ทำไมคนท้องชอบร้องไห้
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมคนท้องชอบร้องไห้ อาจเป็นคำถามที่แม่ท้องหลายคนได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ เรารวบเรื่องราวต่าง ๆ ที่มักจะทำให้แม่ท้องร้องไห้มาฝากกัน ว่าแต่มีเรื่องไหนตรงใจบ้างเอ่ย?
- ลูกดิ้นครั้งแรก
- อัลตราซาวน์ครั้งแรก
- เมื่อรู้เพศลูก
- ได้ยินเสียงหัวใจของลูกครั้งแรก
- มีคนทักว่าน้ำหนักเพิ่ม ดูอ้วนขึ้น
- มีคนทักว่า “ตั้งครรภ์จริงเหรอ ทำไมท้องเล็กจัง”
- สังเกตเห็นว่าตัวเองหัวนมดำขึ้นจนน่ากังวล
- เมื่อเห็นรอยแตกลายที่หน้าท้อง
- เมื่อเสื้อผ้าที่เคยชอบ ใส่ไม่ได้อีกต่อไป
- แพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน จนร้องไห้
- ได้รับของที่กำลังอยากได้พอดี เช่น ของที่อยากกิน ไม่ว่าได้มาจากใคร ก็น้ำตาร่วงได้ง่ายมาก ๆ
- เผลอทำอะไรผิดพลาด แม้เพียงเล็กน้อย เช่น เผลอกินกาแฟ ก็กลัวลูกในท้องจะเป็นอันตรายจนร้องไห้ได้แล้ว
- สามีลืมสิ่งที่ตัวเองฝากซื้อ หรือฝากให้ทำ แม้เพียงเรื่องเล็กน้อย ก็ทำให้น้อยใจจนร้องไห้ได้
- สามีไม่มีเวลาให้ หรือไม่พูดด้วยนิดหน่อย แม้จะเป็นเพราะเรื่องงานก็ร้องไห้ได้
- สามีพูดให้กำลังใจ หรือมีของมาฝาก เมื่อได้ยินก็ตื้นตันและร้องไห้ง่ายกว่าปกติ
- ญาติ หรือเพื่อนๆ มาร่วมแสดงความยินดี และซื้อของมาฝาก
- เห็นเด็กน่ารัก ๆ หรือ เห็นเด็กไม่สบาย หรือรับรู้เรื่องต่างๆเกี่ยวกับเด็กก็ร้องไห้แล้ว
- เมื่อนึกถึงพ่อกับแม่ของเรา
- เมื่อนึกถึงลูกในท้อง อยู่ ๆ น้ำตาของความดีใจ และความกังวล ก็ไหลออกมาพร้อม ๆ กัน
อารมณ์ที่แปรปรวนของคนท้อง มันปกติจริง ๆ หรือ
การที่คนท้องชอบร้องไห้ หรือการที่คนท้องมักจะมีอารมณ์แปรปรวน ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้นได้กับคนท้องแทบจะทุกคน นอกจากว่าที่คุณแม่จะตื่นเต้น หรือกังวลเรื่องเจ้าตัวน้อยแล้ว ในขณะเดียวกันแม่ท้องก็อาจจะมีความกังวลใจหรือมีความวิตกกังวลในเรื่องอื่น ๆ ด้วย โดยเรื่องที่แม่ท้องมักเป็นกังวลนั้น ส่วนมากได้แก่
- กลัวว่าจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดี
- ความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
- กังวลเรื่องสุขภาพ และร่างกายของลูกในท้อง
- เครียดเรื่องการทำงาน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในระหว่างตั้งครรภ์ จะเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย และทางอารมณ์ของแม่ท้อง แต่อย่าลืมว่า อารมณ์ หรือพฤติกรรมของคุณแม่นั้น สามารถส่งผ่านไปยังทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุ และวิธีการรับมือของอารมณ์ที่แปรปรวนระหว่างตั้งครรภ์กันดีกว่า
สาเหตุที่คนท้องอารมณ์แปรปรวน
สาเหตุที่คนท้องมักมีอารมณ์แปรปรวนนั้น มาจากการที่ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย จากความเครียดสะสม และจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนในร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลต่อระดับสารส่งผ่านประสาท ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์จากสมอง จึงทำให้คนท้องอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
อารมณ์แปรปรวนของคนท้องนั้นมักจะเกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ และหลังจากนั้น ว่าที่คุณแม่ก็จะมีระดับอารมณ์แปรปรวนที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่สาม หรือในช่วงที่ร่างกายต้องปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดของลูกน้อยที่กำลังจะมาถึง
ผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
ความเครียดที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ที่แปรปรวน อาจส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่เกิดการเจ็บป่วย ไม่แข็งแรง คลื่นไส้ ปวดหัว และเมื่อแม่ท้องเกิดความเครียด บางครั้งอาจทำให้เจ็บท้องก่อนกำหนด หลอดเลือดตีบลง และความดันโลหิตสูงได้
ส่วนผลกระทบกับลูกในท้องนั้น หากคุณแม่ยิ่งเครียดมาก ก็อาจทำให้ลูกมีน้ำหนักตัวน้อยเมื่อแรกคลอด มีพัฒนาการที่ช้ากว่าปกติ
ลูกในท้องของคุณแม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของคุณแม่ได้ หากคุณแม่โมโหง่าย ก็อาจทำให้เด็กเลี้ยงยาก งอแง โมโหง่าย และมีปัญหาด้านอื่น ๆ ตามไปด้วย
อารมณ์แปรปรวนตอนท้อง รับมืออย่างไร
การที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของภาวะทางอารมณ์นั้น คุณแม่ต้องพยายามเข้าใจ ยอมรับ และรู้จักหาวิธีผ่อนคลาย อีกทั้งคนรอบข้างก็ควรที่จะยอมรับและเข้าใจ เพื่อที่จะได้ช่วยกันรับมือกับอารมณ์แปรปรวนตอนท้อง
เรามาดูหลากวิธีง่าย ๆ รับมืออารมณ์แปรปรวนตอนท้องกัน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งีบหลับบ้างระหว่างวัน
- กินอาหารที่มีคุณภาพ
- ฟังเพลงจังหวะสบาย ๆ คลายเครียด
- ออกไปเดินเล่นสูดอากาศ
- อย่าคิดมากเกินไป
- เล่นโยคะเบา ๆ ช่วยให้สบายใจ
- นวดเบา ๆ ช่วยผ่อนคลาย
คุณแม่ท่านใด มีเรื่องราวเกี่ยวกับอารมณ์ที่แปรปรวนในช่วงตั้งครรภ์ หรือมีเรื่องอะไรบ้าง ที่ทำให้ต้องเสียน้ำตาอยู่บ่อย ๆ สามารถแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้เลย
ข้อมูล americanpregnancy.org
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไม่เป็นแม่ไม่รู้หรอกว่า ร่างกายคนท้อง เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้
ข้อห้ามคนท้องอ่อน ระวังให้ดี ก่อนเผลอทำร้ายลูกในครรภ์
ลูกในท้องกินอย่างไร จะรู้ได้ไงว่าทารกในครรภ์กินอิ่ม ไม่ขาดสารอาหาร?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!