คนท้องมักกังวลและซึมเศร้า ความกังวลของคนท้อง 3 ข้อหลัก มีอะไรบ้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจกำลังประสบปัญหานี้ ที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถคลาย ความกังวลของคนท้อง ออกไปได้ และมีอาการซึมเศร้า และวิตกกังวลตลอดเวลา ในวันนี้ เราจะมาบอกเล่า 3 สิ่งที่คุณแม่มักกังวล พร้อมวิธีคลายความเครียดให้กับคุณแม่กัน ไปดูกันเลยค่ะ!

 

ทำไมคนท้องมักเครียด และกังวลอยู่เสมอ

ในช่วงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่มักจะมีความกังวลมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และกังวลไปถึงลูกน้อยในครรภ์ของตนเอง กังวลว่าจะดูแลดีหรือเปล่า เราทำได้ดีมากพอไหม ลูกในครรภ์จะเป็นอะไรหรือเปล่า จะคลอดได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ จนทำให้กระทบต่อการเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน กินข้าวไม่ได้ จนทำให้ขาดการดูแลตัวเองเป็นอย่างมาก และส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเครียดอันตราย เสี่ยงแท้งไหม? มาดูวิธีคลายเครียดของแม่ท้องกัน

 

 

คนท้องต้องเผชิญกับความรู้สึกแบบใดบ้างนะ

เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่จะเกิดความเครียด และความวิตกกังวล โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ ที่จะกังวลไปได้หมดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตนเองหรือลูกน้อย คุณแม่บางราย อาจมีอารมณ์แปรปรวนมาก จากระดับฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบต่อสารเคมีในสมอง โดยอาจเกิดความรู้สึกกังวลมากกว่าปกติ จนอาจนำไปสู่การเกิดโรควิตกกังวลตามมาได้อีกด้วย

 

ความกังวลของคนท้อง ทุกคนก็คงหนีไม่พ้น 3 เรื่องหลัก ๆ ดังนี้

เรื่องการแท้งบุตร

ความวิตกกังวลอันน่ากลัวนี้ มักคอยหลอกหลอนเราตลอดระยะเวลาที่เราตั้งครรภ์ใช่ไหมคะ จากสถิติพบว่ามีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ที่มีโอกาสจะสิ้นสุดอายุครรภ์ก่อนกำหนด และภาวะของการแท้งบุตรนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ นะคะ แค่เพียง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
    1. คุณแม่ใช้ชีวิตทุกวันให้เป็นปกติที่สุด ตราบใดที่คุณหมอบอกว่าทุกอย่างโอเค ครรภ์ดีไม่มีปัญหาอะไร ก็อย่าไปคิดมากเลยค่ะ เว้นเสียแต่ว่าคุณหมอจะขอร้องให้คุณแม่นอนพักเยอะ ๆ อยู่นิ่ง ๆ โดยไม่ต้องทำอะไร และการจะมีเซ็กส์กับสามีหรือออกกำลังกายก็สามารถทำได้ แต่ต้องมั่นใจนะคะว่าปลอดภัยและไม่ได้โลดโผนมากจนเกินไป
    2. ระมัดระวังเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม สาเหตุของการแท้งบุตรส่วนหนึ่งก็มาจากอาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภคเข้าไปในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น การดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน การสูบบุหรี่ในระหว่างตั้งครรภ์ และการบริโภคยาบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เป็นต้น
    3. อย่าคิดว่าเป็นเพราะตัวทารกเอง คุณแม่บางท่านจะมองว่าการแท้งบุตรไม่ได้มีสาเหตุมาจากตัวเองแต่เป็นเพราะว่าทารกในครรภ์นั้นมีความผิดปกติ แต่ทราบหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ความเสี่ยงที่จะมีการแท้งนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากสุขภาพของตัวคุณแม่เองด้วยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น มดลูกหรือปากมดลูกมีปัญหา ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และการเป็นโรคเบาหวานเป็นต้น หากคุณแม่ที่มีปัญหาเหล่านี้ และกำลังตั้งครรภ์ควรให้คุณหมอนั้นดูแลอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตนตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด

 

 

ความกังวลของคนท้อง กลัวว่าจะเจ็บ

แน่นอนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องกลัวเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ท้องแรก อย่ากังวลมากไปค่ะ เพียงแค่คุณแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
    1. ศึกษาหาข้อมูลไว้ก่อนล่วงหน้า หาหนังสือที่เกี่ยวกับการคลอดบุตรมาอ่าน หรือถ้าสมัยนี้ก็ง่าย ๆ เลยค่ะ หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตว่าการทำคลอดมีกี่วิธี ขั้นตอนการทำนั้นมีอย่างไรกันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยนี้จะมีคุณแม่บางท่านแชร์ และรีวิวประสบการณ์การคลอดบุตรไว้ หากคุณแม่ได้ทำการศึกษาไว้ก่อน คุณแม่ก็จะสามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้างในวันนั้น จะได้ลดความกลัวลงไปได้บ้าง
    2. พูดคุยกับคุณหมอหรือพยาบาลแผนกสูตินรีแพทย์ หลังจากที่คุณแม่ศึกษาหาข้อมูลแล้ว ถ้ามีคำถามก็จดเอาไว้เลยค่ะ แล้วเก็บเอาไว้ถามผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้ ถามในสิ่งที่อยากรู้ คุณแม่จะได้สบายใจ
    3. เข้ารับการอบรมเรื่องการคลอดบุตร จะให้ดีคุณพ่อควรที่จะเข้ารับการอบรมด้วย เผื่อวันนั้นมาถึงจะได้ดูแลคุณแม่ได้
    4. เตรียมตัวพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ นอกจากจะต้องเตรียมกระเป๋าของใช้จำเป็นของคุณแม่แล้ว ยังมีเรื่องของการเตรียมค่าใช้จ่ายต่างที่จะเกิดขึ้น ที่สำคัญที่สุด กรุ๊ปเลือด จะให้ดีต้องมั่นใจว่า คนในครอบครัวของเราทราบว่าเรามีกรุ๊ปเลือดอะไร เผื่อเกิดภาวะฉุกเฉินขึ้นจะได้เตรียมการช่วยเหลือไว้ได้ทัน
    5. หลีกเลี่ยงบทสนทนาที่ไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่นการพูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่นเกี่ยวกับการทำคลอด โดยที่คุณแม่รายนั้นอาจจะมีประสบการณ์ที่เลวร้ายก็เป็นได้ การฟังเรื่องเหล่านี้มากเกินไปจะยิ่งไปบั่นทอนความรู้สึกของคุณแม่เอง

 

กลัวไม่สวย

เป็นเรื่องธรรมดาของสาว ๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนตั้งครรภ์ ก็แหม จะไม่ให้คุณแม่ไม่กังวลได้อย่างไร ก็ร่างกายเปลี่ยนไปได้มากมายขนาดนี้ จากคนเคยผอมก็น้ำหนักพุ่ง จากเคยมีรักแร้ขาวใสก็กลับมาดำปี๋ วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ

    1. เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและสามารถใส่ได้แม้ภายหลังคลอดลูกแล้ว ด้วยวิธีนี้คุณแม่จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องเสื้อผ้าอีก เช่น กระโปรงหรือกางเกงเอวยางยืด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ
    2. ใส่ถุงน่องหรือเลกกิ้งที่มีสีดำ แค่คุณแม่ลองหยิบเสื้อคลุมท้อง มาใส่คู่ไปกับกางเกงเลกกิ้งสีดำ หรืออาจจะหยิบกระโปรงคลุมท้อง ใส่ควบคู่ไปกับถุงน่องที่มีสีดำ เลือกสร้อยสวย ๆ แบบเก๋ ๆ มาใส่ควบคู่ บางทีคนที่ไม่ได้ท้องอาจจะรู้สึกอิจฉาถึงความสวยนี้ก็ได้ เพราะการตั้งครรภ์ไม่ได้แปลว่า เราจะต้องหยุดแต่งตัวนี่นา
    3. หาชุดชั้นในที่เหมาะสมมาใส่ มั่นใจว่าชุดชั้นในที่ใส่นั้นมีความพอเหมาะกับขนาดของหน้าอกและสะโพกหรือเอวที่เพิ่มขึ้น อย่างน้อยหาซื้อชั้นในเตรียมไว้โดยให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม 1 ไซซ์ และถ้าคุณแม่ต้องการจะให้นมลูกก็ต้องเลือกบราที่เป็นบราสำหรับการนี้โดยเฉพาะ
    4. บริหารกระชับสัดส่วน การบริหารไม่ได้มีส่วนช่วยในการคลอดลูกมากนัก แต่จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทั้งยังทำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้นดูสดใส เช่น การว่ายน้ำ การรำไทเก๊ก และโยคะเฉพาะท่า สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ลองนำคำแนะนำเหล่านี้มาปรับใช้ดูนะคะ หรือถ้าคุณแม่ยังมีคำถามต่าง ๆ มากมาย ไม่ยากหรอกค่ะ สมัยนี้แล้วเพียงแค่คุณแม่อาศัยโลกของโซเชียลให้เป็นประโยชน์ เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะสามารถได้ข้อคิด กำลังใจ รวมถึงเกร็ดความรู้ดี ๆ ได้แล้วละค่ะ ความสนุกยังมาไม่ถึงเลย ตอนนี้สิ่งที่เราควรทำก็คือ นับถอยหลังรอวันที่เจ้าตัวน้อยจะลืมตาขึ้นมาดูโลกกันดีกว่าค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

7 อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ไตรมาสสอง ต้องระวัง อาการแบบไหนเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ

เคล็ดลับการตั้งครรภ์ และวิธีสังเกตอาการคนท้องระยะเริ่มแรก

อาการคนท้องไตรมาส 3 ความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด และสัญญาณใกล้คลอด

ที่มา : 1, 2

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Muninth