น้ำคาวปลาหมดตอนไหน ทำไมน้ำคาวปลามีหลายสี สีไหนผิดปกติ

lead image

คุณแม่มือใหม่หลังคลอดอย่าเพิ่งตกใจ โดยเฉพาะคุณแม่ที่คลอดลูกแบบธรรมชาติเมื่อหลังคลอดแล้วจะพบว่ามีของเหลวคล้ายเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด ของเหลวนี้เรียกว่า “น้ำคาวปลา” ซึ่งเป็นคำถามที่แม่มือใหม่อยากรู้ว่า “น้ําคาวปลาไหลออกแบบนี้กี่วันถึงจะหมดไป?”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรียกได้ว่าเป็นคำถามที่คุณแม่หลังคลอดหลายคนสงสัยว่า หลังคลอดลูกแล้ว น้ำคาวปลาหมดตอนไหน กี่วัน น้ำคาวปลา ถึงจะหมด แล้วน้ำคาวปลาสีแบบไหนถึงจะเรียกว่าผิดปกติ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับน้ำคาวปลามาแม่ ๆ แล้ว ไปดูกันเลย

 

น้ำคาวปลาคืออะไร?

หลังคลอด คุณแม่จะมีของเหลวที่เรียกว่า น้ำคาวปลา ไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติค่ะ

น้ำคาวปลาคือเลือดปนน้ำเหลืองที่ประกอบไปด้วยเลือด น้ำคร่ำ และสิ่งที่ค้างอยู่ในโพรงมดลูกที่หลุดลอกออกมา โดยเป็นสิ่งที่ถูกขับออกมาจากแผลในมดลูก บริเวณที่รกเคยเกาะอยู่ค่ะ

ลักษณะของน้ำคาวปลา

  • ปริมาณ: โดยทั่วไปคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติจะมีน้ำคาวปลาออกมามากกว่าคุณแม่ที่ผ่าคลอด เพราะคุณหมอจะทำความสะอาดมดลูกหลังการผ่าตัด
  • กลิ่น: ปกติน้ำคาวปลาจะมีกลิ่นคล้ายประจำเดือน หรือไม่มีกลิ่นเหม็น

บทความที่เกี่ยวข้อง : น้ำคาวปลาที่มีลักษณะผิดปกติเป็นอย่างไร?

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้ำคาวปลากี่วันถึงจะหมด น้ำคาวปลาหมดตอนไหน

ตลอดระยะเวลาที่แม่ท้องมีน้ำคาวปลาออกมา น้ําคาวปลาจะมีปริมาณทั้งหมดประมาณ 200-500 มิลลิลิตร และปริมาณน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ ลดลง และหมดไป เมื่อแผลในโพรงมดลูกซ่อมแซมปิดสนิท โดยทั่วไปจะใช้เวลา 3-4 สัปดาห์หลังคลอด น้ำคาวปลาก็จะหมดไป แต่ยังมีแม่ท้องบางรายที่อาจมีน้ำคาวปลานานไปถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ได้อธิบายถึงระยะปกติของ “น้ำคาวปลา” แบ่งออกเป็น 3 ระยะ

  • น้ำคาวปลาแดง (lochia rubra) มีลักษณะสีแดงช้ำ ๆ คล้ำ ๆ เพราะประกอบด้วยเลือด เมือก และเศษรก โดยออกมาตั้งแต่วันแรกหลังคลอดแล้วออกอยู่นาน 3-5 วัน
  • น้ำคาวปลาเหลืองใส (lochia serosa) ที่ออกต่อจากน้ำคาวปลาแดงไปจนถึงประมาณวันที่ 10 หลังคลอด โดยจะเริ่มจางลงและมีการเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลหรือชมพูแล้วค่อย ๆ กลายเป็นเหลืองใส
  • น้ำคาวปลาขาว (lochia alba) ออกต่อจากน้ำคาวปลาเหลืองใสไปอีกจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด จะมีสีเหลืองขุ่นจนออกไปทางขาว และปริมาณน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ ลดลงจนแห้งสนิท

ทีนี้ในระหว่างที่คุณแม่มีน้ำคาวปลาไหลออกก็สามารถใส่ผ้าอนามัยเหมือนยามช่วงที่ประจำเดือนมา โดยหมั่นเปลี่ยนบ่อย ๆ เพื่อจะได้ไม่อับชื้น สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ไม่ควรแช่น้ำ หรือว่ายน้ำในช่วงที่มีน้ำคาวปลาออก เพราะอาจทำให้มีน้ำเข้าไปโพรงมดลูก และเกิดการติดเชื้อ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ข้อควรรู้ก่อนใช้ ผ้าอนามัย เพื่อสุขภาพจุดซ่อนเร้นที่ดีของผู้หญิง

 

สัญญาณที่ควรระวัง

แม้จะเป็นเรื่องปกติ แต่คุณแม่ควรสังเกตน้ำคาวปลาอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ:

  • น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
  • น้ำคาวปลามีสีแดงเข้มขึ้น
  • มีไข้
  • ปวดท้อง

น้ำคาวปลาที่ผิดปกติอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นการสังเกตและปรึกษาแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยาขับน้ำคาวปลา ควรกินไหม

รศ.พญ.สายฝน ชวาลไพบูลย์ ภาควิชาสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการดื่มยาดอง หรือยาขับน้ำคาวปลาหลังคลอดไว้ว่า มีคนจำนวนมากเชื่อกันว่า น้ำคาวปลา คือ ของเสียที่ต้องขับออกมาให้มาก ๆ ทำให้มีแม่หลังคลอดหลายคน เกิดอาการตกเลือดจากการกินยาขับน้ำคาวปลา บางรายถึงกับหมดสติ ต้องให้เลือดช่วยชีวิตกันเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น ไม่ควรที่จะไปพยายามขับน้ำคาวปลาให้ออกมาเยอะ ๆ เพราะนอกจากจะเสียเลือดเพิ่มโดยไม่จำเป็นแล้ว บรรดายาขับน้ำคาวปลา หรือยาดองทั้งหลาย มักมีแอลกอฮอล์ผสม ซึ่งจะผ่านออกมาในน้ำนมได้ เมื่อลูกดูดนมแม่ก็จะส่งผลเสียต่อลูกน้อยอีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

วิธีขับน้ำคาวปลาหลังคลอด

  1. ให้นมลูกอย่างสม่ำเสมอ พยายามให้นมบุตรทันทีหลังคลอด และให้บ่อยครั้งเท่าที่ทารกต้องการค่ะ
  2. นวดคลึงหน้าท้องเบา ๆใช้ฝ่ามือนวดวนเบาๆ เป็นวงกลมจากด้านบนลงล่าง หรือใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ หลังคลอด หรือเมื่อคุณแม่รู้สึกว่ามดลูกยังนิ่มอยู่ ทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยเฉพาะช่วงที่พักผ่อนอยู่
  3. ประคบสมุนไพร/กระเป๋าน้ำร้อน ช่วยบรรเทาอาการปวดเกร็ง และส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจช่วยในการขับน้ำคาวปลา อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลก่อนทำเสมอ
  4. เดินและเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม เริ่มลุกเดินช้าๆ ตั้งแต่ช่วงแรกหลังคลอดเท่าที่ร่างกายไหว ไม่หักโหมจนเกินไป
  5. เข้าห้องน้ำปัสสาวะสม่ำเสมอ พยายามเข้าห้องน้ำปัสสาวะทุก 2-3 ชั่วโมง แม้จะยังไม่รู้สึกปวดก็ตาม
  6. พักผ่อนให้เพียงพอ หาโอกาสพักผ่อนงีบหลับเมื่อทารกหลับ และขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวเพื่อช่วยดูแลทารกบ้าง
  7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง วิตามิน แร่ธาตุ และดื่มน้ำให้เพียงพอ

ข้อควรระวัง ห้าม! สวนยา หรือสอดใส่อะไรในช่องคลอด ช่วงหลังคลอดปากมดลูกจะยังเปิดอยู่ การสวนยาหรือสอดใส่อะไรก็ตามเข้าไปในช่องคลอด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในโพรงมดลูกได้

 

น้ำคาวปลาหมดประจำเดือนมาเลยไหม

ประจำเดือนไม่จำเป็นต้องมาทันทีหลังจากน้ำคาวปลาหมดค่ะ ช่วงเวลาที่ประจำเดือนหลังคลอดจะกลับมาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะคุณแม่ให้นมบุตร

  • คุณแม่ที่ให้นมบุตรอย่างเดียว: โดยส่วนใหญ่ประจำเดือนมักจะยังไม่มาตราบใดที่คุณแม่ยังให้นมบุตรอย่างสม่ำเสมอและเต็มที่ เพราะการให้นมบุตรจะไปยับยั้งการตกไข่ ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนไม่มานานหลายเดือน หรือจนกว่าจะเริ่มลดปริมาณการให้นมลงค่ะ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะคุมกำเนิดได้ 100% การตกไข่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนประจำเดือนจะกลับมาค่ะ
  • คุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมบุตร หรือให้นมบุตรร่วมกับให้ลูกกินนมชง: ประจำเดือนมักจะกลับมาเร็วกว่า โดยเฉลี่ยประมาณ 4-8 สัปดาห์หลังคลอดค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คุณรู้ไหม 24 ชั่วโมงแรงหลังคลอดที่โรงพยาบาล ทารกต้องเจอกับอะไรบ้าง

แผลฝีเย็บหลังคลอด ทำอย่างไรให้หายเร็ว ไม่ฉีก ไม่ติดเชื้อ

ยาขับน้ำคาวปลา หลังคลอด ยาสตรีหลังคลอดกินขับน้ำคาวปลาแทนการอยู่ไฟได้ไหม

ที่มา : mediqueandobyaf.wordpressmamastory

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Napatsakorn .R