แนะนำสูตร ซักผ้าขาว เปลี่ยนผ้าหมองให้กลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ซักผ้าขาว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีซักผ้าขาว ให้กลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่ แน่นอนว่าใครที่ชอบใส่เสื้อผ้าสีขาวต้องเจอปัญหา เสื้อผ้าหมองเก่าและมีคราบเหลืองบริเวณคอเสื้อ หรือบริเวณใต้วงแขน ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธี ซักผ้าขาว ให้สะอาดหมดจด ให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่ พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับให้ผ้าหอมติดทนนาน มาตามไปดูพร้อมกันเลยจ้า จะมีวิธีไหนกันบ้าง เริ่ม!

 

วิธี ซักผ้าขาว ให้กลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่

 

1. น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูก็สามารถนำมา ซักผ้าขาว ให้สะอาดเหมือนใหม่ได้ แถมยังช่วยลดกลิ่นอับต่าง ๆ ได้ เพียงแค่เติมน้ำส้มสายชูลงไป พร้อมกับผงซักฟอกในการซักผ้าปกติ เหมาะกับใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการแช่ผ้าทิ้งไว้ รับรองว่าผ้าขาวกลับมาสะอาดเหมือนใหม่แน่นอน แถมยังทำให้ผ้านุ่มขึ้นอีกด้วย

2. น้ำมะนาว

มะนาวเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่เล็กแต่สรรพคุณล้นเหลือมาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะทำให้ผ้าขาวกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ โดยการนำน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวง ผสมลงไปในน้ำยาผงซักฟอก แล้วทำการแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ 1 คืน แล้วทำการซักตามปกติ ก็จะทำให้ผ้าขาวกลับมาขาวสะอาดสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง

 

 

3. เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดาเป็นอีกหนึ่งช่วยที่จะทำให้ผ้าขาวกลับมาขาวสะอาดสดใส เนื่องจากเบกกิ้งโซดาเป็นสารจากธรรมชาติที่ช่วยขจัดกลิ่นและช่วยทำให้ผ้าขาวสะอาด เพียงแค่นำเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วย ผสมกับน้ำยาผงซักฟอก และทำการซักผ้าตามปกติ ก็จะได้ผ้าขาวที่สะอาดสดใสไม่หม่นหมองอีกต่อไป การใช้เบกกิ้งโซดาในการซักนอกจากจะช่วยให้ทำความสะอาดผ้าให้กลับมาขาวแล้วยังช่วยขจัดกลิ่นเหม็นอับและทำให้ผ้านุ่มอีกด้วย

4. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

เสื้อขาวที่มีคราบสกปรกหรือหม่นหมองสามารถนำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ผสมกับน้ำเปล่า ในอัตราส่วน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ถ้วยตวง ต่อ น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง บวกกับ เบกกิ้งโซดา 2 ถ้วยตวง ผสมให้เข้ากัน แล้วจึงค่อยนำผ้าขาวมาแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 1 ชั่วโมง และทำการซักด้วยผงซักฟอกตามปกติ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ผ้าขาวกลับมาสะอาดเหมือนใหม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

5. สารฟอกขาว

โดยสารฟอกขาวที่ใช้จะเป็นชนิดคลอรีนบลีช (Chlorine bleach)  สารฟอกขาวชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในการกัดกร่อนคราบหนักได้อย่างดีเยี่ยม โดยใช้สารฟอกขาวผสมกับน้ำเปล่า แล้วแช่ผ้าขาวทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วทำการซักได้ตามปกติ ผ้าขาวที่หมองก็จะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่

6. แอมโมเนีย

แอมโมเนียสามารถลบรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าได้ โดยการผสมแอมโมเนียเข้ากับน้ำเปล่าให้เจือจาง แล้วนำไปซักผ้าขาวพร้อมผงซักฟอก แต่มีข้อแม้ว่าอย่าผสมแอมโมเนียกับผงซักฟอกโดยตรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ ผ้าขาวก็จะขาวสะอาดเหมือนใหม่

7. กรดซาลิก

หากผ้าขาวเกิดเลอะคราบสนิมเหล็ก สามารถทำความสะอาดได้โดยผสมกรดซาลิกใช้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง จากนั้นนำไปป้ายลงบนคราบสนิมแล้วขยี้ แต่วิธีนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะกรดซาลิกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

8. สูตรบอแรกซ์และน้ำส้มสายชู

สูตรนี้เป็นอีกหนึ่งที่จะช่วยขจัดคราบฝังลึก โดยการผสมบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวง เข้ากับน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง เทผสมลงในน้ำผงซักฟอก จากนั้นก็ทำการซักผ้าขาวตามปกติ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ผ้าหมองกลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่

9. สูตรน้ำซาวข้าว

น้ำซาวข้าวเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ที่สามารถนำมาซักผ้าขาวให้ขาวสะอาดได้ โดยนำผ้าขาวไปซัก แล้วแช่ไว้ในน้ำซาวข้าวผสมน้ำเปล่า แช่ไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยนำผ้าขาวมาซักอีกครั้ง ก็จะสามารถทำให้ผ้าขาวที่หมองกลับมาสะอาดได้

บทความเพิ่มเติม : 5 กลิ่นไม่พึงประสงค์กำจัดได้ด้วยเบกกิ้งโซดา ที่จะทำให้คุณร้องว้าว !

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีการดูแลเสื้อผ้าสีขาว

  • ควรแยกผ้าขาวออกจากผ้าสีทุกครั้งก่อนการซัก เพื่อไม่ให้เกิดการสีตกบนเสื้อผ้าสีขาว
  • ไม่ควรใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะหากล้างทำความสะอาดไม่ดี อาจส่งผลทำให้เสื้อผ้าไม่สะอาดได้และหมองได้
  • ระวังเรื่องความร้อนจากแสงแดดและการรีดผ้า เพราะความร้อนจะทำให้ผ้าเป็นคราบเหลืองเร็วขึ้น

บทความเพิ่มเติม : แจกเคล็ดลับ จัดตู้เสื้อผ้า อย่างไรให้เป็นระเบียบ จัดด้วยวิธีนี้รับรองไม่รกแน่นอน !

เผยเคล็ดลับวิธี ซักผ้าขาว ให้หอมติดทนนาน

การใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอมก็เป็นสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ มาตามไปดูพร้อมกันเลยว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดทนยาวนาน ตามมาดูพร้อมกันเลย

  • ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น

การเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่จะทำให้มีกลิ่นหอมติดเสื้อผ้าได้ทนนานกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันได้มีการปรับสูตรน้ำยาปรับผ้านุ่มออกมาหลากหลายกลิ่นไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมธรรมชาติจากดอกไม้, หรือกลิ่นหอมแบบแป้งเด็ก หรือจะเป็นกลิ่นน้ำหอมราคาแพง เป็นต้น ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มเราสามารถหาเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปได้อย่างง่ายดาย

  • ใช้สเปรย์ฉีดผ้า

ปัจจุบันได้มีสเปรย์ฉีดผ้าแบบกลิ่นหอมออกมาจำหน่ายหลากหลายกลิ่นให้เลือกใช้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดทนไว้ได้ตลอดทั้งวัน สามารถใช้สเปรย์ฉีดผ้าแบบกลิ่นหอมหลังการซักหรือการอบผ้าทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ผ้าหอมและช่วยทำให้กลิ่นติดทนยาวนานมากขึ้น

  • ใช้เครื่องอบผ้า

การใช้เครื่องอบผ้าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีซักผ้าให้หอม ช่วยทำให้ผ้าที่ซักเสร็จใหม่แห้งเร็วมากขึ้น และไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ วิธีซักผ้าตามปกติอาจจะทำให้ผ้าสะอาดแต่อาจจะหอมไม่เพียงพอ การใช้เครื่องอบผ้าจึงเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผ้าสะอาด พร้อมกับทำให้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มมีความหอมที่คงทนกว่าเดิม

  • เลือกผงซักฟอกเข้มข้น

การเลือกใช้ผงซักฟอกเข้มข้นก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมไม่แพ้กับน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะผงซักฟอกบางสูตรก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็นอับ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผงซักฟอกที่เป็นสูตรลดปัญหากลิ่นอับ หรือสูตรตากในที่ร่มได้มาใช้งาน เพื่อทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมสะอาดยิ่งขึ้น และไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ

  • ตากผ้าในที่ร่ม

วิธี ซักผ้าขาว ให้หอมติดทนนาน ไม่ควรตากกลางแจ้งหรือโดนแสงแดดแรงจัด เพราะอาจจะพาให้เนื้อผ้าเสียหายและติดกลิ่นไหม้ของแดดมาด้วย หากต้องการให้ผ้าหอม ควรนำผ้ามาตากไว้ภายในที่ร่ม และมีอากาศถ่ายเทและไม่ควรนำตากในจุดอับ เพราะจะก่อให้เกิดกลิ่นอับได้ง่าย

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีผ้าขาวในแบบฉบับง่าย ๆ ที่จะช่วยทำให้ผ้าขาวไม่หม่นหมองอีกต่อไป ให้กับมาขาวสะอาดหมดจดสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง แม้จะเลอะคราบเปื้อนแค่ไหนก็ตาม นอกจากการซักเสื้อผ้าให้ขาวสะอาดหมดจดแล้ว ก็ต้องมาพร้อมกับกลิ่นหอมที่จะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้นอีกด้วย การซักเสื้อผ้าให้มีกลิ่นหอมติดทนไร้กลิ่นอับก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะจะเป็นตัวช่วยเสริมให้เรามั่นใจก่อนออกจากบ้านในทุก ๆ วันมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ใครที่ชอบใส่ผ้าขาวบ่อย ๆ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดเหมือนใหม่กันได้เลย

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ  :

เคล็ดลับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เพื่อปกป้องครอบครัว และทำความสะอาดบ้านได้หมดจด

เคล็ด(ไม่)ลับ ! จัดห้องนอน ยังไงให้ดีต่อการพักผ่อน นอนหลับสนิทตลอดคืน !

หยุดปัญหา ไรฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ด้วยเคล็ดลับทำความสะอาดบ้านอย่างทรงพลัง

ที่มา : 1 , 2 , 3

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Suttida Butdeewong