พัฒนาการเด็ก 4 ขวบ 11 เดือน ลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
พัฒนาการเด็ก 4 ขวบ 11 เดือน ลูกน้อยจะมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา ความรู้ความเข้าใจอย่างไร พ่อแม่ควรเสริมพัฒนาการหรือทักษะอะไรได้บ้าง อาการน่าเป็นห่วงของเด็กวัยนี้คืออะไร เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ และข้อควรรู้ของเด็กวัยนี้จะมีอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลย!
พัฒนาการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของเด็กวัย 4 ขวบ 11 เดือน
เด็กในวัยนี้จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว และมีมวลกล้ามเนื้อตามร่างกายที่มากขึ้นรวมถึงทักษะด้านการเคลื่อนไหวของร่างกายก็กำลังพัฒนาไปด้วยดีอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกน้อยสามารถกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้อย่างง่ายดาย และวิ่งชอบวิ่นเล่นอีกด้วย นอกจากนี้ เด็กๆ ยังสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อีก
- สามารถยืนทรงตัวขาเดียวไปเป็นระยะเวลานาน
- รู้ว่าข้างไหนข้างซ้ายหรือขวา
- สามารถทำให้สิ่งที่ซับซ้อนได้ เช่น การเปิด-ปิดฝาขวดน้ำ
- เปลี่ยนเสื้อผ้าเองโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องช่วยเหลือ
- สามารถเข้าห้องน้ำคนเดียวได้
- สามารถจับและใช้กรรไกรได้อย่างถูกต้อง
- สามารถจับดินสอโดยใช้นิ้วสามนิ้วได้อย่างถูกวิธี
อีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ต้องฝึกลูก คือ การเข้าห้องน้ำ เพราะเด็กหลายคนยังมีปัญหาเรื่องฉี่รดที่นอนอยู่ เนื่องจากกล้ามเนื้อในกระเพาะปัสสาวะของหนูน้อยยังคงพัฒนาได้อย่างไม่เต็มที่ อีกทั้งน้องยังต้องฝึกการควบคุมปัสสาวะอยู่ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะค่อยๆ ฝึกไปเดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ
เคล็ดลับในการเลี้ยงลูก
- ให้เวลาลูกได้ออกไปเล่นกลางแจ้งหรือสนามเด็กเล่นมากขึ้น ปล่อยให้ลูกได้วิ่งเล่นบ้าง เพื่อเป็นการเสริมพัฒนาการทางด้านการประสานงานของร่างกายให้ดีขึ้น
- พาลูกไปเล่นสนามเด็กเล่นเพื่อให้เขาได้เรียนรู้การใช้เคลื่อนเล่นใหม่ๆ
- หากเป็นไปได้อาจพาลูกไปทำกิจกรรมเสริมอย่างอื่น เช่น การว่ายน้ำ เล่นคาราเต้ เรียนเต้น หรือเรียนดนตรี เพื่อที่จะไปเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการสอดประสานการทำงานของระบบต่างๆ
- ให้ลูกได้เรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร และการใช้อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารอย่างเหมาะสมก่อนเข้าโรงเรียน
- ให้ลูกได้ช่วยงานบ้านง่ายๆ เช่น พับผ้า ตั้งโต๊ะอาหาร ล้างจาน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักรับผิดชอบและเป็นการฝึกทักษะการเคลื่อนไหวด้วยค่ะ
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
- ลูกเดินหรือวิ่งได้เชื่องช้าไม่คล่องแคล่ว
- ไม่สามารถเขียวตัวหนังสือหรือวาดรูปทรงพื้นฐานได้
- ลูกไม่สามารถถอดหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ด้วยตัวเอง
พัฒนาการทางด้านความรู้และความเข้าใจของเด็กวัย 4 ขวบ 11 เดือน
น้องบางคนอาจจะเข้าโรงเรียนแล้ว แต่น้องบางคนอาจอยู่ในช่วงเตรียมตัวก่อนเข้าวัยอนุบาล สำหรับเด็กวัยนี้ เด็กยังคงมีการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้การพัฒนาด้านความรู้และความเข้าใจดีขึ้นตามลำดับ โดยเหตุกาณ์ที่สำคัญของเด็กในวัย 4 ขวบ 11 เดือน ได้แก่
- ลูกสามารถนับได้ถึง 10 หรือมากกว่านั้น
- เด็กสามารถวาดภาพส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี
- ลูกอาจจะตั้งชื่อข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
- ลูกสามารถเรียกชื่อสีอย่างน้อย 4 สีได้อย่างถูกต้อง
- สามารถเขียนตัวอักษรและตัวเชขได้
- ลูกมีความเข้าใจเกี่ยวกับการนับเวลาและเงิน
เคล็ดลับในการเลี้ยงลูก
- กระตุ้นให้ลูกน้อยได้วาดภาพเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการของเด็กๆ รวมถึงกล้ามเนื้อมัดเล็กด้วย
- ฝึกให้ลูกได้ลองประดิษฐ์ของใช้ DIY ขึ้นมาเอง
- ฝึกให้ลูกได้อ่านหนังสือ เล่าเรื่อง หรือร้องเพลง โดยที่พ่อแม่ต้องมีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่ลูกจะได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจและมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีขึ้น
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
- ลูกไม่สามารถเล่นบทบาทสมมติได้ เช่น ไม่ได้ลองหุ่ยนต์หรือซุปเปอร์ฮีโร่
- เมื่อลูกไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่บอกให้ทำ เช่น ให้ลูกเอาหนังสือไปเก็บไว้ในกล่อง
พัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคมของเด็กวัย 4 ขวบ 11 เดือน
ลูกจะเริ่มมีเพื่อนใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คนภายในครอบครัว เช่น ครู หรือเพื่อนในชั้นเรียนต่างๆ ในวัยนี้เด็กจะมีความต้องการที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกพอใจและมีความสุข และเด็กจะตระหนักถึงความแตกต่างของเพศตรงข้ามได้ รวมถึงเด็กจะต้องการอิสระมากขึ้น สามารถแยกแยะว่าสิ่งไหนเป็นเรื่องจริงและไม่ใช่เรื่องจริงได้
ส่วนเรื่องอารมณ์เด็กยังคงมีอารมณ์ที่แปรปรวนอยู่บ้าง ทั้งยังเริ่มรู้จักการโกหกพ่อแม่ด้วย ซึ่งเป็นพัฒนาการตามปกติของเด็กค่ะ
เคล็ดลับในการเลี้ยงลูก
- สอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตัวเอง และการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
- สอนลูกให้รู้จักการแบ่งปัน รู้จักการขอโทษและการให้อภัยเมื่อเกิดปัญหาระหว่างเพื่อน
- ให้ความสนใจเมื่อลูกน้อยพูดคุยด้วย และควรแสดงท่าทีว่าคุณสนใจในสิ่งที่ลูกพูดและควรฟังอย่างตั้งใจ จากนั้นก็ถามเขาว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร และสอนให้ลูกแสดงความเป็นตัวเองในทางที่ถูกที่ควร
- กระตุ้นให้ลูกได้ทั้งร้องและเต้น โดยที่พ่อแม่ควรมีส่วนร่วมหัวเราะสนุกสนานไปกับลูก
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
- เมื่อไหร่มีอาการว่าตัวเองไม่มีความสุขหรือรู้สึกว่าลูกเหมือนโกรธอยู่ตลอดเวลา
- ลูกไม่สนใจที่จะเล่นกับเด็กคนอื่น
- ลูกไม่แสดงอารมณ์หรือตอบสนองกับคนอื่น
พัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสารของเด็กวัย 4 ขวบ 11 เดือน
การพูดคุยกับลูกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กที่มีอายุอยู่ในช่วงนี้ เพราะเด็กมักจะมีเรื่องเล่าทั้งจากจินตนาการและสิ่งที่พบเห็น ทำให้คุณรู้สึกสนุกสนานไปได้ทุกวัน หนูน้อยจะเริ่มมีการแสดงความคอดเห็นต่อสิ่งต่างๆ ป่านการพูด สามารถอธิบายความคิดให้ผู้ใหญ่ฟังได้ บางครั้งยังมีคำแนะนำที่อาจทำให้พ่อแม่ต้องประหลาดใจอีกด้วย ทั้งยังสามารถบอกความต้องการของตัวเองได้ดี และบอกตำแหน่งของสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ เช่น ข้างบน ข้างล่าง ด้านหน้า ด้านหลัง
- สามารถบอกชื่อ-นามสกุลเต็ม และที่อยู่ของตัวเองได้
- สามารถพูดประโยคยาวๆ ได้
- เด็กจะพูดได้ชัดขึ้น และสามารถสื่อสารกับคนแปลกหน้าได้อย่างเข้าใจ
- สามารถเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่ฟังได้
- สามารถเรียบร้องประโยคคำพูดได้อย่างถูกต้อง
เคล็ดลับในการเลี้ยงลูก
- อ่านหนังสือกับลูกต่อไป ให้ลูกจะได้เรียนรู้คำใหม่เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าโรงเรียน
- หาเวลาให้ลูกได้เสริมสร้างจินตนาการเพิ่มเติม เช่น การวาดภาพหรือเล่นดนตรี
- พูดคุยกับลูกและสอบถามเกี่ยวกับวัน เวลา หรือสิ่งต่างๆ ที่ลูกได้พบเจอจากการเล่น หรือการเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
- เมื่อลูกไม่สามารถบอกชื่อ-นามสกุลของตัวเองได้
- ลูกไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น หรือพูดถึงกิจกรรมในแต่วันให้พ่อแม่ฟัง
พัฒนาการทางด้านสุขภาพและโภชนาการของเด็กวัย 4 ขวบ 11 เดือน
เด็กในวัยนี้จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 กก. และส่วนสูงจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7 ซม. หนูน้อยควรที่จะได้รับอาหารเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างต่อเนื่อง โดยควรกินให้ได้วันละ 1200 แคลอรี่ต่อวัน แต่อาจจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับกิจกกรมที่เด็กทำให้แต่ละวันค่ะ และเด็กในวัยนี้มักจะจู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับอาหารของเขา สำหรับสารอาหารที่เด็กต้องการในแต่ละวัน มีดังนี้
ประเภทของอาหาร | ปริมาณอาหารที่แนะนำ |
ธัญพืช (6 มื้อเล็กๆ ทุกวัน) |
|
ไขมัน (3-4 มื้อทุกวัน) |
|
ผักและผลไม้ (วันละ 4-6 มื้อ) |
|
เนื้อสัตว์ (2 มื้อต่อวัน) |
|
นม (2-3 มื้อต่อวัน) |
|
วัคซีนที่จำเป็นของเด็กวัย 4 ขวบ 11 เดือน
- วัคซีนที่จำเป็น
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ (DTwP)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดกิน (OPV)
- วัคซีนเสริม
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์ (Tdap หรือ DTaP)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV)
- วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบเอ (HAV)
- วัคซีนโรคอีสุกอีใส (VZV) หรือวัคซีนรวมหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน-อีสุกอีใส (MMRV)
- วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่(Influenza)
- วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) ก่อนการสัมผัสโรค
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
- ลูกมีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือต่ำกว่าเกณฑ์
- ลูกกินจุกจิก กินมากเกินไป
ที่มา: sg.theasianparent
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
พัฒนาการเด็ก 4 ขวบ 10 เดือน ลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เสริมทักษะอะไรให้ลูกดี
6 เมนูไข่สำหรับทารก สูตรอาหารเด็กเล็กทำง่าย อร่อย คุณค่าทางอาหารสูง
ลูกสําลักอาหาร ปฐมพยาบาล อย่างไร ป้อนอาหารเด็กเล็ก ต้องระวัง! อาหารอันตราย