วันไวท์เดย์ ถือเป็นวันแห่งความรักอีกหนึ่งวันของชาวญี่ปุ่น เป็นวันเฉพาะที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก อาจจะด้วยวัฒนธรรมที่ละเอียดอ่อน รวมถึงการให้ความสำคัญในการสื่อถึงความรู้สึกต่าง ๆ ซึ่งก็มีบางกระแส ได้บอกว่า วันไวท์เดย์ เป็นอีกหนึ่งวันที่เกิดขึ้นจากการทำการตลาด เพื่อการขายสินค้าผลิตภัณฑ์ผ่านอีเว้นท์น่ารัก ๆ อีกด้วย
แต่กระแสของวันไวท์เดย์ กลับได้รับการยอมรับ และเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นวันที่จะตอบรับความรัก หลังจากผ่านพ้นวันวาเลนไทน์ จนสุดท้าย การตลาดนี้ ถูกทำอย่างต่อเนื่องจนได้กลายเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรม ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และก็ยังมีคู่รัก อีกหลาย ๆ ประเทศ ที่รับประเพณี หรือวัฒนธรรมนี้ไปใช้ด้วยเช่นกัน
มารู้จักวันไวท์เดย์กันเถอะ
ต้องเข้าใจก่อนว่า ธรรมเนียมปฏิบัติของทางประเทศญี่ปุ่นนั้น ในวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะเป็นวันที่หญิงสาวทั้งหลาย จะส่งมอบช็อกโกแล็ต ที่ถูกหุ้มห่ออย่างดี ให้กับคนที่ตนเองสนใจอยู่ (ในขณะที่ ประเทศอื่น ๆ อาจจะมอบดอกไม้ให้กันกับเพื่อน ผู้ชายมอบดอกไม้ให้ผู้หญิง หรือไปออกเดทแสดงความรักแก่กันและกัน)
หลังจากนั้น วันวาเลนไทน์ดังกล่าว ก็จะมีการทิ้งช่วงเอาไว้ประมาณ 30 วัน นั่นก็คือ 1 เดือนหลังจากวันวาเลนไทน์ จะเป็นวันไวท์เดย์ หรือ 14 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งจะเป็นวันที่ทางฝ่ายชาย จะต้องตอบกลับทางฝ่ายหญิง ผู้ที่ให้ช็อกโกแล็ตมาก่อนหน้านี้นั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : คําคมวันวาเลนไทน์ คําคมความรักวันวาเลนไทน์ แคปชั่นวันวาเลนไทน์
ทำไมถึงต้องทิ้งช่วง 1 เดือนจากวันวาเลนไทน์
หากถามว่า ทำไมถึงต้องทิ้งช่วงถึง 1 เดือน ก็ต้องบอกว่า ช่วงระยะเวลา 1 เดือนนี้ จะเป็นระยะเวลาที่ให้ทางฝ่ายชาย ได้สังเกต หรือแอบดูคนที่มาบอกรัก ว่าตรงกับสเป็คของตนเองหรือไม่ หรือตนเอง รู้สึกสนใจเธอมากน้อยแค่ไหน เพราะบางคู่ ฝ่ายชายอาจจะไม่เคยรู้จักฝ่ายหญิงเลย จึงต้องใช้เวลาในช่วง 30 วันนี้ เพื่อเรียนรู้เธอคนนั้น ผ่านการสังเกต พูดคุย หรืออาจจะสอบถามผ่านเพื่อนสนิท หรือคนรู้จัก
เมื่อถึงวันไวท์เดย์ ฝ่ายชายนั้นก็จะเป็นการตอบกลับฝ่ายหญิง ว่าจะตกลงที่จะเริ่มศึกษาดูใจกันหรือไม่ ด้วยการให้สิ่งของเป็นการตอบกลับนั่นเอง สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น การตอบรับเพื่อศึกษาดูใจกันยังไม่ถึงกับการคบกันเป็นแฟน แต่อาจจะเป็นเพื่อนสนิทกันมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาร่วมกันมากยิ่งขึ้น เมื่อมั่นใจแล้วว่าชอบ ว่ามีความสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน และอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ชัดเจน ก็จะมีการสารภาพรัก เพื่อขอเปลี่ยนสถานะอีกครั้งหนึ่ง
อย่างที่เกริ่นมาข้างต้นว่า วัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นนั้น มีความละเอียดอ่อนอย่างมาก ดังนั้น สิ่งของที่จะนำไปตอบรับ ก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป หากคุณอยู่ที่ต่างประเทศ การให้สิ่งของต่าง ๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องซีเรียส แต่หากคุณได้มีโอกาสไปอยู่ที่ญี่ปุ่น แล้วจะต้องตอบรับอีกฝ่าย จะต้องใส่ใจในความหมายของสิ่งของนั้น ๆ เป็นพิเศษค่ะ เพราะ “ให้ของผิด ชีวิตเปลี่ยน” ได้นะเออ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 5 เมนูขนมหวาน วันวาเลนไทน์ ทำง่าย อร่อยได้ หวานได้ทั้งครอบครัว!
ของขวัญยอดนิยมในวันไวท์เดย์ คืออะไร?
แน่นอนว่า ของขวัญยอมนิยม ก็คงหนีไม่พ้นของหวาน ที่สื่อถึงความสวีทหวานของความรัก แล้วของหวานนี้ นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังจะต้องน่ารัก และถ่ายรูปสวยอีกด้วย (ต้องเข้าใจนะ เพราะทุกวันนี้ เราอยู่ในสังคมที่อวดความเป็นไปในชีวิต ผ่านทางโซเชียลไง) หรืออาจจะเป็นเครื่องดื่มที่หยิบง่าย เครื่องประดับที่ทำให้เฉพาะคนพิเศษ นั่นเอง
ความหมายของขนม ในวันไวท์เดย์
เมื่อนึกถึงการคืนไวท์เดย์ หลาย ๆ คนอาจกังวลถึงความหมาย เราอยากจะแนะนำความหมายของขนมทั่วไปที่มักให้ในวันไวท์เดย์กันค่ะ เพื่อที่จะได้รู้ว่า เราควรจะให้อะไร กับอีกฝ่ายดี
- ลูกอม / ลูกกวาด = “ฉันชอบคุณ”
- Marshmallow = “ฉันเกลียดคุณ”
- คุกกี้ = “คุณเป็นเพื่อน”
- Caramel = “คนที่รู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วยกัน”
- Macaron = “คุณคือคนพิเศษ”
- Cupcake = “คุณคือคนพิเศษ”
- Baumkuchen = “ขอให้ความสัมพันธ์ของคุณดำเนินต่อไป”
- Madeleine = “ฉันอยากสนิทกับคุณมากกว่านี้”
- ช็อกโกแลต = ไม่มีความหมายพิเศษ
หากสนใจเกี่ยวกับความหมาย การหลีกเลี่ยงมาร์ชเมลโลว์เผื่อไว้อาจจะปลอดภัยกว่าค่ะ นอกจากนั้น มันมีความหมายในเชิงบวกมากกว่า ดังนั้นไม่สำคัญว่าคุณจะเลือกอันไหน ก็ยังคงสื่อความหมายที่ดีให้กับอีกฝ่าย
แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็เริ่มมีกลุ่มคนออกมาต่อต้านของการสื่อความหมายจากชนิดขนมเช่นกัน เพราะเขารู้สึกว่า การให้ของขวัญ หรือมอบของให้กับอีกฝ่าย มันก็คือความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้นั่นเอง จึงไม่ยุติธรรม ที่จะมากำหนดว่า ของสิ่งนั้น ขนมชิ้นนี้ จะบอกว่าเกลียดหรือไม่ชอบ เพราะถ้าเกลียดหรือไม่ชอบ ก็แค่ไม่ให้ตอบกลับไป ก็โอเคแล้วป่ะ อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละคนนะคะ แอดแค่เอามาบอกเล่าเก้าสิบเท่านั้นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ของหวาน ดีต่อใจเด็ก แล้วดีต่อสุขภาพด้วยหรือเปล่า กินยังไงให้ปลอดภัย
วันไวท์เดย์ คือวันสำหรับใคร?
เชื่อว่าหลาย ๆ คน มักจะเข้าใจว่า วันไวท์เดย์ เป็นวันสำหรับคนโสด ที่กำลังเลือกคู่ที่จะสานสัมพันธ์กันต่อ จนนำไปสู่คู่รักที่น่าอิจฉา แต่ในขณะเดียวกัน วันไวท์เดย์ ยังเป็นอีกหนึ่งวัน สำหรับคนที่มีคู่อยู่แล้ว คนที่แต่งงานแล้ว หรือแม้กระทั่ง เพื่อนรักคนสนิท ก็ยังสามารถร่วมฉลองวันดี ๆ แบบนี้ได้เช่นกัน
ไวท์เดย์ วันแห่งครอบครัว
วัฒนธรรมในการทำงานของคนญี่ปุ่นนั้น เป็นการทำงานแบบทุ่มสุดตัว บางคนเรียกว่าสุดโต่งก็ว่าได้ หลายคนแทบจะไม่มีเวลากลับบ้าน เพื่อไปใช้เวลากันกับครอบครัว และภรรยาของเขา ดังนั้น วันไวท์เดย์ จึงกลายเป็นวันที่เขาจะได้กลับมาใช้เวลาสวีทหวานแหววกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเขาใช้เรียกวันนี้ว่า “กลับไปหาเธอที่รัก” นั่นก็คือ กลับไปใช้เวลากับคุณภรรยาที่แสนดีนั่นเอง หรืออีกนัยหนึ่ง เรียกว่าเป็นวันแห่งการปลอบประโลม วันขอบคุณคู่ชีวิต ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณสำหรับการดูแลใส่ใจกันและกัน
หากจะให้แนะนำถึงของขวัญสำหรับคู่รักกลุ่มนี้ ที่เต็มไปด้วยความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจด้วยกันมาตลอด ก็จะได้แก่
- เครื่องสำอางขนาดเล็ก ที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนั้น ๆ
- บัตรกำนัลสปา ทำเล็บ ทำผม สถานที่พักผ่อน เพื่อความผ่อนคลาย เป็นต้น
- หรืออาจจะเป็นดอกไม้สักช่อ
- เครื่องประดับแทนใจ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : สาวน้อยแฟชั่นนิสต้าจากญี่ปุ่น Coco Pink Princess ที่แบรนด์หรูให้ความสนใจ
วันแห่งเพื่อนรัก เพื่อนรู้ใจ
สังคมญี่ปุ่นที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง ทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อน มักจะห่างเหินเมื่อต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ ที่จะต้องรับผิดชอบ การที่เราจะมีเพื่อนดี ๆ เพื่อนรู้ใจ และคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดมา จึงเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ดังนั้น วันไวท์เดย์นี้ จึงไม่แปลกที่จะเป็นอีกหนึ่งวัน ที่เพื่อนจะสามารถบอกความรู้สึกดี ๆ ให้กันและกันได้
ของขวัญที่เหมาะกับการให้คนรู้ใจที่คอยเป็นกำลังใจให้กันตลอดเวลานั่นก็คือ ของหวานที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น อาจจะหาเวลาไปนั่งทาน เม้าท์มอยกันอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาอันน้อยนิดร่วมกัน หรือจะเรียกให้ถูกก็คือของขวัญที่มีค่านั้น อาจจะไม่ได้อยู่ที่ขนม แต่มันคือการได้พูดคุยกัน หัวเราะกัน ยิ้มให้กัน และแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ แก่กันและกันนั่นเอง
ตอบแทนเพื่อนร่วมงานในวันไวท์เดย์
เชื่อว่าเป็นเรื่องหนักใจอยู่พอสมควร สำหรับผู้ชายที่ได้รับช็อกโกแล็ตจากเพื่อนร่วมงานผู้หญิงในช่วงวันวาเลนไทน์ ซึ่งแน่นอนว่า การให้ในลักษณะนั้น เป็นการให้ในลักษณะของเพื่อนร่วมงาน หรือให้ตามธรรมเนียมเท่านั้นเอง แต่เมื่อถึงวันไวท์เดย์ การให้ตอบกลับ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญพอสมควร โดยของขวัญที่คุณจะให้ตอบแทน นั้น อาจจะเป็นขนมคุ๊กกี้ หรือขนมหวาน ที่ถูกจับใส่ถุง หรือห่อลงถุงน่ารัก ๆ ไม่ต้องเป็นชิ้นใหญ่มากมาย เอาแค่ชิ้น สองชิ้น ก็ได้ แค่นี้ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ
บทความที่คุณอาจจะสนใจ :
10 เมืองช็อกโกแลต ที่อร่อยที่สุดในโลก หมดโควิดแล้วไปกันเถอะ
5 เหตุผล ทำไมแม่ท้องควรกินดาร์กช็อกโกแลต
คุกกี้ช็อกโกแลตแบบไม่ง้อเตาอบ (Crispy Chocolate Cookies)
ที่มา : anny