TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ระวัง! โรคที่มาจาก นกพิราบ หมอเตือน เสี่ยงปอดติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

4 Jun, 2024
ระวัง! โรคที่มาจาก นกพิราบ หมอเตือน เสี่ยงปอดติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

หลายคนมักคุ้นเคยกับการให้อาหารนกพิราบ หรือการถ่ายรูปสวยๆ กับฝูงนกพิราบ กิจกรรมนี้แฝงอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะ เชื้อราจากนกพิราบ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างกรณีล่าสุด ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนถึงอันตรายและ โรคที่มาจาก นกพิราบ ที่พ่อแม่อาจคาดไม่ถึง

 

หมอเตือน! ไม่ควรให้ลูกไปนั่งกลางดงนกพิราบ

นพ.ฒัชชณพงศ์ จงเจริญยานนท์ หมอเด็กเฉพาะทางโรคทางเดินหายใจและผู้ป่วยวิกฤต ได้โพสต์เตือนคุณพ่อคุณแม่ ผ่านเพจหมอม็อด หมอเด็กขอเล่า โดยยกอุทาหรณ์จากคุณแม่ท่านหนึ่งที่พาลูกไปถ่ายรูปกลางดงนกพิราบ จนเป็นสาเหตุให้ลูกป่วยบ่อย ปอดอักเสบ ติดเชื้อทางเดินหายใจ
อยากเตือนพ่อแม่ทุกคนว่า…ไม่ควรให้ลูกไปนั่งหรือคลานในดงนกพิราบเด็ดขาด เพราะพื้นที่แบบนั้นมีเชื้อโรคเยอะมาก ทั้งเชื้อในมูลนกที่ฟุ้งขึ้นมา รวมถึงโรคทางเดินหายใจหลายชนิดที่เด็กอาจติดได้ง่าย

ส่วนโรคคริปโตคอคโคซิส(Cryptococcosis) ที่แม่เขียนไว้ในคลิปคืออะไร?

มันคือชื่อโรคที่เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง ซึ่งมักพบในมูลนกพิราบ โรคที่มาจาก นกพิราบ นี้สามารถทำให้เกิดอาการ เช่น
  • ปอดอักเสบ — ไอ หายใจลำบาก
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ → ปวดหัวมาก คอแข็ง ซึม
  • อาจจะรุนแรงถึงติดเชื้อทั่วร่างกายเลยก็ได้

โรคนี้มักเกิดในใครบ้าง?

พบบ่อยในคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ คนกินยากดภูมิ ผู้ป่วยที่ภูมิอ่อนแอแต่กำเนิด และเด็กเล็กเองก็ถือว่าเสี่ยงต่อ โรคที่มาจาก นกพิราบ เช่นกัน เพราะ
  • ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง
  • ระบบหายใจก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่
  • ชอบเอามือเข้าปาก ขยี้ตา
ดังนั้น… การพาเด็กไปนั่งในพื้นที่ที่มี “นกพิราบรวมตัวเยอะๆ” อย่าทำกันเลยนะครับ สุขภาพลูกสำคัญกว่านั้นเยอะ พาลูกเล่นในที่สะอาด ปลอดภัย ใจสบายทั้งเด็กทั้งพ่อแม่ดีที่สุด

 

การวิ่งไล่นก ทำให้เด็กสูดดมสปอร์เชื้อราเข้าไปเต็มๆ

ทางด้าน นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ ให้ความรู้ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก หมอจิรรุจน์ เกี่ยวกับภัยจาก “นกพิราบ” ประชาชนทั่วไปควรรู้ เด็กและคนภูมิคุ้มกันปกติ ก็สามารถติดเชื้อได้ โดยคุณหมอได้อธิบายไว้ดังนี้

“มูล (อุจจาระ)” ของนกพิราบ เป็นที่สะสมของ รา ตัวหนึ่งชื่อว่า Cryptococcus neoformans จัดเป็น “เชื้อรา” (Fungus) แต่ถ้าจะระบุให้ละเอียดและเข้าใจง่ายขึ้น มันจัดอยู่ในกลุ่มของ “ยีสต์” (Yeast) เชื้อนี้ สามารถทำให้เกิด ปอดติดเชื้อ และลุกลามจนเป็น”เยื่อหุ้มสมองอักเสบ”  ได้

จริงอยู่ที่ว่า ในตำราแพทย์ เขียนว่าเชื้อนี้จะก่อโรคในคนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น คนไข้มะเร็ง HIV หรือ ได้ยากดภูมิคุ้มกัน แต่ เด็ก และ คนภูมิคุ้มกันปกติ ก็สามารถติดเชื้อได้ !! ถ้าหากเจอเชื้อพวกนี้ “ในปริมาณมาก” ถามว่า ที่ไหน ที่มีเชื้อพวกนี้มากๆ

  1. รังนกพิราบเก่าๆ บริเวณที่มีการสะสมของมูลนกเก่าๆ แห้งๆ เป็นเวลานาน จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราจำนวนมหาศาล !!! 
  2. มูลนกและดินที่ปนเปื้อน  เชื้อราชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีมากในมูลนกพิราบ เพราะในมูลนกมีสารที่เรียกว่า ครีเอตินีน (Creatinine) สูง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีที่ช่วยให้เชื้อราเจริญเติบโต ตรงไหนที่มีนกพิราบเยอะๆ เป็นฝูงๆ “เลี่ยงได้ ควรเลี่ยง” 

 

กลไกการแพร่สู่คน

เชื้อราจะเข้าสู่ร่างกายคนได้ก็ต่อเมื่อ “มูลนกแห้ง” และกลายเป็นฝุ่นผง เมื่อมูลนกแห้ง จะแตกตัวเป็นฝุ่น สปอร์ของเชื้อราจะฟุ้งกระจายไปในอากาศ คนหายใจเอาสปอร์เหล่านี้เข้าไปในปอด ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด และอาจลุกลามไปยังสมอง (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ) ได้ในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ

การป้องกันการติดเชื้อ Cryptococcus neoformans ในเด็กเล็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญ แม้ว่าโรคนี้จะพบได้น้อยในเด็กที่แข็งแรง แต่เนื่องจากเด็กมีพฤติกรรมที่ชอบเล่นซุกซนและอยู่ใกล้พื้นดิน จึงมีโอกาสสัมผัสเชื้อได้มากกว่าผู้ใหญ่

แนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง

1. ห้าม “วิ่งไล่นก” (สำคัญที่สุด) เพราะ การที่นกบินขึ้นพร้อมกันเป็นฝูง จะเกิดแรงลมจากปีก (Flapping) พัดให้ฝุ่นจากมูลนกแห้งที่พื้น “ฟุ้งกระจาย” ขึ้นมาในระดับความสูงเดียวกับจมูกของเด็กพอดี ทำให้เด็กสูดดมสปอร์เชื้อราเข้าไปเต็มๆ หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปเดินในจุดที่มีนกพิราบชุม

2. หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง เช่น ใต้สะพานลอย, อาคารร้าง, สวนสาธารณะบริเวณที่มีขี้นกเกรอะกรัง หรือระเบียงบ้านที่มีนกมาเกาะประจำ หลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กเล่นดินในบริเวณที่มีมูลนกปนเปื้อน หากจะเล่นทรายควรเป็นบ่อทรายที่สะอาดและมีการปิดคลุมเมื่อเลิกเล่น

3. การทำความสะอาดบ้าน (หน้าที่ผู้ปกครอง) หากที่บ้าน (เช่น ระเบียงคอนโด หรือหลังคา) มีนกพิราบมาขี้ใส่ ห้าม ให้เด็กอยู่ใกล้ขณะทำความสะอาดเด็ดขาด และต้องทำถูกวิธี คือ ห้ามกวาดแห้งเด็ดขาด การใช้ไม้กวาดกวาดมูลนกแห้ง จะทำให้เชื้อฟุ้งกระจาย ใช้หลักการ “Wet Cleaning” คือ ต้องฉีดน้ำหรือราดน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ (เช่น น้ำยาฟอกขาว หรือไฮเตอร์) ให้ชุ่มก่อน เพื่อให้มูลนกจับตัวเป็นก้อน ไม่ฟุ้ง แล้วค่อยๆ เช็ดหรือล้างออก ผู้ทำความสะอาด ควรสวมหน้ากาก N95 และถุงมือยาง

สรุปสั้นๆ สำหรับพ่อแม่ อย่าวิ่งไล่นก อย่าเล่นดินที่มีขี้นก และล้างมูลนกด้วยน้ำเปียกเสมอ

เชื้อราในปอด โรคที่มาจาก นกพิราบ

ก่อนหน้านี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ก็ได้เคยยกเคสผู้ป่วยหญิง อายุ 52 ปี ป่วยเป็น ปอดอักเสบจากเชื้อราคริปโตคอคคัสและนีโอฟอร์แมนส์ เบื้องต้นทราบว่าผู้ป่วยมักให้อาหารนกพิราบเป็นประจำ โดยคุณหมอได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ดังนี้

“ผู้ป่วยหญิงอายุ 52 ปี บ้านอยู่ กทม. ปกติแข็งแรงดี ไม่ไอ ไม่มีไข้ ไม่เบื่ออาหาร น้ำหนักไม่ลด ไม่ปวดหัว ไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่มีโรคประจำตัว ไปตรวจร่างกายประจำปี วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 เอกซเรย์ปอดพบก้อนเล็กๆเกิดขึ้นใหม่ที่ปอดขวากลีบบน เอกซเรย์ปอดก่อนหน้านั้น 1 ปีปกติ ทำคอมพิวเตอร์ปอดพบก้อนขนาด 0.9 × 0.9 × 1.7 เซนติเมตร เห็นโพรงอยู่ข้างในก้อนที่ปอดขวากลีบบน

ตรวจเลือดไม่ติดเชื้อเอชไอวี

ผู้ป่วยไปรับการผ่าตัดปอดเอาก้อนจากปอดขวากลีบบนออกที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมเพราะสงสัยมะเร็งปอด ผลพยาธิวิทยาเป็นปอดอักเสบจากเชื้อราคริปโตคอคคัส ตรวจเลือดหาคริปโตคอคคัสแอนติเจนหลังผ่าตัด 4 วันให้ผลบวก titer 1:8 แพทย์เริ่มให้การรักษาด้วยยา fluconazole ผู้ป่วยมาขอคำแนะนำหลังจากนี้ควรทำอย่างไรต่อไป

ซักประวัติ มีนกพิราบอยู่แถวบ้านหลายตัว ให้อาหารนกพิราบประจำ ผู้ป่วยรายนี้หายใจสปอร์ของเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus Neoformans) จากมูลนกพิราบเข้าไปในปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบเป็นก้อนที่มีโพรงข้างใน โชคดีที่เชื้อราไม่ได้กระจายออกนอกปอดเนื่องจากร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี วางแผนให้ยาฆ่าเชื้อราฟลูโคนาโซลชนิดกินต่อไปประมาณ 6 เดือน แนะนำให้อยู่ห่าง และหลีกเลี่ยงให้อาหารนกพิราบ”

 

เชื้อราในปอด

ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook: หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

เชื้อราในปอด

ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook: หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

 

 

อย่างไรก็ตาม การแชร์เคสนี้ของหมอมนูญ ก็เพื่อเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากเชื้อราในมูลนกพิราบ โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เชื้อราเหล่านี้สามารถทำให้เกิดโรคปอดอักเสบร้ายแรงได้ ดังนั้น ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับนกพิราบและมูลนก หมั่นล้างมือให้สะอาด และหากมีอาการคล้ายคลึงกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อรา ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

 

ที่มา: Thaipbs

Facebook: หมอม็อด หมอเด็กขอเล่า , หมอจิรรุจน์ , หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

 

บทความจากพันธมิตร
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

เชื้อราในปอด เกิดจากอะไร?

ปอด เปรียบเสมือนเครื่องกรองอากาศที่ช่วยให้เราหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อใดก็ตามที่ปอดเกิดความผิดปกติ เช่น ปอดอักเสบ หรือ ปอดติดเชื้อ มักส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ เสี่ยงต่อชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เคสผู้ป่วยที่มี ปอดติดเชื้อรา กลายเป็นประเด็นร้อนแรง กระตุ้นให้หลายคนตั้งคำถามว่า ภาวะปอดติดเชื้อราเกิดขึ้นได้อย่างไร และ มีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่บ่งบอกถึงอาการป่วย

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า เชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบมีหลายชนิด โดยเราสามารถติดเชื้อได้จากการสูดดมสปอร์ของเชื้อราที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ ดิน ฝุ่น หรือมูลสัตว์ ซึ่งเชื้อราเหล่านี้มักอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอ้าวและชื้น

โดยเชื้อราที่พบบ่อยและก่อให้เกิดโรค เชื้อราในปอด ได้แก่

1) เชื้อราคริปโตคอคคัส (Cryptococcus neoformans)

 

เชื้อราในปอด

 

เชื้อราชนิดนี้สามารถพบได้ในมูลนกหลายชนิด เช่น นกพิราบ นกคานารี นกหงส์หยก นกแก้ว นกแขกเต้า นกกระจอก นกเอี้ยง และนกเขา หากเราสูดหายใจเอาเชื้อราที่ปนเปื้อนในมูลนกเข้าไป เชื้อราก็จะเข้าสู่ปอดและก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ  

นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีเป็นโรคเอดส์ หรือภูมิคุ้มกันต่ำ เชื้อรานี้จะกระจายขึ้นไปที่เยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ส่งผลให้เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

 

2) เชื้อราแอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus)

สามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน ฝุ่นละออง อากาศ ถ้าหากสูดหายใจเอาฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนเชื้อราชนิดนี้เข้าไป ก็จะก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบได้ค่ะ ในกรณีที่รุนแรง เชื้อราอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้

 

อันตรายจาก ปอดติดเชื้อรา มีอาการอะไรบ้าง?

เมื่อ ปอดติดเชื้อรา ผู้ป่วยจะมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจคล้ายกับไข้หวัด ดังนี้

  • มีไข้ หนาวสั่น
  • หอบ เหนื่อย
  • ไอมีเสมหะ
  • ไอแห้ง ๆ ติดต่อกันหลายวัน หรือไอเป็นเลือด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรารุนแรง
  • มีอาการเจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเมื่อหายใจเข้าออก ลึก ๆ
  • ในผู้ป่วยบางรายอาจเป็นไซนัสอักเสบ

บทความที่เกี่ยวข้อง: เฝ้าระวัง! โรคปอดอักเสบ ภัยเงียบคร่าชีวิตเด็กอันดับ 1

 

การรักษา เชื้อราในปอด

ภาวะปอดติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นปอดอักเสบจากเชื้อราหรือเชื้ออื่น ๆ ล้วนรักษาหายได้ด้วยยาต้านจุลชีพที่เหมาะสม และนัดติดตามอาการเป็นระยะ แต่ผลลัพธ์ของการรักษาก็ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการเข้ารับการรักษา เช่นเดียวกับโรคอื่น ๆ

ดังนั้น หากมีอาการไอแห้ง ไอมีเสมหะไม่ยอมหาย หรือเจ็บหน้าอกเวลาหายใจ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ปอดติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อราเพียงอย่างเดียว ยังมีเชื้ออื่น ๆ ที่ เป็นสาเหตุของอาการปอดติดเชื้อหรือปอดอักเสบอีกด้วย เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือพาราสิต การวินิจฉัยที่ถูกต้อง รวดเร็ว และการรักษาที่เหมาะสม ล้วนส่งผลต่อความสำเร็จในการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง

เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญเลยคือเราไม่ควรละเลยสัญญาณเตือนจากร่างกาย ควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ เพื่อสุขภาพปอดที่แข็งแรง ห่างไกลจากภัยเงียบของโรคปอดติดเชื้อกันค่ะ 

 

โรคอื่น ๆ ที่มาจาก นกพิราบ มีอะไรอีกบ้าง?

นอกเหนือจาก โรคปอดอักเสบ ที่มาจากเชื้อราคริปโตคอคคัส ที่พบได้ในมูลของนกพิราบแล้ว การสูดดม หรือสัมผัสเชื้อราตัวนี้ อาจส่งผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย อาทิ เช่น

1) ไข้หวัดนก

โดยปกติแล้ว ไข้หวัดนกเป็นโรคติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอที่มักพบในนกป่าและนกบ้าน ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กระจายระหว่างนกได้อย่างง่ายดายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับเลือด เนื้อเยื่อ หรือมูลของนกที่ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ในบางสายพันธุ์ เช่น H5N1 ไวรัสไข้หวัดนกสามารถแพร่สู่คนได้ โดยการสัมผัสโดยตรงกับนกป่วย นกที่ตาย หรือผ่านการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์จากนกที่ปนเปื้อน เช่น ขนนก เนื้อสัตว์ หรือมูลนก โดยผู้ป่วยไข้หวัดนกจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก ปอดบวม หรือเสียชีวิต

2) โรคไข้นกแก้ว

โรคไข้นกแก้ว หรือ โรคซิตตาโคซิส เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Chlamydia Psittaci ซึ่งมักพบในนกแก้ว นกพิราบ นกคีรีบูน และสัตว์ปีกอื่น ๆ เชื้อโรคจะแพร่กระจายสู่คนผ่านการสูดหายใจเอาละอองฝุ่นละอุดมไปด้วยเชื้อจากมูลหรือขนนกที่แห้ง โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้นกแก้ว มักจะมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ไอแห้ง หรือ ปวดกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการรุนแรง เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และ เยื่อบุสมองอักเสบ

3) โรคซาลโมเนลโลสิส (Salmonellosis)

โรคซัลโมเนลโลซิสเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียซัลโมเนลลา มักพบได้บ่อยจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนไปด้วยเชื้อ ซึ่งนกพิราบเป็นพาหะสำคัญของโรคนี้เลยทีเดียวค่ะ โดยปกติแล้วผู้ป่วยมักจะมีอาการ เป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย และอาจมีเลือดปนในอุจจาระ โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้สามารถรักษาตามอาการด้วยตนเองได้ โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำและสารละลายเกลือแร่เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ และรับประทานอาหารอ่อน ๆ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อาทิ เช่น ท้องเสียรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด หรือมีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

4) โรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis)

โรคนี้มักเกิดจากการติดเชื้อรา Histoplasma ซึ่งจะอยู่ในมูลของนกพิราบ หากผู้ป่วยที่มีร่างกายแข็งแรงมักจะไม่แสดงอาการ ซึ่งอาการที่แสดงมักจะเป็นไข้ ไอ และมีเมื่อยล้า แต่ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อที่มีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ อาจมีอาการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้นได้

 

วิธีการป้องกัน โรคที่มาจาก นกพิราบ

 

ระวัง! โรคที่มาจาก นกพิราบ หมอเตือน เสี่ยงปอดติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

 

เชื้อราในปอด หรือ โรคอื่น ๆ ที่เกิดจากนกพิราบ สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ โดยมีวิธี ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ ที่มีมูลสัตว์ปีกเยอะ ๆ 
  • หากมีความจำเป็นที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีนกพิราบ หรือมูลนกพิราบ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาด
  • หลีกเลี่ยงการให้อาหารนกพิราบ
  • ฉีดวัคซีนป้องกัน เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนนิวโมคอคคัส ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคปอดติดเชื้อได้
  • พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย

 

การให้อาหารนกพิราบ ถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่แสดงความเมตตา แต่ก็แฝงอันตรายจากเชื้อราในมูลนก ซึ่ง โรคที่มาจาก นกพิราบ อาจนำไปสู่โรคปอดอักเสบรุนแรงได้ เหมือนกับกรณีล่าสุด ที่แพทย์ได้เผยเคสผู้ป่วยปอดอักเสบจากเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ ซึ่งเชื่อมโยงกับการให้อาหารนกพิราบ ซึ่งการสูดหายใจเอาสปอร์ของเชื้อตัวนี้เข้าไป อาจนำไปสู่โรคปอดอักเสบ เชื้อราในปอด ทำให้เชื้อลุกลามไปยังอวัยวะอื่น จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารนกพิราบ หากจำเป็นควรเลือกสถานที่เหมาะสม เก็บกวาดเศษอาหาร และป้องกันไม่ให้นกพิราบทำรังในบริเวณบ้าน การอยู่ร่วมกับนกพิราบอย่างชาญฉลาด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และส่งเสริมสุขภาพที่ดี ทั้งตัวเราเองและคนรอบข้าง

 

ที่มา: Kapook, MedPark, Bangkok Hospital, Petcharavej

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และโควิดในเด็ก ที่พ่อแม่ควรแยกให้ออก

หลอดลมอักเสบ เพราะบุหรี่ที่พ่อสูบ ทุกมวนของพ่อ ส่งผลให้ลูกป่วยนะรู้ไหม

ทารกเป็นหวัดมีเสมหะ เสมหะติดคอลูก ควรทำอย่างไร ? ให้ลูกหายใจโล่ง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

samita

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • ระวัง! โรคที่มาจาก นกพิราบ หมอเตือน เสี่ยงปอดติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
แชร์ :
  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว