คนทุกคนมีนิสัย บุคลิก ลักษณะการใช้ชีวิต และการมองโลกที่แตกต่างกัน ต่อให้จะเกิดมาจากครอบครัวเดียวกัน หรือถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะเหมือนกัน ลูก ๆ ของเราก็เช่นกัน เราอาจจะพยายามเลี้ยงดูลูก และหล่อหลอมให้เขาเติบโตมาในแบบที่เราต้องการ แต่เขาก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น คุณพ่อคุณแม่รู้ไหม ว่าลูก ๆ ของตัวเองมีบุคลิกยังไง จัดอยู่ในกลุ่มไหม หากยังไม่รู้ วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
บุคลิกของเด็ก แบ่งออกได้กี่ประเภท
ว่ากันว่าบุคลิกลักษณะนิสัย คือ อารมณ์ การตอบสนอง และความคิด ซึ่งนักจิตวิทยาหลาย ๆ คน ก็เชื่อว่าเด็กแต่ละคน จะค่อย ๆ สร้างนิสัยของตัวเองในขณะที่อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เด็กส่วนใหญ่ มักจะแสดงลักษณะบุคลิกของตัวเองออกมา เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 12 ปี โดยลักษณะนิสัยของเด็ก ๆ จะแบ่งได้ 5 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1. มีระเบียบวินัย
เด็กในกลุ่มนี้ จะมีความรับผิดชอบ มักจะทำงานด้วยเป้าหมายระยะยาว และมุ่งมั่นตั้งใจ มีความแม่นยำ เมื่อต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และไม่ต้องการให้ใครช่วยเหลือมากนัก เน้นการช่วยเหลือตัวเองเมื่อต้องทำงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง
2. เข้าอกเข้าใจคนอื่น
เด็กประเภทนี้ มักจะมีความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับการเข้าสังคมเพื่อพบปะคนอื่น ๆ และเข้าอกเข้าใจคนอื่น ๆ ได้ดี ดังนั้น การต้องพูดคุยหรือทำงานกับคนอื่น ๆ ดูจะไม่ใช่ปัญหาของเด็กกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ นอกจากนี้ เด็กกลุ่มนี้ยังชอบช่วยเหลือคนอื่น และให้ความร่วมมือกับคนอื่นในการทำงานเป็นอย่างดี แถมยังชอบแสดงความรักกับคนอื่น ๆ ไม่เคอะเขินง่าย
3. ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
เด็กที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะเป็นคนที่มีความยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย มีความคิดสร้างสรรค์ ขี้สงสัย ชอบหาคำตอบตลอดเวลา รวมทั้งยังอยากรู้อยากเห็น ชอบการผจญภัย ชอบศิลปะ และรักในเสียงดนตรีอีกด้วย หากคบกับคนประเภทนี้ ก็มักจะได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง : รับมือลูกเอาแต่ใจ อย่างไรให้ได้ผล มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
4. ขี้กังวล
เด็ก ๆ ที่มีบุคลิกลักษณะนี้ มักจะแสดงลักษณะนิสัยเชิงลบออกมาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ ความรู้สึกผิด ความวิตกกังวล หรือความเครียด ซึ่งอาจจะทำให้ใช้ชีวิตประจำวันด้วยความยากลำบาก มักจะจัดการกับอารมณ์ความเครียดได้ไม่ค่อยเก่ง และมักจะรู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคามได้ง่าย
5. ชอบเข้าสังคม
เด็กประเภทนี้ ชอบเข้าสังคมพบปะผู้คน และมีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ รู้สึกว่ากระปรี้กระเปร่าเมื่อได้เจอคนเยอะ ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากเด็กที่ไม่ชอบเข้าสังคม หรือเด็กที่ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว
พ่อแม่จะปรับตัวเข้ากับลูกยังไงได้บ้าง
เราควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาลูก ๆ เพื่อสร้างความสนิทสนม และความไว้เนื้อเชื่อใจกับเด็ก ๆ ซึ่งก็มีวิธีที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
1. ต้องรู้ก่อนว่าลูกเป็นยังไง
ขั้นแรกเลย คือ เราต้องรู้ก่อนว่าลูกมีบุคลิกแบบไหน วิธีสังเกตทำได้ง่าย ๆ โดยการดูว่าลูก ๆ มีลักษณะการตอบโต้และมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นยังไง ชอบเข้าสังคมไหม วิตกกังวลง่ายหรือเปล่า หรืออาจจะลองสังเกตจากกิจกรรมที่เด็ก ๆ ชอบทำ หรือลักษณะการใช้เวลาว่างของเด็ก ๆ ด้วยก็ได้ สิ่งที่เด็กแสดงออกมา จะช่วยให้เราหาว่าเด็กมีบุคลิกยังไง และควรจะเข้าหาเด็กยังไง
2. เข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น
เมื่อรู้แล้วว่าลูกมีบุคลิกแบบไหน ก็ต้องทำความเข้าใจและยอมรับ ว่าถึงแม้ลูกจะไม่ได้เป็นในแบบที่เราหวังไว้ เขาก็ยังเป็นลูกของเรา อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่คิดว่าบุคลิก และนิสัยบางอย่างของเด็ก ดูจะเป็นอุปสรรค หรือเป็นปัญหาในการดำเนินชีวิตของเขา ก็ควรช่วยเด็กปรับแก้นิสัย หากไม่รู้จะทำยังไง ก็ให้ลองติดต่อคุณหมอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับคำแนะนำในการเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้องได้
3. พยายามปรับตัวเอง
บางครั้งอาจเป็นเรื่องยาก ที่จะปรับตัวเข้าหาลูก เมื่อลูกของเรามีบุคลิกต่างจากเราและคนในบ้าน แต่ก็ต้องอดทน และค่อย ๆ ปรับจูนเข้าหากัน หากลูก ๆ เราชอบความอิสระ ไม่ยึดติดกับตารางกิจวัตรประจำวัน แต่เราชอบทำอะไรตามแบบแผน ก็ให้ลองปรับกันคนละครึ่ง โดยคุณแม่เองอาจจะลดกิจกรรมในตารางของตัวเองลงเหลือสักครึ่งหนึ่ง และให้ลูกคิดว่าอยากจะทำอะไรในวันนั้น ๆ อีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ไม่ดูเป็นการบังคับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากจนเกินไป
4. อย่าบังคับลูก
สิ่งที่เราต้องการ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการเสมอไป ลูกเรา ไม่จำเป็นต้องชอบหรือรักอะไรเหมือนกับเรา เราอาจจะชอบออกไปพบเจอเพื่อน หรือไปสังสรรค์ ในขณะที่ลูกของเราอาจจะชอบอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่ที่บ้าน หากเป็นเช่นนี้ ก็ควรปล่อยให้ลูกได้ทำอะไรที่เขาชอบ หากบังคับมากไป อาจทำให้ลูกรู้สึกเครียดและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับเราแย่ลงได้
5. สอนลูกให้รับมือกับคำพูดของคนอื่น
อาจจะมีบางครั้ง ที่คนอื่นรู้สึกไม่ชอบบุคลิกของลูกเรา และอาจพูดจาไม่ดีใส่เด็ก ๆ ซึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ คือ สอนให้ลูกรู้จักตอบโต้กับคนเหล่านั้น ด้วยคำที่เหมาะสม ไม่รุนแรง และเป็นไปในเชิงบวก รวมทั้งควรสอนลูกให้ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะมีบุคลิกที่แตกต่างจากคนอื่น
แม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ที่เด็กทุกคน จะมีบุคลิกและนิสัยที่แตกต่างกัน แต่หากเรารู้สึกว่านิสัยบางอย่างของเด็ก อาจทำให้เขาใช้ชีวิตได้ลำบาก หรือสร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและคนอื่นได้ในอนาคต คุณแม่ก็ต้องค่อย ๆ สอนและค่อย ๆ ช่วยลูกปรับนิสัยของตัวเอง เพื่อที่เขาจะได้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ลูกร้องไห้ขณะนอนหลับ มีสาเหตุมาจากอะไร? ฝันร้ายหรือเปล่า
ลูก ขี้งอน เลี้ยงยังไงดี มีวิธีไหน ช่วยปราบเด็กขี้งอนได้บ้าง
20 คำปลอบลูก ทำอย่างไรให้ลูกหายโกรธ ง่าย ๆ ด้วยคำพูด
ที่มา : parenting.firstcry