TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 5 เดือน มีอาการอะไรบ้าง 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 19

บทความ 5 นาที
อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 5 เดือน มีอาการอะไรบ้าง 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 19

-

อาการคนท้อง 5 เดือน ก็ยังเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ทารกแข็งแรงมากแค่ไหน เรามาดู อาการคนท้อง 5 เดือน เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายกันค่ะ

 

ท้อง 5  เดือน กับร่างกายที่เปลี่ยนแปลง 

อาการคนท้อง 5 เดือน

อาการคนท้อง 5 เดือน

  • น้ำหนักขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไป ลูกน้อยจะเริ่มตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ 23 ของการตั้งครรภ์คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7 กิโลกรัม และอาจมากหรือน้อยกว่านั้นแล้วแต่บุคคล จึงเป็นช่วงที่เริ่มสังเกตได้ชัดว่ากำลังตั้งครรภ์

  • ผิวแตกลาย

เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ขนาดตัวของคุณแม่ขยายใหญ่ขึ้น จนอาจส่งผลให้เกิดปัญหาท้องลาย ขาลาย หรือหน้าอกลาย แต่ปัญหาผิวแตกลายมักจะค่อย ๆ จางลงหลังคลอด

  • หน้ามันและเป็นสิว

เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งทำให้ต่อมใต้ผิวหนังผลิตไขมันออกมามากขึ้น จนเป็นสาเหตุทำให้หน้ามัน และหากไขมันเหล่านั้นไปอุดตันในรูขุมขนก็จะทำให้เกิดการอักเสบและเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว

  • เหงือกบวมหรือมีเลือดออกตามไรฟัน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ทำให้เลือดไหลเวียนภายในเหงือกมากขึ้น จึงส่งผลให้เหงือกบวมและบอบบางกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นแผล หรือมีเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย

  • ข้อเท้าและเท้าบวม

เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ที่ท้อง 5 เดือน ซึ่งการยกขาสูง การเดินออกกำลังกายเป็นประจำ หรือการดื่มน้ำมาก ๆ อาจช่วยบรรเทาอาการบวมได้ แต่หากเท้าหรือข้อเท้ามีอาการบวมอย่างมาก หรือบวมกะทันหัน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะครรภ์เป็นพิษได้

  • ปวดหลัง

การตั้งครรภ์ทำให้กระดูกสันหลังแอ่นตัวและสร้างความตึงเครียดให้กับกล้ามเนื้อหลัง โดยเฉพาะในช่วงที่ท้องประมาณ 5 เดือน หรือการตั้งครรภ์แฝด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้

  • เจ็บท้องหลอก

แม้มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ แต่ก็อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือช่วงที่ท้อง 5 เดือนได้เช่นกัน โดยมีอาการคล้ายปวดประจำเดือน ปวดบีบแบบไม่สม่ำเสมอซึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวบ้าง แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้ปากมดลูกเปิดเหมือนเจ็บคลอดจริง

  • เส้นเลือดขอด

การขยายตัวของมดลูกในขณะตั้งครรภ์ทำให้ความดันของหลอดเลือดดำที่ขาเพิ่มขึ้น อีกทั้งฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนยังทำให้หลอดเลือดขยายตัวและมีการไหลเวียนของเลือดเพิ่มมากขึ้น จึงมีแนวโน้มทำให้เกิดเส้นเลือดขอดบริเวณขา ช่องคลอด และทวารหนัก ซึ่งมักจะมีอาการดีขึ้นหลังคลอด

  • ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

น้ำหนักของมดลูกที่กดกระเพาะปัสสาวะอาจขัดขวางการไหลเวียนของน้ำปัสสาวะและทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น ซึ่งการดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และธาตุสังกะสี รวมถึงไม่อั้นปัสสาวะก็อาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้

  • ท้องผูก

ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้กล้ามเนื้อในทางเดินอาหารคลายตัว ทำให้อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้เล็กช้าลง รวมถึงมดลูกที่ขยายตัวอาจไปกดทับไส้ตรงจนทำให้ท้องผูกได้

  • ริดสีดวงทวาร

การขยายตัวของมดลูก ปัญหาท้องผูก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวารได้ในช่วงตั้งครรภ์

 

พัฒนาการทารกในครรภ์ 

อาการคนท้อง 5 เดือน

อาการคนท้อง 5 เดือน

ทารกจะมีขนเส้นบาง ๆ ขึ้นตามลำตัว เพื่อช่วยให้ไขทารกเกาะอยู่บนผิวหนัง และอาจเริ่มอมนิ้วหัวแม่มือของตัวเอง มีเส้นผมและคิ้วขึ้นมาอย่างชัดเจน และร่างกายของทารกจะเริ่มผลิตไขมันสีน้ำตาลขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เผาผลาญพลังงานให้เกิดเป็นความร้อนในยามที่อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง ทารกเคลื่อนไหวดวงตาได้เร็วขึ้น เริ่มสังเกตเห็นรอยบนฝ่ามือหรือฝ่าเท้า ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นลายนิ้วมือ ลายมือ และลายเท้าต่อไป ทารกบางรายอาจสะอึกด้วย ส่งผลให้ช่องท้องของคุณแม่เกิดอาการกระตุกได้ ในระยะนี้อาจสังเกตเห็นว่าผิวของทารกเหี่ยวย่น โปร่งแสง และมีสีชมพูหรือแดง เนื่องจากเริ่มมีการสร้างเซลล์เลือด ทำให้มองเห็นสีของเลือดผ่านหลอดเลือดฝอยที่มีอยู่ทั่วร่างกาย

 

กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

  • ฟังเพลง

ระบบประสาทการรับฟังของลูกน้อยในครรภ์จะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน การใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้เครือข่ายใยประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น เสียงที่ดีที่ควรใช้ในการกระตุ้นก็คือ เสียงเพลง โดยเฉพาะเพลงที่มีความไพเราะและคุณแม่ชอบฟัง ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงคลาสสิคอะไรที่ฟังไม่รู้เรื่องหรอก เวลาคุณแม่ฟังเพลง ควรจะเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในครรภ์จะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย การที่ลูกในครรภ์ได้รับฟังเสียงเพลงคลื่นเสียง จะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินมีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เมื่อลูกคลอดออกมา มีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่างๆได้ดี

  • พูดคุยกับลูก

การพูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อย ๆ จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด คุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ประโยคซ้ำ ๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย อย่าไปเล่าเรื่องทุกข์ใจ เพราะเดี๋ยวลูกจะเครียดตั้งแต่อยู่ในท้อง

  • ลูบหน้าท้อง

การลูบหน้าท้องจะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการดีขึ้น การลูบท้องควรลูบเป็นวงกลม จะจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้

บทความจากพันธมิตร
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่

 

คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร 

อาการคนท้อง 5 เดือน

อาการคนท้อง 5 เดือน

  • ไปพบแพทย์ตามนัดฝากครรภ์

คุณแม่ที่ท้อง 5 เดือนจะต้องไปพบแพทย์ตามนัดหมายเสมอ เพื่อตรวจเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด ความผิดปกติทางพันธุกรรม และอัลตราซาวน์เพื่อตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์

  • ดื่มน้ำมาก ๆ

หรือดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะอาจช่วยให้ลำเลียงสารอาหารไปยังทารกในครรภ์ได้ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ หรือริดสีดวงทวารได้เช่นเดียวกัน

  • นอนตะแคง

ท้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอาจไปกดทับเส้นเลือดใหญ่บริเวณหลังจนอาจทำให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์ได้น้อยลง การนอนตะแคงไม่เพียงช่วยลดการกดทับเส้นเลือดใหญ่ แต่อาจช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้ ซึ่งคุณแม่อาจเริ่มจากการใช้หมอนหนุนหลัง และใช้หมอนอีกใบรองไว้ระหว่างขาหรือหัวเข่า เพื่อให้ร่างกายคุ้นเคยกับการนอนตะแคงมากขึ้น

  • ออกกำลังกายด้วยวิธีที่ปลอดภัย

เช่น การว่ายน้ำ หรือการเดิน เป็นต้น เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพของว่าที่คุณแม่แล้ว ยังส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ด้วย

  • สวมเสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี

เช่น ผ้าฝ้าย เป็นต้น เพราะอากาศร้อนอาจส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแม่และอาจส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้

  • ทาครีมที่หน้าท้อง

เพื่อลดการเกิดปัญหาท้องลายและอาการคันผิวหนัง

  • ไปพบทันตแพทย์

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้เหงือกบวมหรือมีเลือดออกตามไรฟันได้ง่าย รวมถึงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและการก่อตัวของคราบพลัคได้

 

ลูกดิ้นบ่งบอกถึงอะไร

แน่นอนว่าการดิ้นของทารกในครรภ์ทำให้คุณแม่สัมผัสได้ถึงการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของลูกน้อย นอกจากนี้การดิ้นของลูกยังแสดงถึงการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวของทารก เช่น การขยับหรือยืดแขนขาเหมือนเป็นการตอบสนองต่อเสียงหรือต่ออาหารที่คุณแม่ทานเข้าไป ทั้งนี้ยังมีการศึกษาพบว่าการดิ้นของทารกสามารถบอกได้ถึงพัฒนาการทางสมองที่นำไปสู่พฤติกรรมของทารกเมื่อเติบโตขึ้นในอนาคต

 

ลูกดิ้นแรงแค่ไหน 

คุณแม่จะเริ่มรู้สึกได้ถึงการเตะเบา ๆ หรือการขยับตัวจากการสะอึกของทารก จากนั้นในสัปดาห์ต่อ ๆ มา กิจกรรมทางกายของทารกก็จะเพิ่มขึ้นและชัดเจนขึ้น โดยอาจพบว่าเด็กจะมีการขยับตัว เช่น เตะ หมุนตัว หรือตีลังกามากขึ้นในช่วงเย็นของวันซึ่งเป็นช่วงที่คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้เวลารับประทานอาหารก็จะเป็นช่วงที่เด็กขยับตัวบ่อย

 

ลูกไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อย อันตรายหรือไม่ 

แม้การขยับตัวของทารกจะเป็นสัญญาณถึงพัฒนาการของเด็ก แต่ผู้ที่พบว่าตัวเองไม่รู้สึกถึงการขยับตัวของทารก หรือทารกไม่ดิ้นเลย ก็อาจไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะการที่เด็กไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยอาจมีสาเหตุมาจากทารกในครรภ์กำลังหลับช่วงเวลาที่ทารกหลับจะเป็นช่วงที่มีการขยับตัวน้อยที่สุด

 

คุณแม่สามารถทำเล็บ หรือทำผม ได้หรือไม่

เนื่องจากคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่ ไตรมาสที่ 2 แล้ว จึงสามารถทำสีผมได้ เนื่องจากร่างกายของทารกสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ส่วนเรื่องการทำเล็บ ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือเรื่องของความสะอาดของอุปกรณ์ในการทำเล็บ เนื่องจากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ต้องระวังเรื่องการติดเชื้ออย่างมาก เพราะอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นมาตรฐานของร้าน และความสะอาดของอุปกรณ์ต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

สารเคมีจะเข้าไปทำอันตรายต่อทารกหรือไม่

โดยปกติแล้วเมื่อสารเคมีซึมซับเข้าสู่ร่างกายจะถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบของปัสสาวะ แต่สารเคมีที่ใช้ในการย้อมผมนั้นไม่ได้มีปริมาณที่สูงมาก จึงไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ น้ำยาทาเล็บก็ไม่ส่งผลอันตรายกับคุณแม่เช่นกัน แต่อาจจะมีวิงเวียนศีรษะในเรื่องของกลิ่นบ้าง

 

หากเกิดอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ 

  • ปวดท้องหรือปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานอย่างหนัก ปวดบ่อยครั้ง หรือปวดผิดปกติ
  • มีสัญญาณเตือนของการคลอดก่อนกำหนด เช่น ปวดหรือรู้สึกแน่นที่ท้องส่วนล่างอย่างสม่ำเสมอ มีเลือดออกทางช่องคลอด น้ำคร่ำแตก และรู้สึกได้ถึงแรงดันในอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอด เป็นต้น
  • ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์มาสักระยะหนึ่ง
  • หากพบอาการหรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่สบายตัวหรือไม่สบายใจคุณแม่ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์

 

ที่มา : (pobpad),(คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล)

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : 

มาดูไปพร้อมกัน คนท้องย้อมผมได้ไหม ทำสีผมตอนท้องได้ไหม?

เพลงกล่อมลูก 04 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 100

คนท้องว่ายน้ำเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ดีเยี่ยม

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

nantichaphothatanapongbow

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 5 เดือน มีอาการอะไรบ้าง 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 19
แชร์ :
  • นักวิทยาศาสตร์พบ ปัจจัยเสี่ยงออทิสติก อาจมาจากสิ่งแวดล้อมขณะตั้งครรภ์

    นักวิทยาศาสตร์พบ ปัจจัยเสี่ยงออทิสติก อาจมาจากสิ่งแวดล้อมขณะตั้งครรภ์

  • ทายเพศลูกจากการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วได้ลูกสาว เต้นช้าได้ลูกชาย จริงไหม?

    ทายเพศลูกจากการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วได้ลูกสาว เต้นช้าได้ลูกชาย จริงไหม?

  • วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

    วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

  • นักวิทยาศาสตร์พบ ปัจจัยเสี่ยงออทิสติก อาจมาจากสิ่งแวดล้อมขณะตั้งครรภ์

    นักวิทยาศาสตร์พบ ปัจจัยเสี่ยงออทิสติก อาจมาจากสิ่งแวดล้อมขณะตั้งครรภ์

  • ทายเพศลูกจากการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วได้ลูกสาว เต้นช้าได้ลูกชาย จริงไหม?

    ทายเพศลูกจากการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วได้ลูกสาว เต้นช้าได้ลูกชาย จริงไหม?

  • วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

    วิธีดูแลตัวเองตอนท้องอ่อนๆ คนท้องห้ามทำ 7 กิจกรรมเหล่านี้ ที่อาจทำอยู่ทุกวัน

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว