ยาที่คนท้องห้ามใช้
ยาที่คนท้องห้ามใช้ ยาในหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง ยาชนิดไหนที่คนท้องห้ามใช้ ยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ข้อควรระวังการใช้ยาของคนท้อง
คนท้องห้ามซื้อยามากินเอง ดูให้ดียาที่คนท้องห้ามใช้
- การใช้ยาในสตรีตั้งครรภ์มีข้อควรระวังหลายประการ เนื่องจากสรีรวิทยาที่เปลี่ยนไปตามอายุครรภ์
- น้ำหนักตัวของแม่ที่เพิ่มขึ้น มีปริมาตรเลือดมากขึ้น ทำให้มีการกระจายตัวของยามากขึ้น ประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของยาจึงลดลง
- ยาที่หาซื้อได้เองส่วนใหญ่เป็นยาชนิดรับประทานที่ต้องอาศัยน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเพื่อแตกตัว และมีการดูดซึมกลับที่ลำไส้ได้น้อยลงในขณะตั้งครรภ์
- ยาบางชนิดยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ เช่น ยารักษาสิวอาจเพิ่มโอกาสแท้งบุตร เพิ่มความพิการแต่กำเนิดได้
โดยทั่วไปแล้วควรเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็นในขณะตั้งครรภ์ ยกเว้นยาบำรุงครรภ์หรือยารักษาโรคประจำตัวตามคำสั่งแพทย์ การที่สตรีตั้งครรภ์ซื้อยารับประทานเองโดยไม่มีความรู้หรือไม่มีข้อบ่งชี้จึงอาจมีอันตรายจากการใช้ยาได้ทั้งต่อตนเองและบุตรในครรภ์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ผักผลไม้วิตามินซีสูง ป้องกันหวัดลูก ดีต่อสุขภาพคนท้อง สร้างเนื้อเยื่อและกระดูกทารกในครรภ์
ข้อควรระวังการใช้ยาของคนท้อง
หากท่านมีการใช้ยาอยู่เดิมควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมกับสตรีตั้งครรภ์ต่อไป โดยยึดหลักการรักษาที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยของทั้งแม่และทารกในครรภ์โดยใช้ยาขนาดที่น้อยที่สุดที่สามารถควบคุมโรคระหว่างตั้งครรภ์ได้ บางกรณีแพทย์อาจจำเป็นต้องตรวจวัดระดับยาในเลือดเพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสมในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์และติดตามการรับประทานยาของผู้ป่วย เป็นต้น
วิธีแบ่งยาที่ใช้ในสตรีตั้งครรภ์
ในทางการแพทย์สามารถแบ่งยาที่ใช้ในสตรีตั้งครรภ์ได้เป็นหลายกลุ่มตามความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
- ตั้งแต่ยาที่มีความปลอดภัยสูงสามารถใช้ได้ทุกกรณี เช่น ยาบำรุงครรภ์ ยาวิตามินบางชนิด
- ยาที่มีความเสี่ยงต่อทารกพิการเล็กน้อย
- ยาที่มีความเสี่ยงต่อทารกสูง
- ยาที่ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์
อ่าน คนท้องไม่ควรกินยาอะไร ยาแก้ปวดที่คนท้องห้ามกิน มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือดลูกในท้อง
โดยท่านสามารถหาข้อมูลยาที่คนท้องห้ามใช้เหล่านี้ได้ในเอกสารกำกับยา ซึ่งองค์การเภสัชกรรมมีข้อบังคับให้เปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์เหล่านี้แก่ผู้ใช้ยาทุกคน หรือสามารถปรึกษาแพทย์ที่ดูแลได้ อิทธิพลของยาที่มีผลต่อทารกในครรภ์ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น อายุครรภ์ที่ได้รับยา โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรก (12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์) ซึ่งเป็นช่วงที่มีการสร้างอวัยวะสำคัญของทารก ปริมาณยาที่ได้รับ ระยะเวลาที่ได้รับยา คุณสมบัติทางเคมีของตัวยา เช่น น้ำหนักโมเลกุลน้อย มีความสามารถละลายในไขมันได้ดี จะช่วยให้ตัวยาผ่านรกได้มาก เป็นต้น
เนื่องจากรกคือปราการสำคัญที่ช่วยปกป้องทารกในครรภ์ ฉะนั้นยาใดที่สามารถผ่านรกได้ดี จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้มากด้วย
ยาที่คนท้องไม่ควรกิน ตัวอย่างยาที่คนท้องห้ามใช้
ยาที่ใช้กันบ่อยทั่วไป แต่ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์ได้แก่
- ยาลดไขมันในเลือด
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ยาต้านฮอร์โมน
- ยากันชัก
- ยานอนหลับ
- ยาเสพติด
- ยาเคมีบำบัด
แม่ท้องต้องปรึกษาหมอก่อนใช้ยา เพื่อหลีกเลี่ยงยาที่คนท้องห้ามใช้
ข้อมูลความปลอดภัยของยาในสตรีตั้งครรภ์หรือยาที่คนท้องห้ามใช้นั้นอาจสรุปได้ยาก โดยเฉพาะยาตัวใหม่ ๆ เนื่องจากปัญหาทางจริยธรรมวิจัยที่ไม่สามารถทำการศึกษาทดลองในคนได้ ข้อมูลส่วนใหญ่จึงได้จากงานวิจัยในสัตว์ทดลอง หรือการรายงานจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ที่มีการใช้ยานั้นมาก่อนโดยบังเอิญหรือไม่ได้ตั้งใจตั้งครรภ์ ทำให้ยาที่มีใช้มานานจะมีข้อมูลการใช้ยาในสตรีตั้งครรภ์มากกว่ายาตัวใหม่ซึ่งอาจจะไม่มีข้อมูลในสตรีตั้งครรภ์เลย ส่วนยาตัวใหม่จะปลอดภัยต่อทารกในครรภ์มากกว่ายาตัวเก่าหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้เนื่องจากการคิดค้นยาใหม่จะมุ่งเน้นเรื่องประสิทธิภาพในการรักษา ผลข้างเคียงต่ำ แต่จะไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์
สรุป สตรีตั้งครรภ์ควรใช้ยาเท่าที่จำเป็น และใช้อย่างระมัดระวัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงยาที่คนท้องห้ามใช้ และหากต้องการใช้ยาควรอ่านเอกสารกำกับยาอย่างละเอียด เราจึงคุ้นเคยกับประโยคในเอกสารกำกับยาที่ว่า ยานี้ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์ หรือ ยานี้ควรใช้อย่างระมัดระวังในสตรีตั้งครรภ์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คนท้องไตรมาสที่3 คนท้องใกล้คลอด อาหารคนท้องไตรมาส3 อาการที่พบบ่อย แม่ท้องไตรมาสสุดท้าย
น้ำคร่ำน้อยอันตรายไหม ลูกในท้องจะเป็นอย่างไร มีวิธีป้องกันหรือเปล่า
อันตรายหรือไม่ หากลูกแฝดเสียชีวิตในท้อง 1 คน