ภาวะแท้งคุกคาม มีสาเหตุจากอะไร สามารถป้องกันได้หรือไม่ อันตรายไหม?

ภาวะแท้งคุกคาม หรือ การแท้งคุกคาม (Threatened Abortion) คือ การแท้งบุตรประเภทหนึ่ง ซึ่งทำให้มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ โดยที่ปากมดลูกยังไม่ออก ส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงอายุครรภ์ ไม่เกิน 20 สัปดาห์ และส่งผลให้แม่ท้องเสี่ยงต่อการสิ้นสุดการตั้งครรภ์ หรือ แท้งลูก มาดูภาวะแท้งคุกคามอันตรายไหม มีอะไรควรรู้บ้าง!

 

ภาวะแท้งคุกคาม อันตรายไหม?

 

 

อาการของการแท้งคุกคาม

  • ในช่วงการตั้งครรภ์จะสังเกตได้ว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาจจะออกน้อยหรือมากก็แล้วแต่คน
  • ตกขาวมีสีน้ำตาลจากเลือดปน
  • มีอาการปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย หรือปวดหลังช่วงล่าง
  • ปวดท้องน้อยแบบบีบ ๆ
  • มีเนื้อเยื่อหรือลิ่มเลือดหลุดจากช่องคลอด

โดยหากแม่ท้องมีอาการผิดปกติในลักษณะนี้ควรพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของลูกน้อยในครรภ์ โดยภาวะนี้พบได้ประมาณร้อยละ 20 – 30 และมีประมาณร้อยละ 50 ของภาวะนี้สามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติจนกระทั่งคลอดลูก

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแท้งคุกคาม

  • มีติ่งเนื้อ เนื้องอกที่มดลูก หรือถุงน้ำในมดลูก
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือ ไวรัสบริเวณช่องคลอด
  • ความผิดปกติของทารกในครรภ์
  • การใช้สารเสพติดบางชนิด
  • ตำแหน่งและลักษณะของรกที่เกาะติดอยู่บนผนังมดลูก
  • ท้องนอกมดลูก
  • การได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ช่องท้อง
  • แม่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
  • แม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน อ้วน SLE ความดันโลหิตสูง
  • การขาดฮอร์โมนเพศที่ช่วยการตั้งครรภ์ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หนาพอสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนในโพรงมดลูก

สำหรับใครที่วางแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อพบว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภาวะแท้งคุกคามหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง : 11 สิ่งที่แม่ท้องต้องรู้ น้ำหนักตอนท้อง แท้งคุกคาม วิธีเร่งคลอด โดยคุณหมอสูติ

 

 

การตรวจหาภาวะแท้งคุกคาม

  • การตรวจอัลตราซาวนด์

เป็นการตรวจบริเวณช่องท้อง หรือ ช่องคลอด ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อดูการเต้นหัวใจ และพัฒนาการของทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นการตรวจที่บอกได้ว่าลูกในครรภ์ ยังมีชีวิตหรือไม่ ซึ่งบางครั้งก็จะช่วยทราบปริมาณเลือดที่ไหลออกมาจากช่องคลอดได้ โดยทั่วไปจะตรวจอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดเป็นหลัก โดยได้ผลที่แม่นยำในการตรวจอายุครรภ์อ่อน ๆ โดยแพทย์จะสอดเครื่องมือเข้าไปในช่องคลอด 2 – 3 นิ้ว เพื่อปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง

 

  • การตรวจเลือด

การตรวจเลือดดูสารเคมีชนิดต่าง ๆ ในเลือดและปริมาณฮอร์โมนจากตัวอย่างเลือดของผู้ป่วย ซึ่งจะตรวจดูฮอร์โมนฮิวแมน คอริโอนิก โกนาโดโทรฟิน (Human Chorionic Gonadotropin : HCG) ซึ่งถูกสร้างในช่วงการตั้งครรภ์และฮอร์โมนโพสเจสเทอโรน (Progesterone) ที่จะมีปริมาณสูงขึ้นในช่วงท้อง ซึ่งระดับฮอร์โมนจะสามารถบอกได้ว่าการตั้งครรภ์เป็นปกติ หรือ เป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก

 

  • การตรวจภายใน

โดยการตรวจภายในจะใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติการบาดเจ็บรุนแรง โดยตรวจดูอวัยวะบริเวณอุ้งเชิงกรานและระบบสืบพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก และตรวจดูว่าถุงน้ำคร่ำเกิดการฉีกขาดหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง : ยุติการตั้งครรภ์ หรือ การทำแท้งลูกอย่างถูกกฎหมาย

 

 

การรักษา ภาวะแท้งคุกคาม

ภาวะแท้งคุกคาม ไม่มีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง ส่วนใหญ่จะเป็นการดูแลแบบประคับประคองตามสถานการณ์ของผู้ป่วยแต่ละคน โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอ ลดการทำกิจกรรมที่กระทบต่อท้อง งดการทำงานหนัก ไม่ควรยืนหรือเดินนาน ๆ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ งดดื่มและสูบบุหรี่ และ ลดความเครียด

สำหรับแม่ท้องบางคนที่โรคเรื้อรัง และ ความผิดปกติที่จะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น โรคเบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน แพทย์จำเป็นต้องรักษาที่ต้นเหตุร่วมด้วย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยาฮอร์โมนโปสเจสเตอโรนเสริมในบางรายที่รู้จักกันในชื่อ ยากันแท้ง เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมน

 

พฤติกรรมเสี่ยงแท้ง ของคนท้องอ่อน ๆ

  • หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น อาหารที่ไม่สุก, ชีสหรือเนยแข็ง, ไส้กรอกและแฮม, ชาและกาแฟ, น้ำอัดลม
  • ระวังการติดเชื้อบางโรคระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน โดยการหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนแออัด โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรค
  • งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และไม่ใช้สารเสพติด
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมี หรือสิ่งที่อันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง, สารระเหย, โลหะหนักที่ผสมในสารเคมี หรือรังสีจากที่ทำงาน เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกีฬาที่อาจมีการกระแทก, การกระโดด และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมาก อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถออกกำลังกายโดยการวิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน, เต้นแอโรบิก หรือเล่นโยคะได้ แต่ต้องไม่หักโหมจนเกินไป

ส่วนในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์นั้น คุณหมอให้คำแนะนำไว้ว่า ในการตั้งครรภ์ที่ปกติ การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ดังนั้น ถ้าคุณแม่ไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อน สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย

 

การเตรียมตัวคุณแม่เพื่อป้องกันการแท้งบุตร

  • ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์
  • ควรรักษาโรคประจำตัวให้เป็นปกติหรือควบคุมโรคได้ก่อนการตั้งครรภ์ เช่น ความดันเลือดสูง, เบาหวาน, ภูมิคุ้มกันผิดปกติ (SLE และ antiphospholipid syndrome) เป็นต้น
  • ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
  • ควรลดน้ำหนักตัวให้เป็นปกติก่อนการตั้งครรภ์
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ

 

ภาวะแท้งคุกคามสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงตั้งครรภ์ในทุกไตรมาส ซึ่งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงทั้งภายใน และภายนอก ที่คุณแม่ตั้งครรภ์อาจไม่ตั้งใจ และไม่รู้ตัว ว่าการกระทำนั้น ๆ ทำให้เกิดภาวะแท้งคุกคามได้ การเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ถึงอาการผิดปกติต่าง ๆ จึงมีความสำคัญ เพื่อความเข้าใจ และป้องกัน ไม่ให้เกิดภาวะเสี่ยงเกิดขึ้นกับคุณ และลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีรับมือกับการแท้ง ทำอย่างไรให้คุณแม่ข้ามผ่านความสูญเสียนี้ไปได้

 ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อ การแท้งลูก แม่ท้องต้องรู้ก่อนสายเกินไป !

ภาวะแท้งคุกคาม มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ อันตรายไหม?

ที่มา : 1 , 2

บทความโดย

Arunsri Karnmana