เตือนพ่อแม่! ลูกชอบแคะขี้มูก อาจทำให้ติดเชื้อในสมอง
การแคะขี้มูกอย่าคิดว่าเป็นการทำความสะอาดสิ่งสกปรกของร่างกาย เพราะใครจะไปรู้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิดได้ หากใครกำลังมีนิสัยแบบนี้ หรือบ้านไหนที่ ลูกชอบแคะขี้มูก ต้องอ่าน!! เพราะถ้าทำบ่อยๆ แคะมากเกินไปอาจทำให้ติดเชื้อในสมองได้
ขี้มูกเกิดจากอะไร
เคยสงสัยกันใช่ไหมว่าขี้มูกเกิดจากอะไร ขี้มูกนั้นเกิดจากสิ่งที่ร่างกายขับออกมา โดยบริเวณเหยื่อจมูกนั้นจะมีเมือกบางๆ ปกคลุมอยู่ พอเวลานานผ่านไปเจ้าเมือกนั้นจะลอกออกมาและเปลี่ยนเป็นเมือกใหม่มาเคลือบอยู่ที่เหยือจมูกเหมือนเดิม จึงเกิดเป็นขี้มูก นอกจากนี้ ขี้มูกยังไม่ส่วนผสมของจุลินทรีย์และฝุ่นละอองอยู่มากมาย แลถ้ามีจุลินทรีย์มากก็จะทำให้มีสีที่เข้ม จริงๆ แล้วขี้มูกไม่ได้มีสีเดียวน่ะ ซึ่งแต่ะละสีจะบอกด้วยว่าคุณหรือลูกน้อยป่วยเป็นโรคอะไร ขี้มูกสีแบบไหนต้องพาลูกไปหาหมอ
แคะขี้มูกบ่อยๆ อันตราย
มีงานวิจัยของหมอชาวอินเดีย 2 คนชื่อ จิตรันจัน อันธเรท และ บีเอส ศรีหริ จากสถาบันสุขภาพจิตและระบบประสาทแห่งชาติในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ที่ได้ศึกษา พฤติกรรมการแคะขี้มูกของมนุษย์ โดยได้ทำการสอบถามจากเด็กนักเรียนเป็นส่วนใหญ่ พบว่าเด็กจะแคะขี้มูกเฉลี่ยประมาณ 4 ครั้งต่อวัน ซึ่งมีที่น่าสนใจคือ มีเพียงร้อยละ 7.6 ของเด็กนักเรียนเท่านั้น ที่ยอมรับว่า วันหนึ่งตนแคะจมูกเกินกว่า 20 ครั้ง ในขณะที่เกือบร้อยละ 20 เปิดเผยว่า ติดนิสัยนี้แบบเรื้อรังจริงๆ ส่วนมากให้เหตุผลว่า ที่พวกเขาแคะจมูกเพราะจะได้แก้อาการคัน และเป็นการเอาขี้มูกออกไปด้วย ในขณะที่อีกส่วนน้อยบอกว่า ทำไปแค่เพราะมันรู้สึกดีเท่านั้น นอกจากนี้ เด็กผู้ชายจะชอบแคะจมูกมากกว่า เนื่องจากเด็กผู้หญิงมักจะมองว่าเป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ
จากพฤติกรรมการแคะขี้มูกบ่อยๆ ทำให้เกิดผลร้ายแรงที่ตามมา อย่างเช่น กรณีของญิงนิรนามวัย 53 ปี ผู้หนึ่งที่มีนิสัยชอบแคะจมูกมาก ทำให้เธอแคะจมูกจนผนังกั้นรูจมูกพรุน จนส่งผลให้เกิดเป็นโรคไซนัส หรือโพรงอากาศในกะโหลกเป็นรูอีกด้วย และกรณีของหนุ่มนิรนามวัย 29 ปี ที่มีทั้งพฤติกรรมชอบแคะจมูกบ่อย ๆ เช่นเดียวกัน และยังชอบดึงขนจมูกรวมด้วย จนสุดท้ายแล้วหนุ่มคนนี้ได้เป็นโรคโพรงจมูกเลยอักเสบ โชคยังดีที่คุณหมอสามารถให้การรักษาได้ แต่เขาต้องแลกมาด้วยจมูกสีม่วงแทน
ขี้มูกเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค แต่คุณรู้ไหมว่าการที่คนเราแคะขี้มูกเป็นประจำนั้นกลับกลายเป็นสกปรกมากกว่าเสียอีก เนื่องจากกลุ่มนักวิจัย ได้กล่าวถึงผลร้ายอีกข้อของการแคะขี้มูกว่า ยิ่งแคะยิ่งเป็นการสะสมเชื้อแบคทีเรียชั้นเลิศ มากกว่าคนที่ไม่แคะขี้มูกเสียอีก เพราะโพรงจมูกของเรานั้นอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “สามเหลี่ยมอันตราย” เมื่อเชื้อแบคทีเรียเข้าไปในโพรงจมูกจะก่อให้เกิดการติดเชื้อและผ่านทางสู่หลอดเลือดดำเข้าสู่กระโหลกศีรษระของเราได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อในสมองที่ยากจะควบคุม และยิ่งถ้ามือของคุณไม่ได้ทำความสะอาดและมาแคะขี้มูก ก็จะนำแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายอย่างง่ายดาย
วิธีให้ลูกหยุดแคะขี้มูก
วิธีที่ให้ลูกไม่ต้องใช้นิ้วแคะจมูกที่ดีที่สุด คือการให้ลูกพกกระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าไว้กับตัวอยู่เสมอ และต้องชื่นชมเมื่อหนูน้อยนำกระดาษหรือผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาใช้ ทั้งนี้ พ่อแม่ควรระมัดระวัง อย่าดุลูกเวลาใช้นิ้วแคะขี้มูก เพราะจะทำให้เขารู้สึกอับอายที่โดนต่อว่าต่อหน้าคนอื่นเยอะๆ ทางที่ดีควรใช้คำพูดทำนองว่า ลูกน่าจะใช้กระดาษทิชชูแทนน่าจะดีกว่า
ที่มา: ข่าวสด
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
หยุดนิสัยแคะขี้มูกของลูกน้อย
ลูกกินขี้มูก พ่อแม่อย่าห้าม! ปล่อยให้เป็นธรรมชาติดีแล้ว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!