X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ ปวดแสบปวดร้อนกลางอก จะเป็นอันตรายไหม?

บทความ 5 นาที
คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ ปวดแสบปวดร้อนกลางอก จะเป็นอันตรายไหม?

คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ จุกลิ้นปี่ ปวดแสบปวดร้อน เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เสมอในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนท้องเกิดอาการดังกล่าว  วิธีลดอาการจุกเสียด แน่นท้องต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ

 

คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ จุกลิ้นปี่ ปวดแสบร้อนกลางอก เกิดจากอะไร ?

อาการโดยปกติของโรคกระเพาะของคนท้องกับคนทั่วไปจะคล้ายกัน คือ จะปวดบริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่ จุก เสียด แน่น ปวดแสบปวดร้อนในท้อง และอาจปวดท้องมากเวลาที่หิว พอรับประทานอาหารนานไปอาจจะทำให้อาการจะดีขึ้น แต่บางคนจะรู้สึกปวดมากขึ้นหลังอาหาร หรือกินอาหารที่รสจัดเกินไป แบ่งได้ 2 ลักษณะคือ

 

1. ปวดท้องใต้ลิ้นปี่ จุกลิ้นปี่ แสบร้อนลงไปถึงลิ้นปี่

อาการนี้สำหรับคนท้องจะรู้สึกจุก ๆ ร้อน ๆ บริเวณท้องช่วงบนขึ้นไปถึงลิ้นปี่ ทำให้เรอเหม็นเปรี้ยว ขมลิ้น ถ้าอาเจียนออกมาจะมีแค่น้ำย่อยขม ๆ หรือถ้าอาเจียนออกมามากหน่อยจะเกิดความเปรี้ยวในลำคอ รู้เจ็บปวดภายในอกและกระจายถึงคออีก อาการนี้จะนำไปสู่อาการเจ็บคอเรื้อรังได้ บางคนรู้สึกปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ร้าวไปที่หลัง หรือจากลิ้นปี่ยาวลงมาเหนือสะดือ

 

2. จุกลิ้นปี่ กรดไหลย้อน

อาการนี้คนท้องจะเป็นบ่อยมาก หลายคนคิดว่าเป็นกระเพาะอาหารอักเสบ คือปวดแสบร้อนหรือจุกบริเวณลิ้นปี่และหน้าอก อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย ๆ  มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอตลอดเวลา คลื่นไส้หลังรับประทานอาหาร แต่ไม่จุกหรือมีความรู้สึกเสียวขึ้นลิ้นปี่ ซึ่งความแตกต่างของโรคกระเพาะกับโรคกรดไหลย้อน คือ หากเป็นโรคกระเพาะมักจะปวดบริเวณลิ้นปี่ แต่ถ้าเป็นกรดไหลย้อน มักจะแสบแถว ๆ หน้าอก คอ บางทีจุกที่คอหอยเหมือนจะอาเจียนออกมาเท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : “ยาธาตุน้ำขาว” ยานี้คนท้องกินได้ไหม เกิดอาการจุกเสียด กรดไหลย้อน

 

 

สาเหตุของอาการแสบร้อนกลางอกเกิดจากอะไร

คนท้องที่มีอาการเหล่านี้ สาเหตุของการจุกเสียด แสบร้อนก็มาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของคุณแม่เกิดการคลายตัว ซึ่งอาจส่งผลถึงกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารไปด้วย ดังนั้นจึงอาจทำให้น้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร เกิดการระคายเคืองหลอดอาหาร ส่งผลให้แม่ท้องมีอาการแสบร้อนที่ลิ้นปี่ จุกแน่น แสบร้อน นอกจากนี้ยังมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย จนบางครั้งก็คลื่นไส้อยากจะอาเจียน โดยเฉพาะในช่วง 6-12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ และช่วงใกล้คลอด

 

วิธีรักษาอาการแสบร้อนของคนท้อง

อาการจุกแน่น ช่วงกลางอก และแสบร้อนหรืออาการทั่วไปของคนปกติคืออาการกรดไหลย้อน แต่สำหรับคนท้องจุกแน่นลิ้นปี่นั่นมาจากฮอร์โมน ซึ่งต้องอาศัยการดูสุขภาพเข้าช่วย เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ เช่น

 

1. กินอาหารจานเล็กแต่บ่อยครั้ง

การรับประทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้งนั้นดีตรงที่ กระเพาะของคนเรานั้นช่วยย่อยอาหารได้มากขึ้น และค่อย ๆ ย่อยอย่างมีระบบ ไม่จุกเสียด ไม่อึดอัด คุณแม่จะรู้สึกสบายท้อง

 

2. เลี่ยงอาหารรสจัด

อาหารรสจัดไม่ใช่แค่รสเผ็ดเท่านั้น แต่รวมไปถึงความจัดจ้านของรสอื่น ๆ เช่น หวานจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด อาหารรสชาติเข้มข้นจัดจ้านผ่านการปรุงแต่งเมื่อรับประทานเข้าไปมาก ๆ จะเกิดแก๊สในกระเพาะและเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

 

3. กินอาหารตรงเวลา

คุณแม่ท้องบางคนอาจไม่ชินกับการรับประทานอาหารตรงเวลา เช่น อาหารเช้า บางคนคุ้นชินกับการดื่มแค่กาแฟ ดังนั้นควรปรับร่างกายตัวเองใหม่ เช่น เช้า ๆ อาจจะรับประทานอาหารย่อยง่าย กับผลไม้สด และนม ถึงไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ การกินข้าวตรงเวลานั้นจะช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารเป็นอย่างดี

 

4. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด

การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดคือการย่อยอาหารเบื้องต้นก่อนลงไปลำไส้เล็ก กระเพาะ และลำไส้ใหญ่ อย่าเคี้ยวไปดื่มน้ำไปเพราะจะเกิดแก๊สระหว่างการเคี้ยวได้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเคี้ยวละเอียดหรือไม่ เคยมีการวิจัยบอกไว้ว่าสำหรับการเคี้ยวอาหารเพื่อสุขภาพ เราควรเคี้ยวให้ได้คำละ 30 ครั้ง ถ้าเป็นอาหารอ่อนหรือย่อยง่ายก็อาจจะน้อยกว่านั้นค่ะ

 

5. ไม่ควรกินจนอิ่มเกินไป

คุณแม่บางท่านเสียดายอาหาร เมื่อจานอาหารตรงหน้ามีปริมาณมาก ด้วยความที่ไม่อยากรับประทานเหลือ จึงพยายามกินจนหมดแม้จะอิ่มแล้วก็ตาม ซึ่งจริง ๆ แล้ว คุณแม่ลองแบ่งใส่กล่องสักครึ่งหนึ่ง แล้วค่อยนำมารับประทานอีกมื้อ

 

6. อย่านอนหลังอาหาร

คำว่า “อย่ากินแล้วนอน” ยังใช้ได้ดีค่ะ เพราะการกินปุ๊บ นอนปั๊บ อาจทำให้เกิดอาการจุกเสียด อาจจะทำให้อาเจียนได้ คุณแม่ควรเดินสั้น ๆ หรือลุกขึ้นสักหน่อย อาจจะเดินไปล้างจาน ออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน ก็จะช่วยให้อาหารลงสู่กระเพาะ ช่วยย่อยอีกทางหนึ่ง ยิ่งมื้อค่ำ ควรนอนหลังอาหารสัก 3 ชั่วโมงเป็นต้นไป

 

7. งดกาแฟ ช็อกโกแลต

จริง ๆ แล้วคุณแม่สามารถดื่มกาแฟ และกิน ช็อกโกแลต ได้ค่ะ แต่ถ้าอยู่ในภาวการณ์บำบัดอาการจุกเสียดแน่นท้อง อาจจะงดอาหารพวกนี้ไปก่อน รวมถึงของหมักดอง น้ำอัดลม คุณแม่ควรรับประทานผลไม้เป็นอาหารเสริมยามหิวมากกว่า พยายามจัดผลไม้ใส่ตู้เย็นไว้หรืออาจแบ่งเป็นมื้อๆ ก็ได้ค่ะ

 

8. งดอาหารไขมันสูง

เนื่องจากตอนท้อง คุณแม่จะไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ ดังนั้น ควรงดอาหารไขมันสูง เช่น เบคอน ไส้กรอก กะทิ อาหารทอด ขนมขบเคี้ยวไขมันสูง เพราะไขมันจะช่วยยับยั้งการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร และวิตามินบางชนิดอาจถูกไขมันทำลายไม่สามารถซึมสู่ร่างกายให้คุณแม่นำไปใช้ประโยชน์ได้

บทความจากพันธมิตร
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
เคล็ดลับเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และเทคนิคการเพิ่มน้ำนมตั้งแต่ตั้งครรภ์
เคล็ดลับเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และเทคนิคการเพิ่มน้ำนมตั้งแต่ตั้งครรภ์
ผิวแตกลาย เกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดควรรู้
ผิวแตกลาย เกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดควรรู้
เช็กเลย 5 คุณสมบัติ แคลเซียมสำหรับคนท้อง แม่ทานง่าย ลูกปลอดภัย ได้ประโยชน์สูงสุด
เช็กเลย 5 คุณสมบัติ แคลเซียมสำหรับคนท้อง แม่ทานง่าย ลูกปลอดภัย ได้ประโยชน์สูงสุด

 

คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่

 

9. ใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำ

ดื่มน้ำ 2 แก้วก่อนถึงเวลารับประทานอาหาร เพื่อช่วยในการย่อย และคุณแม่ต้องระวังการดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ หลังอาหารทันที ควรดื่มน้ำให้พอเพียงระหว่างมื้ออาหารแทน อย่าคิดว่า การดื่มน้ำเยอะคือการดื่มปริมาณมาก ๆ ทีเดียว นั่นจะทำให้ร่างกายเกิดอาการจุกเสียด แน่นหน้าอกได้เช่นกันค่ะ

 

10. นอนหนุนหมอนสูง

การให้คุณแม่นอนหนุนหมอนสูง ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้หมอน 2 ใบ แต่ให้ศีรษะสูงกว่าระดับคางและคอ พยายามหลีกเลี่ยงการนอนราบ นอนแผ่หงาย เพราะกรดในกระเพาะอาจไหลย้อนขึ้นมาสู่ทางเดินอาหารขึ้นไปตรงลิ้นปี่ จนเกิดการแสบอกและอาเจียนได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง :  ผลไม้ที่คนท้องควรกิน ผลไม้บำรุงครรภ์ มีอะไรบ้าง ผลไม้อะไรดีต่อลูก

 

กล้วยลดอาการแสบร้อนกลางอกได้

หากคุณแม่รู้สึกปวดแสบร้อนสามารถทานอาหารที่มีฤทธิ์ในการบรรเทาจากโรคกระเพาะ เช่น กล้วย โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า เวลาที่รู้สึกว่าท้องว่างก็สามารถทานได้ทันที หรือจะกินน้ำว่านหางจระเข้ ขมิ้นชัน เป็นต้น แต่ไม่ควรทานมากเกินไปนะคะ

 

คนท้องกินยาลดกรดในกระเพาะได้ไหม

ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร (Antacids) คนท้องไม่ควรกินในปริมาณมาก เนื่องจากในยาลดกรดชนิดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium hydroxide) จำนวนมาก กินติดต่อกันเป็นประจำ อาจทำให้คุณแม่ท้องเสีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เวลาที่ลูกคลอดออกมาก็จะมีปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมในเลือดสูงมากเกินไป และอาจทำให้ลูกน้อยเกิดอาการชักกระตุกได้

หากคุณแม่ มีอาการของโรคกระเพาะอาหารเรื้อรังมาก่อนที่จะตั้งครรภ์ ควรปรึกษาคุณหมออย่างสม่ำเสมอ และหลังคลอดควรเข้ารับการตรวจรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม และถ้ารู้สึกว่าอาการปวดท้องหนักขึ้น มีไข้ ตัวเหลือง ถ่ายเหลว ให้รีบไปหาคุณหมอนะคะ เพราะคุณแม่อาจจะเกิดโรคอื่นร่วมด้วย เช่น ลำไส้อักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ตับอักเสบ เป็นต้น

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แพ้ท้อง อยากกินดิน อยากกินงู เหม็นผัว อาการคนท้องไตรมาสแรก แม่ท้องจะกินสามีห้ามขัด

คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง คนท้องไม่ควรกินอะไร ของแสลงคนท้อง แบบไหนต้องเลิกกิน

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม แล้วชาเขียวกินได้หรือเปล่า ลูกในท้องจะเป็นอันตรายไหม

 

ที่มาข้อมูล : 1 2 3

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • ไตรมาส 3
  • /
  • คนท้องจุกแน่นลิ้นปี่ ปวดแสบปวดร้อนกลางอก จะเป็นอันตรายไหม?
แชร์ :
  • แสบร้อนกลางอก ช่วงตั้งครรภ์ อาการแบบนี้เกิดจากอะไร

    แสบร้อนกลางอก ช่วงตั้งครรภ์ อาการแบบนี้เกิดจากอะไร

  • คนท้องทำฟันได้หรือไม่ คนท้องจัดฟันได้ไหม ลูกในท้องจะเป็นอันตรายหรือเปล่า

    คนท้องทำฟันได้หรือไม่ คนท้องจัดฟันได้ไหม ลูกในท้องจะเป็นอันตรายหรือเปล่า

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • แสบร้อนกลางอก ช่วงตั้งครรภ์ อาการแบบนี้เกิดจากอะไร

    แสบร้อนกลางอก ช่วงตั้งครรภ์ อาการแบบนี้เกิดจากอะไร

  • คนท้องทำฟันได้หรือไม่ คนท้องจัดฟันได้ไหม ลูกในท้องจะเป็นอันตรายหรือเปล่า

    คนท้องทำฟันได้หรือไม่ คนท้องจัดฟันได้ไหม ลูกในท้องจะเป็นอันตรายหรือเปล่า

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ