ในช่วงเวลาที่สภาพอากาศร้อน ๆ แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนคงอยากพาลูกน้อย ไปคลายร้อนที่สระว่ายน้ำ ซึ่งการได้เล่นน้ำคลายร้อนให้ชุ่มฉ่ำคงเป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ ไปเลย ซึ่งการจะพาลูกไป โดยเฉพาะเด็กเล็ก แน่นอนว่า เวลาเราพูดถึงความปลอดภัยในการเล่นน้ำสระว่ายน้ำ อุปกรณ์ลอยน้ำอย่างเสื้อชูชีพและแขนยางก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่า ชุดว่ายน้ำ ของเด็กก็มีบทบาทสำคัญต่อความปลอดภัยไม่แพ้กัน
ทำไม ชุดว่ายน้ำ สีฟ้าถึงอันตราย?
จากภาพตัวอย่างด้านบน เราจะเห็นได้ว่า เด็กชายคนหนึ่งกลมกลืนไปกับสีของสระว่ายน้ำจนแทบมองไม่เห็น ซึ่งอุทาหรณ์ครั้งนี้ มาจากที่ ทางเพจ CPR Kids ซึ่งเป็นองค์กรในนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ที่สอนโดยพยาบาลเด็กเกี่ยวกับการช่วยชีวิตหัวใจและปอดและการปฐมพยาบาลสําหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก ได้แชร์รูปบนเฟสบุ๊ก โดยแสดงให้เห็นว่าเด็กชายอยู่ด้านล่างของสระว่ายน้ำ แต่แทบจะมองไม่เห็นเลยเนื่องจากชุดว่ายน้ำของเขาที่มีสีฟ้า ซึ่งใกล้เคียงกับสีของกระเบื้องสระว่ายน้ำ
นอกจากนี้ ทาง Life Saver Pool Fence ได้ทำสถิติออกมาให้เห็น โดยระบุว่า ในปี 2024 นี้ มีรายงานเหตุการณ์เด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ขวบ เสียชีวิตจากการจมน้ำถึง 14 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กวัยเล็กที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2014 แม้จะมีสาเหตุมากมายที่นำไปสู่การจมน้ำ แต่จากสถิติการจมน้ำของเด็กเล็กในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา พบว่า สถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน 3 จุด ได้แก่ สระว่ายน้ำภายในบ้าน บ่อ และอ่างอาบน้ำ
บทความที่เกี่ยวข้อง: ทารกว่ายน้ำได้ตอนกี่เดือน พาลูกลงสระเร็วแล้วจะได้อะไร
แม้ว่าอุบัติเหตุจมน้ำแต่ละกรณีจะมีความแตกต่างและซับซ้อน แต่เหตุการณ์เหล่านี้ก็เป็นบทเรียนสำคัญที่สอนให้เราเห็นถึงความจำเป็นของการดูแลอย่างใกล้ชิด ในหลาย ๆ กรณี เราจะเห็นได้ว่า เด็ก ๆ อาจจะประสบอันตรายได้ง่ายเพียงแค่ผู้ใหญ่ละสายตาไปเพียงไม่กี่วินาที และในบางกรณีการจมน้ำของเด็กจำนวนมากเกิดขึ้นแม้ว่าจะมีผู้ใหญ่อยู่ดูแลอยู่ใกล้ชิดก็ตาม
เพราะฉะนั้นการมองเห็นเด็กในน้ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ชุดว่ายน้ำสีน้ำเงินเข้มหรือสีทึมอื่น ๆ อาจทำให้เด็กกลมกลืนไปกับน้ำ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจมน้ำ นอกจากสีของสระว่ายน้ำแล้ว สภาพแวดล้อมอื่น ๆ เช่น น้ำขุ่น แสงไฟ และท่าทางของเด็กใต้น้ำ ก็ส่งผลต่อการมองเห็นเช่นกันค่ะ
คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง
- สำหรับ ชุดว่ายน้ำ เด็ก ควรเลือกสีสันสดใส มองเห็นได้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น สีเหลือง สีส้ม สีแดง หรือสีเขียวนีออน ด้วยการเลือกชุดว่ายน้ำที่มีสีสันเหมาะสม ที่จะช่วยให้ผู้ปกครอง ผู้ดูแล และเจ้าหน้าที่สระว่ายน้ำ จะสามารถมองเห็นเด็ก ๆ ได้ง่ายขึ้น ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
- สังเกตเด็กอย่างใกล้ชิดขณะอยู่ในสระว่ายน้ำ ไม่ควรปล่อยให้เด็กว่ายน้ำตามลำพัง ควรลงเล่นน้ำกับเด็ก และไม่ควรให้เด็กอยู่ไม่ห่างจากตัวเกินหนึ่งช่วงแขน เพื่อที่จะได้ช่วยได้ทันหากเกิดอุบัติเหตุค่ะ
- เรียนรู้ทักษะการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น เรียนรู้วิธีการทำ CPR เพื่อช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำ
เทคนิคการเลือกสี ชุดว่ายน้ำ ให้ลูก
1) สี ชุดว่ายน้ำ ที่ควรใส่ในสระน้ำ
ควรเลือกสีสันสดใส มองเห็นได้ชัดเจน สีชมพูเรืองแสง สีเหลือง สีส้ม สีแดง หรือสีเขียวนีออน เพราะสีเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งใต้ผิวน้ำและบนผิวน้ำ สีเหล่านี้จะตัดกับสีพื้นของสระ ไม่ถูกทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นเศษใบไม้ ขยะ หรือเงาในสระได้ค่ะ
2) สีชุดว่ายน้ำที่ไม่ควรใส่ในสระน้ำ
สีฟ้า สีน้ำเงิน สีขาว สีเขียว และสีน้ำเงิน เพราะสีเหล่านี้มีความใกล้เคียงกับสีพื้นสระ สะท้อนกับสีพื้นสระได้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นจากผิวน้ำได้เลยเมื่อจมอยู่ในความลึกระดับหนึ่ง ไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือได้ทันทีหากลูกน้อยจมน้ำค่ะ
3) สี ชุดว่ายน้ำ ที่ควรใส่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ในสถานที่แหล่งธรรมชาติ เช่น ทะเล ทะเลสาบ แม่น้ำ หรือ บ่อน้ำ แหล่งน้ำเหล่านี้มักมีความเข้มและเจือไปทางเทามากกว่าน้ำในสระ สีที่ชัดเจนที่สุดเมื่ออยู่ใต้น้ำจะเป็นสีเหลือง สีเขียว และสีส้มนีออนค่ะ
อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การเลือกชุดว่ายน้ำที่เหมาะสมและดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดขณะอยู่ในสระว่ายน้ำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากชุดว่ายน้ำสีน้ำเงินแล้ว ยังมีชุดว่ายน้ำสีอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น สีดำ สีเขียวเข้ม สีน้ำตาลเลือกชุดว่ายน้ำให้เด็กอย่างชาญฉลาด เพื่อความปลอดภัยและความสนุกสนานของพวกเขา
ที่มา: CPR Kids, Life Saver Pool Fence, Parents One
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ใจสลาย! หนูน้อยวัย 8 เดือน เสียชีวิตกะทันหัน แพทย์ชี้สาเหตุจากการ เคี้ยวข้าวป้อนลูก
เด็กอมมือ เด็กทารกอมมือแก้ไขอย่างไร วิธีให้ลูกเลิกอมนิ้วมือ
ลูกตัวเหลือง ทารกตาเหลือง เกิดจากอะไร? อาการนี้ที่แม่ต้องรู้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!