คนท้องแพ้ยา อาการแพ้ยา รุนแรง! ตาบวมเป่ง เบลอ จุกแน่นหน้าอก ต้องรีบไปโรงพยาบาล

แม่แชร์อาการคนท้องแพ้ยารุนแรง พอรู้ตัวว่าแพ้ยาตอนเที่ยงคืน ก็รีบไปโรงพยาบาล

คนท้องแพ้ยา

แม่เล่าประสบการณ์ คนท้องแพ้ยา แม่ตั้งครรภ์ 7 เดือน แพ้ยาอย่างรุนแรง โดยโพสต์ว่า เราตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน แล้ว หมอนัดตามปกติทุกเดือนค่ะ หมอนัดฉีดวัคซีน แล้วหมอก็ถามอาการตามปกติ เราก็บอกมีอาการปวดหลัง เขาก็ให้ยามากิน ปรากฏว่าจัดยาแต่ไม่อ่านประวัติคนไข้ ซึ่งหน้าใบฝากครรภ์ก็ระบุว่าเราเเพ้ยา บูเฟ่น ไอบูโปรเฟ่น อันตรายมากค่ะถ้าไปโรงพยาบาลช้า

 

แม่ท้องแพ้ยารุนแรง ตาบวมเป่ง มีอาการเบลอ จุกแน่นหน้าอก อันตรายอาการแพ้ยา!

ทางทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ จึงติดต่อคุณแม่เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดการแพ้ยา คุณแม่เล่าว่า ในใบแพ้ยา มีประวัติการแพ้ยาบลูเฟ่น Brufen, ยาไอบูโปรเฟน Ibuprofen และยาเอ็นเสด NSAID ตระกูล NSAIDs ทุกตัว

"พอกลับบ้านมาก็ทานข้าวทานยาไม่ถึง 45 นาที คันตา ตาบวมเริ่มหายใจไม่ออก เบลอ แน่นหน้าอก จึงรีบไปโรงพยาบาล หมอฉีดยาให้ อาการดีขึ้นค่ะ"

ตอนที่แพ้ยาประมาณเที่ยงคืน ตาเริ่มบวม เริ่มมีอาการเบลอ คัน จุกหน้าอก รู้แล้วว่าแพ้ยา เพราะเราเคยมีประวัติแพ้ยามาก่อน ก่อนที่เราจะท้อง ก็เลยไปหาหมอ หมอก็ฉีดยาขยายหลอดเลือด และยาแก้แพ้ให้ หมอบอกว่า ยาที่ฉีดไม่ค่อยมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์

ตื่นเช้ามาก็ไปคลินิกฝากครรภ์อีกที่ ที่สามารถอัลตร้าซาวด์ 4 มิติได้ เราก็เป็นกังวลว่า เด็กจะเป็นอะไรหรือเปล่า หมอบอกว่า เด็กไม่เป็นอะไร แต่ถ้าไปโรงพยาบาลช้ากว่านี้จะเป็นอันตรายต่อเด็กได้

สำหรับอาการของแม่ท้องที่แพ้ยา ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ทางทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ก็ขอให้คุณแม่แข็งแรง ๆ อย่างนี้ไปจนวันคลอดเลยนะคะ

 

คนท้องแพ้ยารุนแรง!

อาการแพ้ยา

คนท้องแพ้ยาเสี่ยงอันตรายอย่างมาก เนื่องจากคนท้องมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงอย่างคนปกติทั่วไป ทั้งยังมีทารกในครรภ์ ที่อาจเสี่ยงอันตรายเมื่อคนท้องแพ้ยาได้

ทำไมถึงเกิดอาการแพ้ยา

อาการแพ้ยาเกิดจากร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินไปต่อตัวยาชนิดนั้น ๆ จึงแสดงอาการแพ้ออกมา โดยอาการแพ้ยามีหลายอย่าง เช่น เกิดผื่นขึ้นตามผิวหนัง ตับอักเสบ และอาการอื่น ๆ ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกระบบในร่างกาย อาการแสดงและความรุนแรงของการแพ้ยาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยอาจเป็นที่ตัวคนไข้เองหรือขึ้นอยู่กับชนิดของยา โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท

  • แบบฉับพลัน คือแสดงอาการแพ้ยาหลังได้รับยาภายใน 1 ชั่วโมง
  • แบบไม่ฉันพลับ คือแสดงอาการแพ้ยาหลังได้รับยาเกิน 1 ชั่วโมง

 

วิธีสังเกตว่าร่างกายแพ้ยา

  1. ผื่นขึ้น ลมพิษ
  2. แน่นหน้าอก หลอดลมตีบ
  3. ความดันตก
  4. ปากบวม หน้าบวม ลิ้นบวม

คนส่วนใหญ่มักสังเกตเห็นอาการแสดงที่ผิวหนังได้ก่อนระบบอื่น เพราะสามารถสังเกตได้ง่าย ส่วนอาการแพ้ยาที่รุนแรงนั้นอาจทำให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียวรวมทั้งมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น อาการทางผิวหนังที่มีการหลุดลอก ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง

 

เมื่อมีอาการแพ้ยาควรทำอย่างไร

  • หยุดยาและรีบพบแพทย์ หากพบว่ามีอาการผิดปกติหลังได้รับยาภายใน 1 ชั่วโมงหรือภายใน 2-3 วัน
  • ควรนำยาที่ตนเองได้รับติดตัวไปด้วย เพื่อให้แพทย์พิจารณา
  • ควรถ่ายภาพความผิดปกติของตนเองที่เกิดขึ้นเก็บไว้ เพื่อให้แพทย์พิจารณาประกอบ เช่น ภาพผื่น เพราะผื่นบางชนิดเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะแล้วหายไป
  • หลีกเลี่ยงการทำให้อาเจียน และการซื้อยาแก้แพ้กินเอง
  • หากมีประวัติแพ้ยาควรจดจำชื่อยาที่ตนเองแพ้ และแจ้งแพทย์ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา

 

ไม่ใช่แค่คนท้องที่ต้องระวัง แต่อาการแพ้ยา อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ทั้งคนท้องแพ้ยา ลูกแพ้ยา หรือแม้แต่ตัวเราเองที่คิดว่า สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ดังนั้น ถ้ามีอาการแพ้ยาควรรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

 

ที่มา : Ramachannel

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

วิธีป้องกันคลอดก่อนกำหนด คลอดก่อนกําหนด อาการอย่างไร แม่ท้องกลัวลูกคลอดก่อนกำหนด

ปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์ มีสาเหตุมาจากอะไร บรรเทาอาการปวดหลังได้อย่างไร

คนท้องเดินทางไกลได้ไหม ต้องทำอย่างไร คนท้องกี่เดือนห้ามเดินทางไกล

ยาอันตรายห้ามใช้กับคนท้อง แม่ท้องต้องรู้ 11 ยาอันตรายอาจทำให้ลูกในครรภ์พิการได้

 

บทความโดย

Tulya