เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี รายได้ไล่ตามไม่ทันค่าครองชีพ เทรนด์การใช้จ่ายก็เปลี่ยนตาม คุณพ่อคุณแม่เคยได้ยินคำว่า “โยโล่” YOLO กันมาบ้างไหมคะ? คำนี้เคยฮิตติดปากวัยรุ่นมาพักใหญ่ ซึ่ง YOLO ย่อมาจาก You only live once หมายถึงการใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ตอนนี้เทรนด์การใช้จ่ายได้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ! จากที่เคยเน้นความสุขในปัจจุบันแบบ “โยโล่” ตอนนี้เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงคือ “โยโนะ” YONO หรือ “You Only Need One” ซึ่งตรงกันข้ามกับโยโล่โดยสิ้นเชิง YONO เน้นที่การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และหันมาออมเงินมากขึ้น
เทรนด์ YONO มีที่มาอย่างไร
เทรนด์นี้เกิดจากความจำเป็นในการปรับตัวเข้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ของวัยรุ่นชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเทรนด์ “YONO” หรือ “You Only Need One”
เนื่องจากเกาหลีใต้และหลายประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา อัตราเงินเฟ้อสูง ราคาสินค้าและบริการต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รายได้กลับเพิ่มขึ้นไม่ทัน ทำให้เงินที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต
กลุ่มวัยรุ่นเจน Z ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของสังคม ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมาก ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หันมาใช้ชีวิตแบบพอเพียง โดยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเน้นการใช้เงินอย่างคุ้มค่า
สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน เรากำลังเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ากับข้าวที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเงินเดือนไม่พอใช้ และต้องหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากขึ้น แนวทางนี้อาจช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมั่นคงทางการเงินได้มากขึ้น
YONO กับการใช้จ่ายของครอบครัว
เทรนด์YONO ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตครอบครัวได้ด้วย การที่สมาชิกในครอบครัวร่วมกันลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จะช่วยให้ครอบครัวมีเงินออมมากขึ้น และสามารถวางแผนเพื่ออนาคตให้มั่นคงยิ่งขึ้น
ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น มีอะไรบ้าง?
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหาทางลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีเงินออมมากขึ้น เพื่ออนาคตของลูกๆ และครอบครัว มาดูกันว่าค่าใช้จ่ายประเภทไหนบ้างที่พ่อแม่มักพิจารณาว่าไม่จำเป็นและควรลด
การกินข้าวนอกบ้านบ่อยครั้ง อาจทำให้ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้นได้ การลดการกินนอกบ้านและหันมาทำอาหารกินเองที่บ้าน จะช่วยประหยัดเงินได้มาก
ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มชูกำลัง การลดการซื้อเครื่องดื่มเหล่านี้ และหันมาดื่มน้ำเปล่า หรือทำเครื่องดื่มเองที่บ้าน จะช่วยประหยัดเงินได้มาก
การซื้อขนมขบเคี้ยวบ่อยครั้ง เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การลดการซื้อขนมขบเคี้ยว จะช่วยประหยัดเงินและสุขภาพดีขึ้น
-
ค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
ตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ และเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
การสมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่งหลายๆ บริการ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การเลือกใช้บริการเพียงแค่หนึ่งหรือสองบริการที่จำเป็นก็เพียงพอ
-
ค่าเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
การช้อปปิ้งเป็นความสุขของผู้หญิง แต่การซื้อเสื้อผ้าใหม่บ่อยๆ ทำให้สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น การเลือกซื้อเสื้อผ้าที่จำเป็น และดูแลรักษาเสื้อผ้าให้ดี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าได้
-
ค่าเสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ลูก
โดยเฉพาะเสื้อผ้าเด็กที่แม่ซื้อมาแล้วลูกใส่ไม่ทัน ของเล่นที่ซื้อมาแล้วลูกไม่เล่น ข้อนี้อาจจะสิ้นเปลืองมากกว่าการที่คุณแม่จะซื้อของให้ตัวเองเสียอีก
การไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต หรือเล่นเกม อาจจะสนุกและผ่อนคลาย แต่หากทำบ่อยๆ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้นได้
-
ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความอยาก
การซื้อของที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า หรือการซื้อของตามกระแส อาจทำให้เสียเงินโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม แต่ละคนมีสิ่งที่จำเป็นและไม่จำเป็นที่ต่างกัน ลองสำรวจตัวเองว่าในแต่ละวันเราใช้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง และสิ่งเหล่านั้นจำเป็นต่อชีวิตเรามากน้อยแค่ไหน? บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าจำเป็น อาจเป็นเพียงความต้องการชั่ววูบก็ได้ การกลับมาทบทวนตัวเองเป็นประจำ จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองมากขึ้น และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
วิธีลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
การเน้นการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จะช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บมากขึ้น และสามารถนำไปใช้ในสิ่งที่เราต้องการได้อย่างเต็มที่ การวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวได้อย่างมั่นคง โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากเกินไป
- วางแผนการเงิน กำหนดงบประมาณรายเดือน และบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวมของการใช้เงิน ว่าเราใช้จ่ายไปกับเรื่องไม่จำเป็นเยอะเกินไปหรือเปล่า
- ตั้งเป้าหมายการออม กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการออมเงินเพื่ออะไร เช่น ซื้อบ้าน ส่งลูกเรียน หรือเกษียณอายุ
- เปรียบเทียบราคา ก่อนซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้าน เพื่อเลือกซื้อสินค้าที่ได้คุณภาพในราคาที่เหมาะสม
- ใช้คูปองและโปรโมชั่น การใช้คูปองหรือโปรโมชั่นต่างๆ จะช่วยให้เราประหยัดเงินได้มากขึ้น
- ซื้อของมือสอง การซื้อของมือสอง เช่น เสื้อผ้า หนังสือ หรือเฟอร์นิเจอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการประหยัดเงิน
- ทำอาหารกินเองที่บ้าน การทำอาหารกินเองที่บ้านจะช่วยให้เราควบคุมปริมาณและคุณค่าทางอาหารได้ดีขึ้น และยังประหยัดเงินได้อีกด้วย
- หากิจกรรมที่ไม่ต้องใช้เงิน เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หรือการทำกิจกรรมกับครอบครัว
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้น แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น การลดการซื้อเครื่องดื่ม หันมาดื่มน้ำเปล่า หรือลดการช้อปปิ้งเสื้อผ้า ของใช้ตามกระแสต่างๆ ก็สามารถช่วยให้เราประหยัดเงินได้ในระยะยาว
ทำไมต้อง YONO?
การที่ทุกครอบครัวหันมาใช้ชีวิตแบบพอเพียงนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การประหยัดเงิน แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในระยะยาวอีกด้วย
- ประหยัดเงิน ช่วยให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน หรือเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น การซื้อบ้าน การลงทุน
- สุขภาพดีขึ้น การทำอาหารกินเองช่วยให้เราควบคุมปริมาณและคุณค่าทางอาหารได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ
- ลดขยะ การซื้อของที่จำเป็นจริงๆ ช่วยลดปริมาณขยะ และเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
- มีความสุขมากขึ้น การรู้จักพอเพียง ทำให้เรารู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ และไม่รู้สึกเปรียบเทียบกับผู้อื่น
จะเห็นได้ว่า เทรนด์ โยโนะ นั้นสอดคล้องกับแนวคิดการวางแผนการเงินที่ดี ซึ่งการวางแผนการเงินที่ดี คือ การบาลานซ์ระหว่างความจำเป็นและความสุข เราไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต แต่ควรมีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับสิ่งที่สำคัญ เช่น การออม การลงทุน หรือการใช้จ่ายในสิ่งที่สร้างความสุขให้กับตัวเราเองด้วยเช่นกันค่ะ
ที่มา : guru living , ปันโปร
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
มีลูก 1 คน ใช้เงินเท่าไหร่ ? สรุปค่าใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มฝากครรภ์ ถึง 18 ปี
10 แนวทาง เลี้ยงลูกให้ใช้เงินเป็น ในยุคของแพง ค่าใช้จ่ายสูง
ค่าเทอม 13 โรงเรียนทางเลือก น่าสนใจใน กทม. และปริมณฑล
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!