แม่รู้ไหม!!ยอดมดลูกบ่งบอกขนาดทารกในครรภ์
ในช่วงที่ตั้งครรภ์เมื่อขนาดท้องของคุณแม่ขยายใหญ่ขึ้นตามขนาดของทารก การตรวจครรภ์ในแต่ละครั้งการวัดขนาดของยอดมดลูกสามารถบอกขนาดของทารกในครรภ์ได้ จะเป็นอย่างไร ติดตามอ่าน
ขนาดของยอดมดลูก ตําแหน่งมดลูกตั้งครรภ์
ตําแหน่งมดลูกตั้งครรภ์
นพ.ฤชา ตั้งจิตธรรม พ.บ. สูตินรีแพทย์, โรงพยาบาลสระบุรี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การวัดยอดมดลูกกับขนาดทารกในครรภ์ไว้ ดังนี้
อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะสูงประมาณ 1/3 เหนือกระดูกหัวหน่าว
อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะสูงประมาณ 2/3 เหนือกระดูกหัวหน่าว
อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ระดับสะดือ
อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะสูงกว่าระดับสะดือเล็กน้อย
อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ 1/4 เหนือระดับสะดือ
อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ 2/4 เหนือระดับสะดือ
อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ ยอดมดลูกอยู่ 3/4 เหนือระดับสะดือ
แม่รู้ไหม!!ยอดมดลูกบ่งบอกขนาดทารกในครรภ์
ขนาดของทารกในครรภ์
เดือนที่ 1 ในช่วงนี้ทารกในครรภ์ยังเป็นตัวอ่อนงอกติดอยู่ในโพรงมดลูกจากเพียง 1 เซลล์ เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 150 เซลล์ภายใน 7 วัน อายุ 5 สัปดาห์ จะมีลำตัวยาว 7 มิลลิเมตร หรือมีขนาดเท่าเมล็ดถั่ว
เดือนที่ 2 เริ่มมีรูปร่างชัดเจนขึ้นแล้วค่ะ โดยส่วนหัวจะโตกว่าส่วนอื่น ๆ อย่างชัดเจน มีรูปหน้า มีมือและเท้า เริ่มงอกออกมา หากอัลตราซาวด์ในช่วงปลายเดือน จะเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวและจับอัตราการเต้นของหัวใจได้
เดือนที่ 3 ในช่วงเดือนที่ 3 นี้ รูปร่างของทารกจะเริ่มมีลักษณะคล้ายมนุษย์มากขึ้นแล้วค่ะ ตัวของเจ้าหนูจะลอยอยู่ในน้ำคร่ำที่จะช่วยปกป้องทารกไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือนต่าง ๆ เริ่มมีนิ้วมือและนิ้วเท้า หัวใจจะเป็นรูปเป็นร่างทำงานเต็มที่ อวัยวะเพศเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง แต่จะยังไม่สามารถแยกเพศได้นะคะ พอทารกอายุได้ 12 สัปดาห์ จะมีน้ำหนัก 14 กรัม และมีขนาดลำตัวยาว 3 นิ้ว
เดือนที่ 4 อวัยวะของทารกเริ่มเป็นรูปเป็นร่างสมบูรณ์มากขึ้น แต่ตัวยังผอมอยู่เพราะไม่มีชั้นไขมัน อวัยวะต่าง ๆ เริ่มสมบูรณ์มากขึ้น ผิวบางจนมองเห็นเส้นเลือดได้ รกมีขนาดโตมากขึ้น มีจำนวนเส้นประสาทและกล้ามเนื้อมากขึ้น สามารถเตะ งอนิ้วมือนิ้วเท้า กลอกตาได้อวัยวะเพศพัฒนามากขึ้นจนสามารถบอกได้ว่าเป็นเพศใด
เดือนที่ 5 ตอนนี้ทารกน้อยมีขนาดลำตัวยาว ประมาณ 9 นิ้ว ร่างกายจะผลิตสารสีขาวข้น เรียกว่า เวอร์นิกซ์ มาเคลือบเพื่อปกป้องผิวตอนนี้เส้นผม คิ้ว ขนตาของหนูเริ่มงอกแล้วนะ มีการพัฒนาระบบประสาทสัมผัส คือ รับรู้รส ได้กลิ่น ได้ยินเสียง แต่ดวงตายังปิดอยู่ แต่สามารถรับรู้แสงสว่างจ้าได้ ในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นพูดคุยกับลูกในท้อง ให้ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือให้ฟังจะดีต่อพัฒนาการของทารกอย่างมากค่ะ เจ้าหนูเริ่มเคลื่อนไหวบิดตัว เตะขา โก่งตัว ขยับตัว ซึ่งแม่จะรู้สึกได้ชัดเจนขึ้นและเจ้าตัวน้อยเริ่มถ่ายปัสสาวะลงสู่น้ำคร่ำได้แล้วนะ
เดือนที่ 6 การพัฒนาทางร่างกายจะช้าลงเล็กน้อยเพื่อให้อวัยวะภายใน ได้แก่ ปอด ระบบการย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกันได้พัฒนาอย่างเต็มที่ ในช่วงนี้ทารกจะเริ่มมีเนื้อหนังมากขึ้น เพราะมีไขมันมาสะสมใต้ชั้นผิวหนัง ในช่วงนี้ทารกจะได้ยินเสียงหัวใจของแม่ เสียงพูด เสียงดนตรีชัดเจนและสามารถตอบสนองด้วยการขยับตัวหรือดิ้นตอบ พอเข้าสู่สัปดาห์ที่ 26 ลูกจะเริ่มจำเสียงคุณแม่ได้
เดือนที่ 7 ตอนนี้เจ้าตัวน้อยในท้องคุณแม่เติบโตขึ้นมากเลยนะคะ เปลือกตาเริ่มเปิด นัยน์ตาพัฒนาไปมากจนสามารถมองเห็นแสงผ่านทางหน้าท้องแม่ได้ ต่อมรับรสพัฒนาได้มาก อวัยวะสำคัญ ๆในร่างกายทำงานได้ค่อนข้างสมบูรณ์ เพียงแต่ปอดยังไม่พัฒนาเต็มที่เท่าที่ควร หากทารกคลอดออกมาในช่วงเดือนนี้หรือที่เรียกว่าคลอดก่อนกำหนดจะมีโอกาสรอดชีวิตสูง
บทความแนะนำ พัฒนาการมองเห็นของทารกในครรภ์ เริ่มต้นอย่างไร
เดือนที่ 8 ทารกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น โตขึ้นจนแน่นท้องคุณแม่แล้วค่ะ เฉลี่ยน้ำหนักตัวจะเพิ่มเป็น 2 – 3 เท่า การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ทำงานประสานกันได้ดีขึ้น และอาจจะนอนอยู่ในท่ากลับหัวพร้อมจะคลอด ทารกจะขยับตัวได้น้อยลงเพราะพื้นที่ในท้องแคบลง น้ำดีและน้ำคร่ำที่ทารกกลืนเข้าไปจะสะสมอยู่ในลำไส้ของทารกไปจนถึงคลอด และจะถ่ายของเสียนี้ออกมาเมื่อคลอด หรือที่เรารู้จักกันคือ ขี้เทา ในช่วงนี้คุณแม่อาจจะมีอาการเจ็บเตือนเนื่องจากมดลูกบีบตัวเกิดขึ้นได้ แต่เป็นการเจ็บท้องหลอกหรือเพื่อให้คุณแม่รู้ว่าหนูพร้อมจะคลอดออกมาแล้วค่ะ
บทความแนะนำ เสียงจากคุณแม่ เมื่อลูกประสบภาวะสำลักขี้เทาจนเสียชีวิต
เดือนที่ 9 พัฒนาการของทารกในช่วงนี้จะสมบูรณ์มากขึ้นเฉลี่ยน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม มีชั้นไขมันหนา ปอดทำงานได้ดีขึ้น ท่านอนของทารกจะอยู่ในท่ากลับหัวกดปากมดลูกไว้เตรียมพร้อมคลอด ซึ่งคุณแม่อาจจะคลอดช่วงไหนก็ได้นะคะในช่วงเดือนที่ 9
แต่ถ้าช้ากว่าที่คุณหมอกำหนดไว้ 2 สัปดาห์แล้วยังไม่อาการเจ็บท้องคลอด คุณหมออาจจะต้องเร่งคลอดเพราะออกซิเจนและสารอาหารจากรกเริ่มไม่ส่งไปเลี้ยงทารกแล้ว หรือที่เรียกกันว่ารกเสื่อม จึงต้องนำทารกออกมาเพื่อความปลอดภัยของแม่และลูกค่ะ
บทความแนะนำ ภาวะรกเสื่อมคืออะไร อันตรายอย่างไร
ได้ทราบกันแล้วนะคะสำหรับขนาดของยอดมดลูก และพัฒนาการของทารกในครรภ์ ดังนั้น ในระหว่างนี้คุณแม่ต้องดูแลตนเองให้ดีรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ จะได้รับสารอาหารเพียงพอสำหรับคุณแม่เองและทารกน้อย หากคุณแม่คนใดใกล้คลอดแล้วก็ขอให้คลอดอย่างปลอดภัย สุขภาพดีทั้งคุณแม่ คุณลูกนะคะ
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รู้ได้อย่างไรว่ามดลูกเข้าอู่แล้ว