X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ลูกติดเริมจากจูบแม่ ทารก 21 เดือน ติดเริมจากจุมพิษรัก แค่จูบแค่หอมลูกก็ป่วยได้

บทความ 5 นาที
ลูกติดเริมจากจูบแม่ ทารก 21 เดือน ติดเริมจากจุมพิษรัก แค่จูบแค่หอมลูกก็ป่วยได้

รอยจูบของแม่ทำให้แม่ต้องเจ็บปวด เพราะลูกติดเริมจากจูบแม่

ลูกติดเริมจากจูบแม่

ลูกติดเริมจากจูบแม่ อาการโรคเริมของลูก ค่อย ๆ ก่อตัวทีละน้อย เริ่มจากทารกมีไข้ จนเกิดแผลพุพองบนหลัง จนมาเกิดขึ้นใกล้กับปากของลูก

 

เมื่อลูกติดเริมจากจูบแม่

เจ้าตัวเล็กช่างน่ารักน่าชัง แม่ก็อยากกอด อยากหอมสักหลาย ๆ ฟอด แต่การกอดและหอมลูกรักนั้น ก็มีความเสี่ยง! การจูบทารกที่ใบหน้า หรือจูบบนริมฝีปากลูก ทำให้ลูกป่วยหนักได้นะ! เช่นเดียวกับคุณแม่ท่านหนึ่งที่ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนพ่อแม่คนอื่น ๆ ที่ชอบจูบลูก ถึงความเสี่ยงของการติดเชื้อ

เมื่อความรักของแม่ที่บรรจงจูบลูกน้อย กลับทำให้ลูกติดเชื้อโรคเริม

คุณแม่เจ้าของเฟซบุ๊ก Rachel Faith Badong-Sebastian เล่าว่า Sky ลูกสาวของเธอ วัย 21 เดือน เริ่มมีไข้ในช่วงค่ำของวันจันทร์ แต่ในตอนกลางวัน ลูกของเธอก็ปกติดี วิ่งเล่นอย่างสดใส จวบจนตอนค่ำ อาการไข้ก็กลับมาอีกครั้ง ผู้เป็นแม่จึงให้ลูกกินยาพาราเซตามอล ซึ่งช่วยลดไข้ได้เพียงชั่วคราว ไม่นานไข้ของลูกก็เป็นอีก

เธอจึงส่งข้อความหากุมารแพทย์ คุณหมอแนะนำให้พาลูกมาตรวจปัสสาวะ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete blood count) เพื่อที่คุณหมอจะได้วินิจฉัยการติดเชื้อ แต่ด้วยภาระหน้าที่การทำงาน ทำให้พ่อแม่ของหนูน้อยไม่สามารถพาลูกไปหาหมอได้ในวันถัดไป เลยคิดกันไว้ว่า ถ้าลูกมีไข้อย่างต่อเนื่อง คงต้องพาไปหาหมอ และในวันอังคาร ลูกก็ดูร่าเริงปกติดี เพียงแต่ลูกดูไม่อยากอาหาร ไม่ยอมดื่มนม ไม่ค่อยกินอะไร

ผื่นพุพองลุกลามบนตัวลูก

จนเข้าวันพุธ อาการของลูกเริ่มแย่ลง พ่อของเด็กสังเกตเห็นว่าลูกเกาบริเวณก้น พอดูบนร่างกายลูกก็พบผื่นตั้งแต่ช่วงก้นลุกลามจนถึงบริเวณหลัง แม่ของเด็กจึงเริ่มกังวล เพราะผื่นที่เห็นนั้นดูแปลกไม่คุ้นตา มันคล้ายกับแผลพุพอง และเริ่มลามไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลูก รวมไปถึงบริเวณใกล้ ๆ ปากของลูกด้วย

เมื่ออาการของลูกเริ่มแย่ลง พ่อแม่จึงรีบพาลูกไปส่งโรงพยาบาล ขณะที่ Sky อยู่ในห้องฉุกเฉิน ได้มีการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมือเท้าปาก ทั้งยังให้พ่อแม่คอยสังเกตตุ่มแผลบนฝ่ามือ ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคมือเท้าปาก แต่ผื่นที่เกิดขึ้นกลับไม่ขยายวงกว้าง

กุมารแพทย์จึงได้วินิจฉัยขั้นสุดท้าย พบว่า หนูน้อยเจ็บป่วยจากโรคเริม ซึ่งไวรัสนี้มีชื่อว่า เฮอร์ปีส์ซิมเพลกซ์ (Herpes simplex virus หรือ HSV) พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ไวรัสชนิดนี้ติดได้จากน้ำลาย ที่แพร่เชื้อด้วยการจูบ หอม หรือสัมผัสอย่างใกล้ชิด

แค่จูบแค่หอม ลูกก็เป็นโรคเริมได้

ส่วนเหตุผลว่า ทำไมผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ ไม่แสดงอาการของโรคเริมนั้น กุมารแพทย์ อธิบายว่า ผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรง อาจไม่แสดงอาการของโรคเริมออกมา ขณะที่ภูมิคุ้มกันของเด็กนั้น อ่อนแอกว่า ทำให้เด็กแสดงอาการของโรคเริมได้ชัดเจน

หนูน้อย Sky ที่ต้องทนทรมานจากโรคเริม จึงถูกแอดมิทรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลไม่ให้ร่างกายของหนูน้อยขาดน้ำ เพราะน้ำหนักตัวของหนูน้อยได้ลดลงอย่างรวดเร็ว

ด้านคุณแม่ Rachel บอกด้วยว่า เมื่อตอนตั้งครรภ์ลูกคนนี้ ได้อ่านเรื่องการติดเชื้อโรคเริมจากผู้ใหญ่สู่ทารก จึงได้ระวังไม่ยอมให้ใครมาจูบมาหอมลูก แต่เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ถึงได้รู้ว่ายังระวังไม่พอ

ตอนนี้ได้เรียนรู้จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอตระหนักแล้วว่า เด็ก ๆ ที่ติดเชื้อไวรัสนั้นรุนแรงเพียงใด เรื่องนี้เป็นสิ่งเตือนใจว่า ต้องล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอก่อนอุ้มทารก เพราะสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่สำคัญ อย่าปล่อยให้ใครมาจูบมาหอมลูก โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า

 

โรคเริมในเด็กไม่ได้ติดต่อด้วยการ “จูบ” เพียงอย่างเดียว

รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ให้ข้อมูลว่า โรคเริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เฮอร์ปีส์ซิมเพลกซ์ (Herpes simplex virus หรือ HSV) มี 2 ชนิด คือ ชนิด HSV-1 และ HSV-2 โดย HSV-1 มักก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากและริมฝีปาก HSV-2 มักก่อให้เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ ระบบประสาท และ โรคเริมชนิดแพร่กระจายทั่วร่างกายในทารกแรกเกิด

HSV ทั้งสองชนิดอาจเป็นสาเหตุติดเชื้อกับเนื้อเยื่อส่วนไหนก็ได้เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำลง เช่น ที่เยื่อหุ้มสมอง สมอง ตา เป็นต้น

โรคเริมติดต่อ อย่างไร

  • โรคเริมในเด็กแรกเกิดอาจติดจากคุณแม่ได้ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ แต่มีรายงานการเกิดน้อยมาก ทารกจะมีอาการผื่นหรือแผลเริม ตาอักเสบ และขนาดหัวเล็กกว่าปกติ ส่วนมากโรคเริมในเด็กแรกเกิดมักเกิดจากการติดเชื้อในช่วงระหว่างการคลอดทางช่องคลอด ถ้าขณะคลอดมารดาติดเชื้อนี้ที่อวัยวะเพศ
  • โรคเริมในเด็กที่โตกว่าวัยทารกแรกเกิดและผู้ใหญ่มักติดโรคเริมจากการสัมผัสกับแผลที่เป็นโรค, น้ำลาย, หรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วย จึงเกิดเมื่อสัมผัสใกล้ชิด ใช้ของใช้หรือทานอาหารด้วยภาชนะร่วมกัน การจูบ การกิน ทางเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อจะแทรกเข้าทางเยื่อบุหรือผิวหนังที่ถลอกเป็นแผล

อาการของโรคเริมมีอะไรบ้าง?

อาการของโรคเริมมีได้หลายแบบ ทั้งโรคเริมที่ริมฝีปากและเยื่อบุช่องปาก โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคเริมแบบแพร่กระจายทั่วตัว และโรคเริมในระบบประสาท เป็นต้น เมื่อเป็นโรคเริมครั้งแรกจะมีอาการรุนแรง แตกต่างจากอาการที่เป็นซ้ำครั้งต่อๆ มา ที่มักเป็นเพียงรอยอักเสบหรือถลอกเล็กน้อย และหายเร็วกว่า โดยเมื่อเป็นครั้งแรกแล้วเชื้อไวรัสจะเข้าไปอยู่ในปมประสาท และเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เชื้อจะออกมาตามเส้นประสาทและเกิดโรคซ้ำที่ผิวหนังหรือเยื่อบุผิว

อ่านเพิ่มเติม ป้องกันลูกเป็นเริม ห้ามคนอื่น จูบลูก อย่างเดียวคงไม่พอ

 

ลูกติดเริมจากจูบแม่เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดนะคะ แม่ต้องคอยสังเกตอาการ เมื่อลูกผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ รีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด

 

แม่ ๆ มาโหวตกันหน่อยว่า ปัญหาสำหรับลูกเล็ก ที่คุณแม่พบเจอบ่อยคืออะไรคะ ถ้ากดไม่ได้ คลิกที่นี่

ความคิดเห็นของคุณคืออะไร

 

ที่มา : https://sg.theasianparent.com/

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

6 วิธีแก้ปัญหาลูกป่วยบ่อย ลูกไม่สบายบ่อย ป้องกันไม่ให้ลูกป่วยได้อย่างไรบ้าง

ควันบุหรี่ทำให้เด็กป่วย RSV อาการหนักขึ้น ทรุดตัวเร็ว พ่อแม่ต้องระวัง!

เด็กไทยเป็นโรคสมาธิสั้น กว่า 4 แสนคน แม่กลุ้มใจ! ลูกไฮเปอร์ ก้าวร้าว ลูกสมาธิสั้นทำไงดี

อาเจียน ท้องเสีย เสี่ยงติดเชื้อโนโรไวรัส ที่กำลังระบาดหนัก

 

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Tulya

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • ลูกติดเริมจากจูบแม่ ทารก 21 เดือน ติดเริมจากจุมพิษรัก แค่จูบแค่หอมลูกก็ป่วยได้
แชร์ :
  • เตือนแม่! อย่ากินอาหารที่ใช้ปากกาเมจิกเขียนบนถุง เสี่ยงมะเร็ง

    เตือนแม่! อย่ากินอาหารที่ใช้ปากกาเมจิกเขียนบนถุง เสี่ยงมะเร็ง

  • ริดสีดวงหลังคลอด สาเหตุ อาการ และวิธีรับมือสำหรับคุณแม่

    ริดสีดวงหลังคลอด สาเหตุ อาการ และวิธีรับมือสำหรับคุณแม่

  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • เตือนแม่! อย่ากินอาหารที่ใช้ปากกาเมจิกเขียนบนถุง เสี่ยงมะเร็ง

    เตือนแม่! อย่ากินอาหารที่ใช้ปากกาเมจิกเขียนบนถุง เสี่ยงมะเร็ง

  • ริดสีดวงหลังคลอด สาเหตุ อาการ และวิธีรับมือสำหรับคุณแม่

    ริดสีดวงหลังคลอด สาเหตุ อาการ และวิธีรับมือสำหรับคุณแม่

  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว