หากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีร่างกายสมบูรณ์ ควบคุมน้ำหนักได้ดี มีสรีระร่างกายที่พร้อม ทารกในครรภ์มีน้ำหนักตัวในเกณฑ์ปกติ ไม่มีความเสี่ยงกับการเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีภาวะที่จะเกิดรกเกาะต่ำ ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า ทารกมีก้นเป็นส่วนนำ ฯลฯ ก็สามารถ คลอดลูกด้วยตัวเอง คลอดด้วยวิธีธรรมชาติได้ดั่งใจ แม้รู้ว่าจะเจ็บปวดแต่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้สัมผัสกับความเป็นแม่ในวินาทีแรกที่เริ่มเบ่ง….
คลอดลูกด้วยตัวเอง ถึงเจ็บปวด แต่รู้สึกดีและคุ้มค่ามาก
ความรู้สึกนี้อาจจะเป็นเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวสำหรับแม่บางคนที่ตั้งใจมีลูกคนเดียว ที่จะจดช่วงเวลานี้ไปตลอดชีวิต
#การคลอดลูกด้วยตัวเองทำให้แม่ภูมิใจ
แม้การคลอดลูกเองจะทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มเบ่งคลอด แต่ก็เป็นความเจ็บที่แลกกับความภูมิใจ ความซึ้ง กับการได้สัมผัสกับบทบาทที่กำลังจะเริ่มต้นหลังได้ยินเสียงลูกน้อยร้องอุแว้ เชื่อเลยว่าเวลานี้เราจะมี น้ำตาลูกผู้หญิง ไหลออกมาได้อย่างไม่อายใคร
#คลอดลูกแบบธรรมชาติช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ
หนึ่งในข้อดีของการคลอดลูกแบบธรรมชาตินั้น จะช่วยทำให้มดลูกหดตัวไว ไม่มีแผลที่มดลูก และมีแบคทีเรียประเภท probiotic ที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกโดยธรรมชาติระหว่างที่ทารกเดินทางออกมาจากช่องคลอด รวมถึงการตั้งใจที่จะคลอดลูกเองนั้น ทำให้คุณแม่ต้องเตรียมตัวดูแลร่างกายและจิตใจก่อนคลอดให้ดีที่สุด ได้รับกำลังใจจากสามีและคนใกล้ชิดตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์จนถึงคลอด มีความเชื่อมั่นในการเผชิญกับความเจ็บปวดระหว่างการคลอดเพื่อให้ลูกน้อยได้ออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย สิ่งเหล่านี้ก็มีส่วนช่วยเสริมให้ลูกน้อยออกมามีสุขภาพดีทั้งกายและใจได้เช่นกันนะคะ
#คลอดลูกเองทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว
หากในช่วงคลอด คุณแม่เบ่งคลอดง่าย ไม่มีภาวะแทรกซ้อน การคลอดเองจะทำให้คุณแม่เสียเลือดน้อยกว่าการผ่าตัดคลอด ซึ่งก็ช่วยทำให้ฟื้นตัวได้เร็วและพักฟื้นร่างกายในโรงพยาบาลประมาณ 2 วันก็สามารถกลับบ้านได้
#การคลอดแบบธรรมชาติช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำนมได้ดี
หากแม่คลอดแบบธรรมชาติ จะมีฮอร์โมน oxytocin หลั่งออกมาจำนวนมาก ทารกแรกเกิดจะได้กลิ่นน้ำนมที่หลั่งออกมาในขณะที่เอาลูกเข้าเต้า ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ทารกดูดนมจากอกแม่ได้ดี
#คลอดลูกเองมีโอกาสที่จะสัมผัสลูกน้อยได้เร็ว
ในขณะที่คุณแม่ที่ผ่าคลอดอาจจะต้องพักฟื้น อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังคลอด กว่าจะได้สัมผัสลูกเต็ม ๆ ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน แต่สำหรับแม่ที่คลอดลูกเองที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าจะมีโอกาสที่จะได้เจอหน้าและสัมผัสลูกน้อยได้เร็วกว่า และในระหว่างการคลอดและหลังคลอด มีฮอร์โมนที่ชื่อ “love hormone” ซึ่งหลั่งออกมา ทำให้คุณแม่เกิดความรู้สึกตกหลุมรักลูกตั้งแต่แรกเกิดและสร้างสายใยความผูกพันระหว่างแม่ลูกมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้การคลอดลูกด้วยตัวเอง ยังทำให้คุณพ่อคุณแม่ลดภาวะค่าใช้จ่ายในการคลอดที่ถูกกว่าการผ่าตัดคลอดได้อีกด้วยนะคะ ดังนั้นท้องนี้หากคุณแม่ตั้งใจคลอดลูกแบบธรรมชาติ จำเป็นต้องเริ่มดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์เลย ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย พักผ่อน ออกกำลังกาย ลุกขยับเพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ มีความแข็งแรง มีร่างกายที่พร้อมสำหรับการคลอดลูกแบบธรรมชาตินะคะ
การคลอดธรรมชาติที่คุณแม่มือใหม่ทุกคนควรรู้!
เมื่อกำหนดเวลาคลอดกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจกำลังมีความกังวลใจเกี่ยวกับการคลอดด้วยตัวเองหรือคลอดธรรมชาติ บอกได้เลยนะคะว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ความจริงแล้วการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติปลอดภัยมากกว่าการผ่าคลอดนะคะ คุณแม่จะฟื้นตัวได้เร็ว ไม่เจ็บแผลผ่าตัด และไม่มีแผลเป็นให้รำคาญใจ ที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายถูกกว่าเยอะเลยค่ะ คุณแม่ทุกคนสามารถคลอดลูกเองได้ตามสัญชาตญาณความเป็นแม่ จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าต้องทำอย่างไร อยากให้คุณแม่มองข้ามความกลัวและเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกนะคะ
การคลอดธรรมชาติ เป็นวิธีคลอดปกติที่แนะนำกัน เพราะมีความปลอดภัยต่อแม่และลูก ถือว่าเป็นช่วงนาทีน่าประทับใจที่สุดในชีวิตของคุณแม่ จะได้เห็นหน้าลูกน้อยคลอดออกมาอย่างสมบูรณ์ตามธรรมชาติ
สัญชาตญาณของแม่ในการเบ่งท้องคลอดธรรมชาติ เป็นความเจ็บปวดที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุข และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิดค่ะ ว่าที่คุณแม่ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี มักเลือกวิธีการคลอดแบบธรรมชาติ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
1. เพราะการคลอดตามธรรมชาติจะได้สัมผัสประสบการณ์น่าประทับใจและเข้าถึงความเป็นแม่มากที่สุด
2. คุณแม่เชื่อมั่นว่ากระบวนการคลอดธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ธรรมชาติสร้างมาดีแล้ว
3. คุณแม่เชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถคลอดลูกได้ตามธรรมชาติ
4. เชื่อมั่นว่าจะอดทนต่อความเจ็บปวดระหว่างคลอดได้
5. คุณแม่ต้องการเลี่ยงใช้ยาต่าง ๆ ที่อาจจะมีผลต่อแม่และลูกที่จะคลอดออกมาในภายหลัง
ทำไมถึงไม่มีการใช้ยาเพื่อลดปวดในการคลอดตามธรรมชาติ
เมื่อลูกน้อยครบกำหนดคลอด คุณแม่จะเริ่มเจ็บท้อง มดลูกบีบตัวหดเกร็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ปากมดลูกจะค่อย ๆ เปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นทารกจะเคลื่อนตัวผ่านช่องคลอดออกมา
ทุกครั้งที่มดลูกบีบตัวรุนแรงและเจ็บถี่ สมองจะหลั่งฮอร์โมนออกซีโตซินออกมากระตุ้นให้มดลูกบีบตัวแรงขึ้น ช่วยให้คุณแม่คลอดธรรมชาติได้เร็วขึ้น ลดความเจ็บปวดและลดการเสียเลือดขณะคลอด ถึงแม้ว่าคุณแม่ท้องแรกจะกลัวความเจ็บปวดขณะเบ่งคลอด แต่การคลอดลูกเองเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า และร่างกายมีกระบวนการลดความเจ็บปวดระหว่างคลอดด้วยตัวเองอยู่แล้วจึงทำให้คลอดง่าย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ
อาการปวดในระยะเตรียมคลอดจึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่า คุณพ่อคุณแม่จะได้ต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่ครอบครัว การคลอดธรรมชาติควรเลือกท่าที่เหมาะสมสำหรับการคลอดมากที่สุด มักเป็นการนอนหงายหลังแยกขาเพื่อให้เด็กอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมกับการคลอด ช่วยลดความเจ็บปวด และมดลูกเปิดเร็วมากขึ้น ช่วยให้คลอดง่ายที่สุดค่ะ
ทันทีที่คุณแม่คลอดธรรมชาติสำเร็จ อาการมดลูกบีบตัวจะค่อย ๆ หายไป เพราะการหลั่งฮอร์โมนออกซีโทซินจะหยุดโดยอัตโนมัติ อาการปวดของคุณแม่จะค่อย ๆ ทุเลาลงไป ระหว่างนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟินออกมาตามธรรมชาติ ประโยชน์ของเอ็นโดรฟินช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ออกฤทธิ์คล้ายกับมอร์ฟีน ช่วงที่ทารกเคลื่อนผ่านปากมดลูก คุณแม่จะรู้สึกเบลอ ๆ เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน ช่วยให้คลอดเจ้าตัวน้อยง่ายขึ้น คุณแม่จะเจ็บปวดหลังคลอดไม่นานแล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ
การคลอดตามธรรมชาติในน้ำ
การคลอดลูกในน้ำเป็นเทคนิคการคลอดธรรมชาติ ที่กำลังนิยมมากในปัจจุบัน ช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและลดความเจ็บปวดระหว่างคลอดด้วยค่ะ ถือเป็นการคลอดที่ปลอดภัยและยังมีข้อดีต่อตัวแม่และลูกอีกหลายข้อเลยค่ะ
ปัจจุบันโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์หลายแห่งมีการทำคลอดในน้ำเป็นทางเลือกด้วยนะคะ คุณแม่ยุคใหม่เลือกวิธีคลอดในน้ำได้อย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ที่มีความชำนาญ วิธีนี้ยังช่วยลดความเจ็บปวดให้เกิดขึ้นน้อยกว่าการคลอดปกติ ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลของคุณแม่ระหว่างคลอดได้ดี ทั้งนี้คุณพ่อและคุณแม่สามารถไว้วางใจว่าวิธีการนี้ปลอดภัยแน่นอนค่ะ
การคลอดตามธรรมชาติที่บ้าน
การคลอดเองที่บ้านเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเลยค่ะ ตัวเลขสถิติพบว่า ผู้หญิงสุขภาพดีหลายร้อยคนคลอดธรรมชาติปลอดภัยดีที่บ้านตัวเองได้ โดยมีแพทย์และพยาบาลที่จบทางด้านการผดุงครรภ์อยู่ด้วยระหว่างคลอด เตรียมตัวมาอย่างดีและมีแผนรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ตลอดเวลา ที่สำคัญคือการคลอดลูกเองที่บ้านมีเทคนิคช่วยลดอาการปวดระหว่างการคลอดได้หลายวิธี โดยไม่ต้องใช้ยากินและยาฉีด นับเป็นวิธีที่ปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยหลังคลอดด้วยนะคะ
อาการปวดระหว่างการคลอดธรรมชาติ
อาการเจ็บท้องคลอดเป็นกลไกธรรมชาติที่จะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนให้มดลูกบีบตัวแรงและถี่ขึ้น ทำให้ทารกคลอดง่ายขึ้น ปัจจุบันมีวิธีลดอาการปวดระหว่างคลอดได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยากินหรือยาฉีด เพื่อให้การคลอดไม่เป็นอันตรายต่อแม่และเด็กด้วย
การคลอดตามธรรมชาติ
การคลอดลูกเป็นประสบการณ์สำคัญในชีวิต เป็นความภาคภูมิใจของคนเป็นแม่ ผู้หญิงทุกคนมีสัญชาตญาณในการคลอด คุณแม่ควรศึกษาและเตรียมตัวก่อนคลอดให้ดี เพื่อให้การคลอดลูกน้อยนั้นออกมาอย่างราบรื่นและปลอดภัยค่ะ
ช่วงที่ทารกกำลังคลอดธรรมชาติ
หลังจากรอคอยมานานหลายเดือน วันคลอดก็มาถึง คุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายและสภาพแวดล้อมเพื่อรับมือกับขั้นตอนการคลอดธรรมชาติ แนะนำให้มีสมาธิกับช่วงเวลาสำคัญนะคะ
ช่วงหลังคลอดธรรมชาติ
วิธีการคลอดธรรมชาติคุณแม่จะมีสติรู้ตัวระหว่างคลอดตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงนาทีสำคัญที่ลูกน้อยคลอดออกมาและแพทย์อุ้มทารกมาวางอยู่ในอ้อมแขน คุณแม่จะพบกับความรู้สึกมีความสุข ตื่นเต้นและภาคภูมิใจ หลังคลอดแล้วคุณแม่ต้องรู้วิธีดูแลตัวเองและดูแลลูกน้อยไปพร้อมกัน สามารถหาอ่านได้จากบทความในเว็บไซต์ Huggies หรือหนังสือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมนะคะ
การเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดตามธรรมชาติ
หากคุณแม่ตัดสินใจว่าจะคลอดธรรมชาติ แนะนำให้คุณแม่ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณแม่จะคลอดแบบธรรมชาติได้โดยไม่เกิดอันตรายและรู้สึกมั่นใจว่าสามารถคลอดด้วยตัวเองได้ ทั้งนี้คุณแม่ควรมีการเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้การคลอดราบรื่นตัวคุณแม่และลูกน้อยจะได้ปลอดภัยที่สุดค่ะ
อ้างอิงข้อมูลจาก : women.thaiza.com และ huggies.co.th
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
หลังคลอดลูกต้อง แจ้งเกิดลูกภายในกี่วัน ทำสูติบัตรให้ลูกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
กว่าจะเบ่งออกมาได้ 20 ภาพความงดงามของการ คลอดลูกแบบธรรมชาติ กับหมอตำแย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!