางด้านจิตใจของลูกต่อไปในอนาคต ดังนั้น การกระตุ้นการรับรู้และอารมณ์ของลูกในครรภ์ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เรามาดูกันครับว่า วิธีกระตุ้นการรับรู้และอารมณ์ของลูกในครรภ์ มีอะไรบ้าง
6 วิธีกระตุ้นการรับรู้และอารมณ์ของลูกในครรภ์
#1. แม่ท้องต้องคิดบวก
ระหว่างตั้งครรภ์นั้น การที่แม่ท้องคิดบวก มองโลกในทางสร้างสรรค์ จะช่วยให้ความรู้สึกนึกคิดในเชิงบวก ส่งผ่านไปยังทารกน้อยในครรภ์ แต่ในทางตรงกันข้าม หากแม่ท้องคิดแต่ในแง่ลบ หงุดหงิดง่าย มีแต่ความเครียด อารมณ์ด้านลบนี้ก็จะส่งผ่านไปถึงลูกในท้องได้เช่นกัน ดังนั้น หากแม่ท้องมองโลกในแง่ดี คิดและพูดเรื่องดีๆ ลูกน้อยก็จะได้รับสิ่งดีๆ และมีความสุขเหมือนคุณแม่นะครับ
#2. แม่ท้องต้องไม่เครียด
แน่นอนครับว่า คนอารมณ์ดี ย่อมมีความสุขกว่าคนอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า คุณแม่ที่มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา และส่งผ่านไปยังลูกในท้อง ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางด้านสมอง (IQ) และทางอารมณ์ (EQ)
ในทางตรงกันข้าม หากแม่ท้องเครียดอยู่ตลอด ร่างกายก็จะหลั่งสารที่เรียกว่า อะดรีนาลีน (Adrenaline) ออกมา และส่งผ่านไปยังลูกน้อย ทำให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า ดังนั้น ถ้าอยากให้ลูกฉลาด เลี้ยงง่าย พัฒนาการดี แม่ท้องต้องไม่เครียดนะครับ
#3. หายใจลึกๆ
การหายใจลึกๆ เป็นวิธีที่แสนง่าย แต่ได้ผลดี เพราะหากแม่ท้องค่อยๆหายใจลึกๆ จะทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งลูกน้อยสามารถสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายของคุณแม่ ทำให้สารเคมีในสมองลูกมีการพัฒนา ช่วยปกป้องลูกน้อยจากฮอร์โมนความเครียด และยังช่วยให้ลูกจัดการกับความเครียดได้ดีเมื่อเขาโตขึ้นอีกด้วย
#4. พูดกับลูกในท้อง
ลูกในท้องสามารถได้ยินเสียงของคุณแม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้น การคุยกับลูก จึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกน้อย การพูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อยๆ จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก ของทารกน้อยได้ดี ทำให้ระบบประสาท และสมองส่วนที่ควบคุมการได้ยิน มีพัฒนาการที่ดี
คุณแม่ควรพูดกับลูกในท้องบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล โดยอาจจะเรียกชื่อลูก หรือพูดประโยคเดิมซ้ำๆ อย่างเช่น “แม่รักหนูนะลูก” เพื่อให้ลูกคุ้นเคย แต่อย่าไปเล่าเรื่องที่คุณกำลังไม่สบายใจ เช่น ไม่มีเงินใช้หนี้ หรือ ส่งแชร์ไม่ทัน ให้ลูกฟังล่ะ เพราะแทนที่ลูกจะมีความสุข กลายเป็นว่าจะเครียดเสียตั้งแต่อยู่ในท้องนะครับ
#5. เล่นกับลูกในท้อง
การเล่นกับลูกในท้อง เป็นการช่วยกระตุ้นการรับรู้และอารมณ์ของลูกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ แถมยังช่วยให้ลูกหัวดีเมื่อคลอดออกมาด้วยนะครับ สำหรับ วิธีเล่นกับลูกในท้อง ก็ไม่ยากเลย โดยคุณแม่สามารถติดตามอ่านได้ในบทความตาม Link ที่อยู่ด้านล่างนี้นะครับ
>> วิธีเล่นกับลูกในท้อง ยิ่งเล่น ลูกยิ่งฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ <<
#6. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมในช่วงตั้งครรภ์ จะช่วยให้ลูกในท้องสงบและผ่อนคลาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ออกซิเจนไหลผ่านกระแสเลือดของลูกน้อยได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย โดยเฉพาะด้านสมอง โดยแม่ท้องอาจจะออกกำลังกายโดยการเดิน วันละประมาณ 20 – 30 นาที และหากได้ออกไปเดินรับแสงแดดอ่อนๆตอนเช้า หรือตอนเย็น ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดดอีกด้วย นอกจากนี้ แม่ท้องอาจเลือกออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ ตามที่คุณหมอแนะนำก็ได้นะครับ
ทราบถึง วิธีกระตุ้นการรับรู้และอารมณ์ของลูกในครรภ์ กันไปแล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ถ้าคุณแม่ทำได้ตามวิธีข้างต้น ก็มีโอกาสที่ลูกจะเกิดมาเป็นเด็กอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย ไม่งอแง และหากคุณแม่ท่านใดที่มีประสบการณ์การกระตุ้นลูกน้อยในแบบต่างๆ ก็สามารถร่วมแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อแม่ท้องท่านอื่นๆได้ ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้เลยนะครับ
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
อยากมีครรภ์คุณภาพ ลูกในท้องแข็งแรง ต้องดูแลแบบนี้ แท็กสามีได้เลย
วิธีทำให้คลอดง่าย ช่วยแม่ท้องสบายก่อนเบ่งเจ้าตัวน้อย
ข้อห้ามคนท้อง เรื่องไหนต้องหยุด เพื่อลูกรอดแม่ปลอดภัย