การเดินทางไปเที่ยวแบบ Babymoon Trip คืออะไร ทำไมเราอยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองทำดู ถือเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกาย และจิตใจ ก่อนลูกน้อยลืมตามองโลก คุณแม่คนไหนที่กำลังตัดสินใจออกเที่ยว ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้
Babymoon Trip คืออะไร
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจเคยได้ยินการไปเที่ยวแบบ “Babymoon” หรือ “Babymoon Trip” แต่อาจไม่เข้าใจความหมาย หากคุณแม่ยังตั้งครรภ์อยู่และไม่ได้อยู่ในช่วงที่สุ่มเสี่ยงจะถึงกำหนดคลอด สามารถเที่ยวแบบ Babymoon ได้ เพราะการเที่ยวแบบนี้ คือ การไปเที่ยวกับคนรัก โดยที่มีเจ้าตัวน้อยอยู่ในครรภ์ เหมือนกับการพาลูกไปเที่ยว ก่อนที่ลูกจะคลอดออกมาลืมตาดูโลกนั่นเอง ถือเป็นการเติมความหวาน และเป็นการเติมเต็มช่วงเวลาที่พิเศษของคู่รัก ก่อนที่หลังจากนี้จะต้องปรับตัว และให้เวลาส่วนมากกับทั้งการทำงาน และการดูแลทารกที่ถือว่าไม่ง่ายเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเดินทางไกลได้ไหม ต้องทำอย่างไร คนท้องกี่เดือนห้ามเดินทางไกล
อายุครรภ์เท่าไหร่เหมาะต่อการไปเที่ยวแบบ Babymoon
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องออก Trip กับคู่รัก แน่นอนว่าจะต้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย เพราะไม่ใช่ว่าจะสามารถไปตอนไหนก็ได้ คุณแม่ควรเลือกช่วงเวลาตั้งแต่ไตรมาส 2 ขึ้นไป และไม่ควรเกินปลายไตรมาส 3 ที่ต้องเลือกไตรมาส 2 ขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์มาพักหนึ่งแล้ว หากไม่ได้ไปเที่ยวนาน ช่วงนี้ก็ถือว่าเหมาะสม หากไปช่วงไตรมาส 1 อาการแพ้ท้องอาจจะยังหนักเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวได้ และที่เราไม่แนะนำให้คุณแม่ครรภ์ปลายไตรมาส 3 ออก Trip แบบนี้ เป็นเพราะว่าอยู่ในช่วงใกล้กำหนดครรภ์ หากมีอะไรฉุกเฉิน อาจเตรียมตัวได้ลำบาก เพราะอยู่ในพื้นที่ไม่คุ้นชินนั่นเอง
ก่อนไปเที่ยว Babymoon ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ตอนนี้แม่ท้องไม่ได้เหมือนแต่ก่อน จึงจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางเสมอ และควรจะต้องรู้ข้อควรระวังบางอย่างในช่วงที่กำลังเดินทาง มีอะไรบ้างที่ต้องรู้มาดูกัน
1. ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ก่อนการเดินทางไปเที่ยวทุกครั้ง หากไกลออกจากจุดที่พักอาศัยหลายชั่วโมง คุณแม่ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปเที่ยวก่อนเสมอ เพื่อรับคำแนะนำที่ควรรู้ เช่น ในการเดินทางที่จำเป็นต้องผ่านการเอกซเรย์ ที่อาจต้องใช้ใบรับรองแพทย์การตั้งครรภ์ หรือการเดินทางไปยังพื้นที่มีอาหารขึ้นชื่อ เช่น อาหารทะเล หรืออาหารอื่น ๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถกินได้ไหม หรือกินได้ประมาณแค่ไหน เป็นต้น นอกจากนี้หากมีข้อสงสัยอื่น ๆ ก็สามารถสอบถามแพทย์ได้เลย
วิดีโอจาก : โตไปด้วยกัน Family Journey
2. วางแผนเลือกระยะทางให้เหมาะสม
ก่อนออกเดินทางคุณแม่น่าจะรู้ดีว่าควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้าก่อน แต่ช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ อาจต้องเพิ่มข้อจำกัดบางอย่างเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะระยะทางที่ไกลเกินไป อาจไม่เหมาะสม เพราะจะใช้เวลาในการเดินทางนาน ไม่ควรเลือกสถานที่ห่างไกลที่ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงขึ้นไป ควรเลือกไม่เกิน 3 – 4 ชั่วโมง ถือว่ากำลังเหมาะสม เนื่องจากตัวของแม่ท้องในช่วงนี้หากนั่งรถนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้า และอึดอัดมากกว่าปกติได้
นอกจากนี้อย่าลืมที่จะจะวางแผนจุดพักรถ 1 – 2 ครั้ง เพราะคนท้องที่นั่งรถนาน ๆ ยิ่งได้ออกมายืดเส้นยืดสายบ้างถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะสั้นที่ใช้เวลาเพียง 1 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น หากเป็นไปได้ควรศึกษาจุดที่ไปเที่ยวว่ามีโรงพยาบาลใกล้เคียงหรือไม่ เดินทางไปอย่างไรรวดเร็วที่สุด รวมถึงเบอร์ที่จะใช้โทรติดต่อด้วย
3. เตรียมอุปกรณ์ในการเดินทางให้พร้อม
มีของจำเป็นหลายอย่างที่แม่ท้องจะต้องเตรียมตัวก่อนออก Babymoon Trip ที่ควรเช็กก่อนว่ามีครบหรือไม่ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 1 วัน หากขาดเหลืออะไรจะได้หาซื้อเตรียมไว้ก่อน ไม่ควรวางใจที่จะไปหาจากร้านค้าข้างหน้าตอนเดินทาง เพราะอาจไม่มีขายก็ได้ ของที่ต้องเตรียม ตัวอย่างเช่น
- สมุดฝากครรภ์ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำติดตัวไว้ตลอด เนื่องจากหากเกิดเหตุฉุกเฉินข้อมูลในสมุดฝากครรภ์ สีชมพูนี้จะมีข้อมูลที่คุณหมอใช้พิจารณาในการรักษาอาการต่าง ๆ ได้
- หากเดินทางไปต่างประเทศไม่ควรลืมใบรับรองแพทย์ เพื่อใช้แสดงตัวในกรณีต่าง ๆ เช่น การต้องรับการเอกซเรย์ เป็นต้น
- ยาประจำตัว หรือยาอื่น ๆ ที่แพทย์ยังสั่งให้ทานอยู่ รวมไปถึงยาสามัญทั่วไป เช่น พาราเซตามอล เป็นต้น และอย่าลืมยาทากันยุง หรือครีมต่าง ๆ ที่ใช้ในช่วงตั้งครรภ์
4. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ากำลังตั้งครรภ์
เมื่อไปยังสถานที่ต่าง ๆ หรือเดินทางผ่านสายการบิน คุณแม่จำเป็นต้องบอกกับเจ้าหน้าที่ตลอดว่ากำลังตั้งครรภ์ เพราะในบางสายการบินหากรู้ว่าคุณแม่กำลังเดินทาง Babymoon Trip อาจให้ที่นั่งพิเศษ หรือได้รับการดูแลมากกว่าปกติ ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรได้ โดยเฉพาะการไปต่างประเทศ อาจมีหลายที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะคู่รักชาวอเมริกัน 60 % ก็เดินทางเที่ยว Babymoon ก่อนคุณแม่คลอดเช่นกัน
กิจกรรมอะไรบ้างที่ควรทำช่วง Babymoon
จริง ๆ แล้วคุณแม่ควรปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อรับคำแนะนำต่อกิจกรรมที่ทำได้ และทำไม่ได้ โดยทั่วไปแล้วกิจกรรมที่ไม่ได้ใช้แรงมาก ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ เป็นการเดินเล่น ใช้แรงน้อยจะเหมาะกับคนท้องที่สุดแล้ว เช่น สปา, เที่ยวทะเล, ทานอาหารมื้อค่ำสุดโรแมนติก, เดินชมพิพิธภัณฑ์ หรือดูแกลเลอรี, หาจุดสวย ๆ ถ่ายรูปเล่น หรือไปพักผ่อนตามธรรมชาติ เป็นต้น คุณแม่อย่าลืมตรวจสอบให้ดีว่าพื้นที่ของกิจกรรมนั้นอันตรายหรือไม่ หรือมีสถานพยาบาลใกล้เคียงตรงไหนบ้าง
การเดินทางเที่ยวอีกครั้งหนึ่งก่อนที่คุณแม่จะให้กำเนิดทารกน้อย เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะได้พักผ่อน ได้ใช้เวลาส่วนตัวกับคู่รักอีกครั้งอย่างเต็มเปี่ยม เป็นการเติมความหวานของชีวิตคู่ เพื่อเป็นแรงผลักดันต่อไปในการดูแลทารกน้อยในอนาคต
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ประโยชน์ของ คนท้องเที่ยวทะเล คนท้องเที่ยวทะเลดีไหม เที่ยวทะเลตอนท้อง
แม่ท้องอยากเที่ยว เที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย 9 ข้อที่แม่ท้องต้องรู้ก่อนไปเที่ยว
คนท้องขึ้นเครื่องบินได้ไหม? ขึ้นเครื่องอย่างไรให้ปลอดภัย ท้องกี่เดือนห้ามขึ้น ?
ที่มา : babycenter, healthline