ซาง หรือ โรคซางในเด็กเล็ก แรกเริ่มเดิมทีเมื่อผู้ใหญ่พบว่าเด็ก มีอาการไข้ ไม่สบาย มักจะเรียก หรือคิดว่าเด็ก เป็นโรคซาง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “ซาง” นั้น เป็นอาการที่เกิดจากการขาดสารอาหารของตัวเด็ก จนทำให้เด็กมีน้ำหนักที่ต่ำกว่าเกณฑ์ มีอาการกินน้อย หรือเบื่ออาหาร หากเป็นหนักขึ้น ก็จะมีไข้ ตัวร้อนตามมาด้วย ยาซาง คืออะไร ?
โรคซางในเด็กเล็ก มีสาเหตุจากอะไร
โรคซางนั้น เป็นอาการของการขาดสารอาหารในเด็กเล็ก ซึ่งไม่จัดว่าเป็นอาการที่ร้ายแรง แต่หากปล่อยปละละเลย และไม่สนใจก็จะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้เช่นกัน สาเหตุที่มักจะทำให้เด็กเป็นโรคนี้คือการที่ พ่อแม่ มักจะให้เด็กทานอาหารเดิม ๆ ขาดการให้นมแม่ หรือนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จนทำให้เด็ก ไม่สามารถได้รับคุณค่าทางสารอาหารได้ครบถ้วน
ซาง มีอาการอย่างไร?
- มีเม็ด หรือแผลในช่องปาก
- เกิดฝ้าบริเวณลิ้น และโคนลิ้น
- น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
- มีลักษณะพุงโร ก้นปอด
- มีไข้ ปวดศีรษะ
- เบื่ออาหาร ไม่กินนม ไม่กินข้าว
- มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ
- บางรายจะมีผื่นขึ้นตามตัว
- มือเท้าเย็น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : วัดไข้ทารก ลูกมีไข้กี่องศา เสี่ยงชัก ไข้หนักขนาดไหนต้องไปโรงพยาบาล
ยาแก้ซาง ยาซาง คืออะไร? ช่วยได้จริงหรือไม่?
ยาแก้ซาง ย้อนกลับไป สมัยรุ่นคุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย เรามักจะได้ยินเรื่องราวของการกวาดลิ้น กวาดคอ ยาแก้ซาง จนดูเหมือนว่า ทุกคนมักจะต้องผ่านช่วงเวลานั้น จนเป็นเรื่องปกติ
ในสมัยก่อนนั้น หากเด็กคนไหนมีอาการข้างต้นที่กล่าวมา บรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลาย มักจะทำยาเขียว มาบดผสมกับน้ำ บ้างก็จะบีบมะนาวใส่ เพื่อให้มีรสชาด และเด็กกินง่ายขึ้น แล้วจึงนำตัวยามากวาด หรือปาดลงบริเวณลิ้น หรือโคนลิ้น ซึ่งถือว่าเป็นยาแผนโบราณ หรือภูมิปัญญาโดยการใช้ยาสมุนไพรในสมัยก่อน ซึ่งต่างก็เชื่อว่า สมุนไพรตัวนี้ ช่วยคลายโรคซางได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
โรคซาง ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอย่างไร
ในปัจจุบัน จากผลวิจัยทำให้พบว่า โรคซางนั้น เป็นโรคที่เกิดจากภาวะการขาดสารอาหาร ซึ่งจะพบมากในเด็กต่างจังหวัด เนื่องจากสมัยก่อนนั้น เด็กที่อยู่ต่างจังหวัดมักจะมีฐานะที่ยากจน หรือขาดความเข้าใจในการเลี้ยงดูลูกให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ จนทำให้เด็กเกิดการขาดสารอาหารเกิดขึ้น
โดยหลักอาการนี้จะมีสาเหตุหลักมาจากพยาธิในลำไส้ ที่เข้าไปดูดซึมสารอาหารที่น้อยอยู่แล้ว ให้น้อยหนักขึ้นกว่าเดิม จนทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน จะส่งผลถึงพัฒนาการของเด็ก ทั้งทางร่างกาย และสมองในระยะยาว
ณ ปัจจุบัน เรามักจะไม่ค่อยพบเจอกับโรคซางนี้แล้ว เนื่องจาก การเข้าถึง การเรียนรู้ การศึกษาหาข้อมูลของคุณพ่อคุณแม่ ที่มีความเข้าใจในเรื่องของสุขภาพ และโภชนาการมากยิ่งขึ้น และการเห็นความสำคัญของคุณค่าทางสารอาหารจากน้ำนมของแม่ จึงทำให้โรคนี้ลดน้อยหายไป
สาเหตุของโรคซางในเด็กเล็ก
- ขาดความรู้ความเข้าใจในการให้ลูกทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เช่น
- เด็กได้รับนมแม่ไม่เพียงพอในช่วง 6 เดือนแรก
- ให้นมผสมที่ไม่ถูกต้อง เช่น วิธีผสม ปริมาณ และชนิดของนมผสมที่ไม่เหมาะกับลูก
- ให้ลูกเริ่มอาหารเสริมช้าหรือเร็วเกินไป
- ขาดความเอาใจใส่ ให้ลูกกินจุบจิบ หรือกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้อิ่มและไม่อยากกินอาหารมื้อหลัก
- การเจ็บป่วยของเด็กทำให้เบื่ออาหาร การดูดซึม และการย่อยอาหารบกพร่อง ทำให้เด็กได้รับอาหารน้อยลง
- ความยากจนทำให้ไม่สามารถบำรุงลูกด้วย เนื้อ นม ไข่ (อาหารที่ให้โปรตีน) ได้อย่างเพียงพอ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 4 วิธีดูแลเมื่อลูกเป็นไข้ หายป่วยได้ไวขึ้น คุณแม่ไม่ต้องกังวล
ยาซาง ยาแก้ซาง ป้องกัน และรักษาโรคซางได้อย่างไร
โรคซาง หรือโรคขาดสารอาหาร สามารถดูแลและป้องกันได้ ดังนี้
- ให้ลูกกินนมแม่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพราะนมแม่ถือป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก และยังเป็นแหล่งภูมิคุ้มกันชั้นดี ทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย
- ฝึกนิสัยการกินที่ดีให้กับลูก ฝึกให้ลูกกินเป็นเวลา นั่งเรียบร้อยอยู่กับที่ ไม่กินไปเล่นไป ไม่กินจุบจิบก่อนถึงมื้อหลัก ซึ่งจะทำให้เด็กอิ่มก่อนถึงมื้ออาหาร และได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
- ให้ลูกกินอาหารเสริมตามช่วงวัย การให้ลูกกินอาหารเสริมที่เหมาะสมกับวัย การเริ่มอาหารเสริมนั้นควรเริ่มหลังจาก 6 เดือนไปแล้ว เริ่มทีละน้อย จากการอาหารเหลวก่อน แล้วค่อยเพิ่มความหยาบ และกินอาหารให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนถูกหลักโภชนาการ หากลูกไม่ยอมกินไม่ควรบังคับ เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับการกิน แต่ควรหาวิธีจูงใจให้ลูกอยากกินอาหารมากกว่า
- ถ่ายพยาธิ หากลูกมีอาการพุงโรก้นปอดเนื่องจากพยาธิลำไส้ คุณหมออาจพิจารณาให้ยาถ่ายพยาธิแก่เด็ก เพื่อจัดการกับพยาธิที่มาแย่งสารอาหารของเด็กเสียก่อน
ผลกระทบจากโรคซาง
เมื่อเด็กขาดสารอาหาร นอกจากจะทำให้ร่างกายผอมแห้ง ไม่แข็งแรง กล้ามเนื้อลีบ ยังส่งผลในเรื่องสุขภาพ ระบบขับถ่าย ระบบทางเดินหายใจ และมีพัฒนาการช้าอีกด้วย
คุณแม่ได้รู้จัก โรคซางในเด็กเล็ก ไปแล้วนะคะ อันที่จริงโรคนี้ไม่น่ากลัว เพียงคุณแม่เอาใจใส่ลูกให้มากขึ้น เปลี่ยนนิสัยการกินให้กับลูก ก็สามารถป้องกันและรักษาโรคซาง ให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นได้แล้วค่ะ
ที่มา : doctor , royin , women
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แจกตาราง อาหารเพิ่มน้ำหนักลูก ในแต่ละช่วงวัย พร้อมวิธีทำ
อาหารเย็น สูตร Vegan สำหรับเด็ก ทำง่าย ไม่ต้องง้อร้าน
แค่รู้ทัน ก็เปลี่ยนอนาคตลูกน้อยได้ ด้วยโภชนาการช่วงแรกของชีวิต
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!