เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตา แต่ก็ยังไม่รู้จักกับไอเทมชิ้นนี้ กับ ตาข่ายดักฝัน ที่จะช่วยดักฝันร้ายให้หายไป และเหลือฝันดีเอาไว้เติมพลังให้กับเรานั่นเอง ในวันนี้ เราจะมาพูดถึง ตาข่ายดักฝัน ความหมาย เป็นอย่างไร และมีที่มาจากไหน ไปดูกันเลยค่ะ!
ตาข่ายดักฝัน Dream Catcher คืออะไร
ตาข่ายดักฝัน หรือที่ถูกเรียกว่า Dream Catcher ถูกสร้างขึ้นจากงานหัตถกรรมประจำชนเผ่าของอินเดียนแดง ซึ่งเป็นประเพณีที่มีความเชื่อว่า เป็นพิธีที่จะทำให้ฝันร้ายสลายหายไป และดักจับฝันดีเหลือเอาไว้ให้กับผู้ถือครอง เพื่อให้มีกำลังใจ และพลังใจในการใช้ชีวิต ไม่วิตกกังวลกับเรื่องราวในความฝัน จนเก็บเอามาคิดนั่นเองค่ะ
โดยในการออกแบบนั้น จะอิงตามความเชื่อของชนเผ่า และจากเทพธิดาแมงมุมที่ถูกเรียกว่า Asibikaashi ซึ่งเป็นผู้ที่คอยดูแลรักษา คอยปกป้องเด็ก ๆ และผู้คนในหมู่บ้านให้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง ที่จะเกิดกับหมู่บ้าน ทำให้การออกแบบตาข่ายดักฝันนั้น จึงมีลักษณะเหมือนกับใยแมงมุม โดยในรูปแบบดั้งเดิมของตาข่ายดักฝัน จะมีตาข่ายทั้งหมด 8 มุม ซึ่งสื่อถึงขาแมงมุมทั้ง 8 ขานั่นเองค่ะ และนอกจากนี้ ยังมีการประดับด้วยขนนก ที่แทนความหมายของอากาศ และลมหายใจ ซึ่งสื่อถึงการมีชีวิต ความอิสระ และความปลอดภัยนั่นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อยากคุมโทนห้องนอนต้องมา! ชี้เป้า 10 ยี่ห้อ ผ้าปูที่นอน 6 ฟุต สำหรับสายมินิมอล
Dream Catcher เกิดขึ้นได้อย่างไร
ก่อนอื่นต้องกล่าวเอาไว้ก่อนว่า แม้ในทางวิทยาศาสตร์จะอธิบายว่า ความฝัน เป็นเรื่องของกลไกการทำงานของสมองประเภทหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับจิตใต้สำนึกของมนุษย์ จนทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ความฝัน ขึ้นมา แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ผู้คนมากมายไม่ว่าจะกี่เชื้อชาติ กี่ยุคสมัย หลากหลายวัฒนธรรม ก็ต่างมีความเชื่อในเรื่องของความฝันที่แตกต่างกันไป เช่น คนไทยมักนำความฝันมาตีความหมาย เพื่อเป็นการทำนายในอนาคต หรือแม้แต่ชาวกรีก และโรมันโบราณ ก็ยังมีความเชื่อว่าความฝัน คือ สารจากพระเจ้าที่ได้ถูกถ่ายทอดมาให้แก่มนุษย์ เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว มักให้ความหมายของ ความฝัน ตรงกันว่า เป็นการทำนาย หรือบ่งบอกถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นได้นั่นเองค่ะ
เมื่อพูดถึงความฝัน ในมุมมองของชนเผ่าอินเดียนแดง ที่ได้เป็นผู้คิดค้นการสร้างตาข่ายดักฝันขึ้นมา เชื่อว่า เมื่อท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดยามกลางคืน ก็จะทำให้ละอองแห่งความฝัน ไม่ว่าจะฝันดีหรือฝันร้าย ต่างล่องลอยอยู่บนอากาศ และจะตกลงสู่ผู้คนที่กำลังหลับใหลอยู่ในห้วงแห่งนิทรา เพราะมีการระแวดระวังภัยน้อยที่สุด และมีการตีความว่า ฝันร้าย ก็เหมือนกับผีร้าย ที่จ้องจะมาคุกคามเราตอนที่ไม่ได้ระวังตัว ดังนั้น จึงมีการสร้างตาข่ายดักฝันขึ้นมา เพื่อช่วยคุ้มครองป้องกันผู้คนในหมู่บ้านชนเผ่าอินเดียนแดง ให้สามารถรอดพ้น ปลอดภัยจากทุกค่ำคืนได้นั่นเองค่ะ
ตาข่ายดักฝัน Dream Catcher มีลักษณะอย่างไร
ตาข่ายดักฝันนั้น จากโดยลักษณะดั้งเดิมจากชนเผ่าอินเดียนแดง จะมีการออกแบบให้มีลักษณะเป็นวงกลม ทำจากไม้หุ้มด้วยหนังสัตว์ ด้านในถูกถักทอด้วยเชือก โดยมีการถักทอให้มีลักษณะคล้ายกับใยแมงมุม ประดับด้วยลูกปัด และห้อยด้วยขนนก โดยปกติแล้ว เครื่องรางชนิดนี้ มักจะถูกแขวนไว้ด้านบนของบริเวณที่นอน เพราะเป็นจุดที่ความฝันจะตกลงมาหาเรา เพื่อดักจับฝันร้ายไม่ให้เข้าสู่ห้วงนิทราของเรานั่นเองค่ะ
ด้วยลักษณะที่โดดเด่นและสวยงามนี้ ทำให้ในปัจจุบัน ตาข่ายดักฝันยังได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมาก และยิ่งเผยแพร่ไปในวงกว้างเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และยังเริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตของทั้งผู้คนในและนอกประเทศอเมริกา โดยถูกนำไปดัดแปลงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตกแต่งบ้าน สร้อยคอ ของที่ระลึก หรืออื่น ๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นของขึ้นชื่อไปเลยทีเดียวค่ะ
ในปัจจุบัน ก็ยังมีนักออกแบบหลายท่าน ที่ได้นำแนวคิดของการออกแบบตาข่ายดักฝัน ไปใช้กับการออกแบบสิ่งต่าง ๆ เป็นแรงบันดาลใจอีกด้วย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่นักสะสม เพราะมันดูเท่ ลึกลับ และมีเสน่ห์ในแบบที่หาได้ยาก และยังสามารถใช้เป็นเครื่องรางที่ช่วยปกป้องคุ้มครองอันตรายได้อีกด้วย
Legend of the Dreamcatcher ตำนานของตาข่ายดักฝัน
ตามความเชื่อของเผ่าอินเดียนแดง มีเทพธิดาแมงมุมที่เรียกว่า Asibikaashi ที่คอยดูแลปกป้องเด็ก ๆ และผู้คนในหมู่บ้าน ให้พ้นจากอันตราย และสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ตาข่ายดักฝัน จึงเป็นสิ่งที่คิดค้นออกแบบโดยมีต้นแบบมาจากเทพธิดาแมงมุม Asibikaashi จึงทำให้มีลักษณะคล้ายกับสายใยจากแมงมุม ที่มีความเชื่อว่า จะมีพลังอำนาจวิเศษ ที่สามารถทอใยเพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปได้ โดยเรามีตำนานและเรื่องราวเกี่ยวกับเทพธิดาแมงมุมเอาไว้ ดังนี้
” เจ้าแมงมุม กำลังชักใยอย่างเงียบ ๆ ในพื้นที่ของเธอ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กับที่นอนของคุณยายที่มีชื่อว่า Nokomis ”
ในแต่ละวัน Nokomis ได้แต่เพียงเฝ้ามองเจ้าแมงมุม ที่กำลังชักใยของเธอ อย่างไม่ทราบสาเหตุ
จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง ที่หลานชายของเธอ ได้เข้ามาเห็นเจ้าแมงมุม แล้วร้องอุทานด้วยความรังเกียจ และตกใจกลัวเป็นอย่างมาก พร้อมพุ่งตรงไปที่เจ้าแมงมุม และเงื้อมมือไปหยิบรองเท้าขึ้นมา พยายามจะทำร้ายแมงมุมตัวนั้น
” อย่านะ keegwa!” หญิงชรากระซิบ ” อย่าทำร้ายเธอ ”
หลานขายที่งุนงงและตกอยู่ในความสงสัย จึงเอ่ยถามคุณยายไปว่า “ทำไมถึงต้องปกป้องแมงมุมด้วย”
เมื่อได้ยินคำถามนั้นจากหลานชาย หญิงชราได้แต่ยิ้มโดยที่ไม่ตอบอะไร
เมื่อหลานชายของเธอออกไป เจ้าแมงมุมได้เข้ามาหาหญิงชรา พร้อมกับขอบคุณที่คุณยายได้ช่วยชีวิตเธอไว้
” หลายวันที่ผ่านมา เธอได้เฝ้ามองฉันชักใยด้วยความชื่นชม และเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ฉันขอมอบของขวัญให้กับเธอ ผู้ซึ่งเป็นที่รักของฉัน ” แมงมุมได้กล่าวกับคุณยาย
ด้วยสายตาที่พร่ามัวของคุณยาย ทำให้มองได้ไม่ชัด แต่หลังจากนั้น เมื่อแสงจันทร์สาดส่องมา ทำให้คุณยายได้มองเห็นตาข่ายใยสีเงิน ที่พลิ้วไหวอยู่ที่หน้าต่าง ราวกับอัญมณีที่ล้ำค่า
” นี่คือของขวัญของฉัน หากเธอลองมองออกไปข้างนอก จะมีทั้งละอองแห่งความฝัน ที่มีความฝันทั้งดีและร้ายล่องลอยอยู่ในอากาศ ถ้าหากเธอแขวนตาข่ายอันนี้เอาไว้เหนือที่นอน มันจะจับความฝันร้ายของเธอ ”
” และจะมีเพียงแค่ฝันดีเท่านั้น ที่จะลอดผ่านช่องเล็ก ๆ ตรงกลางของตาข่ายมาสู่เธอได้ ล่องลอยส่งผ่านขนนกอันอ่อนโยน ลงไปสู่เธอ ผู้ที่กำลังหลับใหล ”
” ส่วนฝันร้าย ก็จะติดอยู่กับใยของตาข่าย และจะถูกชำระล้างไปด้วยแสงของดวงอาทิตย์ยามเช้า ดั่งหยดน้ำค้างที่ติดอยู่กับใยแมงมุม ” หลังเจ้าแมงมุมกล่าวจบ และมอบตาข่ายดักฝันให้กับคุณยาย แมงมุมก็จากไปภายในช่วงเวลาค่ำคืนนั้นเอง
โดยสรุปแล้ว ตาข่ายดักฝัน ความหมาย และที่มานั้น มีความน่าสนใจมาก เป็นการออกแบบตั้งแต่ในสมัยก่อน กำเนิดมานานแสนนาน จนกลายมาเป็นสิ่งยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะกลายเป็นของตกแต่งบ้าน หรือเครื่องประดับเสริมดวงชะตาต่าง ๆ และนอกจากนี้ ยังเป็นหลายแรงบันดาลใจสำหรับนักออกแบบหลาย ๆ ท่านในปัจจุบันอีกด้วย!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ทำนายฝัน ฝันเห็นสามี เห็นสามีร่วมรักกับหญิงอื่น ฝันว่าสามีนอกใจ สามีบอกเลิก แบบนี้หมายถึงอะไร
รวม 10 ไอเทม ของตกแต่งห้องนอน สไตล์มินิมอล ในราคาหลักร้อย
แนะนำ 6 ต้นไม้ปลอม เหมาะกับการตกแต่งห้องนอนเด็กให้น่านอนอยู่เสมอ
ที่มา : infocenter
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!