สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ รู้สึกกลัวการเดินทางโดย รถสาธารณะ อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เรามีเคล็ดลับดี ๆ ให้กับการที่คุณแม่ที่เดินทางโดยรถสาธารณะ เพราะการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแค่คุณแม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ก็จะเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ
รถสาธารณะ คืออะไร ? คนท้องนั่งได้ไหม
รถสาธารณะ คือ บริการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารที่สามารถใช้ได้โดยสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็น รถประจำทางสาธารณะ รถราง รถลาก รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน และเรือข้ามฟาก สายการบิน รถทัวร์ รถเมล์ รถร่วม รวมไปถึงรถแท็กซี่
การเดินทางขณะตั้งครรภ์
โดยปกติการเดินทางไปต่างจังหวัดก็ไม่ได้มีข้อห้ามค่ะ ยกเว้นการเดินทางไกล ๆ เป็นเวลานานมากหรือเหนื่อยมาก คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถเดินทางไปไหนไกล ๆ หรือไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ เพราะการเดินทางไม่มีผลต่อการแท้งและการคลอดก่อนกำหนดแต่อย่างใด
แต่ควรเป็นห่วงสำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องในช่วงระยะแรก ๆ เพราะอาจทำให้อ่อนเพลียและวิงเวียนศีรษะจนอาจเกิดอันตราย (ส่วนช่วงใกล้คลอดก็เป็นอันตรายเช่นกันค่ะ) รวมไปถึงคุณแม่ที่เคยมีประวัติการทำแท้งหรือเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดมาก่อน ก็ให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้นและไม่ควรเดินทางไปไหนไกล ๆ จากบ้านมากนัก
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องอยากเที่ยว เที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย 9 ข้อที่แม่ท้องต้องรู้ก่อนไปเที่ยว
คนท้องเดินทางอย่างไรถึงจะปลอดภัย
คนท้องนั่งรถตู้โดยสาร
- เลือกที่นั่งคู่กับคนขับ เพราะที่นั่งคู่คนขับถือเป็นที่นั่งที่สะดวกสบายที่สุด และสามารถยืดขาได้มากกว่าเบาะด้านหลัง
- คุณแม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับคนท้อง ต้องคาดระหว่างอกพอดี ห้ามคาดส่วนหน้าท้อง เพราะบริเวณนี้สามารถช่วยรองรับและปกป้องแรงกระแทกจากการชนได้มากที่สุด และระวังอย่าให้สายบิด
- ปรับเก้าอี้ให้อยู่ในลักษณะกึ่งนอนและควรเลื่อนที่นั่งไปด้านหลังมากที่สุด เพื่อลดอาการปวดเมื่อย
- เตรียมหมอนอิงสำหรับหนุนหลังและหมอนรองคอ
- ปรับแอร์พัดลมให้ถึงตัวคุณแม่ เพื่อป้องกันการวิงเวียนศีรษะ
- ขณะที่รถตู้เติมเชื้อเพลิงต้องลงจากรถทุกครั้ง
คนท้องนั่งรถไฟฟ้า
- คุณแม่ควรระมัดระวังในการขึ้นและลงบันไดเลื่อน เพราะบันไดเลื่อนค่อนข้างสูง
- หากผู้คนหนาแน่น ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การหกล้ม การกระแทก
- เลี่ยงทางเข้าออกอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องปิดกั้นโดนท้องคุณแม่
คนท้องนั่งเรือ
การโดยสารเรือเดินทางขนาดใหญ่จะดูปลอดภัยกว่าเรือขนาดเล็ก เช่น เรือหางยาวหรือเร็ว ซึ่งจะมีแรงกระแทกมากกว่า
- หากคุณแม่เป็นคนที่เมาเรืออยู่แล้ว ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยเรือ
- การนั่งเรือมีความเสี่ยงมาก ควรเลี่ยงจะดีกว่า
- หากอยู่ในช่วงไตรมาส 3 คุณแม่ไม่ควรเดินทางโดยเรือ
- ระมัดระวังการหกล้ม โดยเฉพาะตอนก้าวขึ้นลงจากเรือ
- เมื่อขึ้นเรือควรนั่งกลางเรือ เพราะจะมีแรงกระแทกน้อยที่สุด
คนท้องนั่งรถเมล์
- ควรหลีกเลี่ยงรถเมล์คันที่แน่นมาก ๆ
- ระมัดระวังทั้งขณะขึ้นและลงบันได
- คุณแม่ไม่ควรยืนหรือโหนรถเมล์
การเดินทางด้วยเครื่องบินสำหรับคนท้อง
คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน เมื่อถึงเดือนสุดท้ายหรือช่วงใกล้คลอด เพราะอาจจะไม่ปลอดภัยหากเกิดอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด และสายการบินส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้คนท้องมากกว่า 7 เดือน ขึ้นไปโดยสารบนเครื่องบิน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นและมีใบรับรองแพทย์มาแล้ว
- ห้ามนั่งเครื่องบินโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กที่ไม่มีการปรับความดันภายในห้องโดยสาร
- ควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินแต่ละแห่งล่วงหน้า ว่ามีข้อห้ามหรือข้อจำกัดอะไรบ้าง
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ 27-28 สัปดาห์ ทางสายการบินก็อนุญาตให้เดินทางได้แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์
- ถ้าเป็นไปได้คุณแม่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าประกันสุขภาพหรือประกันภัยการเดินทางของคุณแม่ครอบคลุมถึงปัญหาการตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในขณะเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่
- ไม่มีข้อมูลที่ยืนยันว่าการขึ้นเครื่องบินจะเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ เช่น อัตราการแท้ง ความผิดปกติของทารกในครรภ์ หรือการคลอดก่อนกำหนด ฯลฯ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งครรภ์ของคุณแม่ด้วยว่ามีภาวะเสี่ยงต่าง ๆ หรือไม่ เช่น ภาวะรกเกาะต่ำ ปากมดลูกหย่อน
- แม้ว่าเครื่องบินจะเป็นพาหนะที่มีแรงกระแทกค่อนข้างน้อยก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ขึ้นบินคุณแม่ก็ควรบอกทางสายการบินด้วยว่ากำลังตั้งครรภ์
- คุณแม่ควรมีคนเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วยทุกครั้ง เพื่อช่วยเหลือในยามเกิดเหตุฉุกเฉิน
- หากคุณแม่จำเป็นต้องใช้ยาในระหว่างเดินทาง ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง และ ตรวจสอบว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางครั้งนี้
- ที่นั่งที่คุณแม่เลือกควรนั่งบริเวณทางเดินเพื่อให้สามารถลุกขึ้นยืนได้ และ เพื่อให้คุณแม่เหยียดขาได้สะดวกที่สุด
- ในการเดินทางไกลคุณแม่ควรเหยียดส้นเท้าและปลายเท้าสลับกันเป็นพัก ๆ เพื่อให้ตลอดช่วงเวลาของการเดินทางเลือดไหลเวียนได้ดี
- ในกรณีที่ต้องเดินทางไกลมาก ๆ ใช้เวลาหลายชั่วโมง คุณแม่ควรสวมใส่ถุงเท้าชนิดที่ใช้เฉพาะระหว่างเที่ยวบิน เพื่อช่วยลดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำได้บ้างเล็กน้อย
- คุณแม่อาจเตรียมอาหารส่วนตัวไปด้วยเผื่อรับประทานอาหารบนเครื่องบินไม่ได้ ที่สำคัญควรรับประทานแต่อาหารที่ย่อยได้ง่ายแต่พออิ่มท้อง
- ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ เพราะอากาศบนเครื่องบิน มีความชื้นน้อย
- ในกรณีเดินทางข้ามทวีป คุณแม่ควรพักผ่อนหลังจากเดินทางสัก 2-3 วัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องขึ้นเครื่องบินได้มั๊ย? คนท้องที่จำเป็นจะต้องเดินทางโดยเครื่องต้องทำยังไง
การเตรียมตัวก่อนเดินทางของแม่ท้อง
ในช่วงไตรมาสแรกคุณแม่ควรเลี่ยงการเดินทางเป็นพิเศษเนื่องจากจะทำให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นระยะที่ปลอดภัย และไตรมาส 3 หากจำเป็นต้องเดินทางอาจจะต้องปรึกษาคุณหมอ เนื่องจากเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
- ปรึกษาคุณหมอ เป็นวิธีที่คุณแม่หลายท่านนิยมมากที่สุด เพราะการปรึกษาคุณหมอก่อนการเดินทางจะยิ่งทำให้คุณแม่เกิดความสบายใจ
- สมุดจดบันทึก จดเกี่ยวกับสุขภาพการตั้งครรภ์ พร้อมทั้งมีเบอร์สูติแพทย์ และควรมี ชื่อที่อยู่ เพื่อกรณีฉุกเฉิน
- จัดทริปเที่ยวแบบสบาย ๆ ไม่ควรใช้เวลาเดินทางในการไปสถานที่ท่องเที่ยวนานเกินไปเพราะจะทำให้คุณแม่เหนื่อยล้า
- จัดเตรียมของให้พร้อม เตรียมของใช้ส่วนตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง
หากคุณแม่ไม่มีเรื่องจำเป็นต่อการเดินทาง ก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปก่อน เพราะการเดินทางอาจจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ อาการเครียดส่งผลแก่ลูกน้อยในท้อง เนื่องจากคุณแม่นอนหลับไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากคุณแม่มีภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง หากคุณแม่มีความเครียดสูงก็จะส่งผลให้คลอดลูกก่อนกำหนดและเด็กที่เกิดมาอาจจะมีความบกพร่องได้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องเดินทางไกลได้ไหม ต้องทำอย่างไร คนท้องกี่เดือนห้ามเดินทางไกล
ท้องแต่ไม่มีคนลุกให้นั่งทำยังไง แม่ท้องเดินทางยังไง ให้ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก
ที่มา : rakluke