ชวนดูความน่ารัก เด็กน้อยร่วมแข่งขัน ‘ซูโม่ทารก’ ในญี่ปุ่น ใครร้องไห้ก่อนคือผู้ชนะ
ความเชื่อ เทศกาล และประเพณี ของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะเทศกาลเกี่ยวกับเด็ก บางคนอาจจะคิดถึง วันเด็กเพราะ วันเด็กจัดเพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญขอตัวเองในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมให้ตัวเองเป็นกำลังของชาติ ทำให้ทั่วโลกเริ่มจัดงานวันเด็กอย่างเป็นทางการ แต่ญี่ปุ่นมีเทศหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเทศกาลนี้มีชื่อว่า Naki Sumo เทศกาลเด็กร้องไห้ ให้เด็กน้อยร่วมแข่งขันซูโม่กัน วันนี้ theAsianparent ชวนดูความน่ารัก เด็กน้อยร่วมแข่งขัน ‘ซูโม่ทารก’ ในญี่ปุ่น ใครร้องไห้ก่อนคือผู้ชนะ
ขอขอบคุณรูปจาก Xinhua
หนูน้อยกำลังนั่งดูการแข่งขัน Naki Sumo ปี 2024 กับที่บ้าน ถึงแม้จะอากาศร้อนแต่กิจกรรมสนุก ๆ ที่มีความยาวนานกว่า 400 ปีนี้ก็คุ้มค่ากับการเจอแดดใช่ไหมมเอ่ย
ขอขอบคุณรูปจาก Xinhua
นักซูโม่มืออาชีพจับเด็ก ๆ ในงาน Naki Sumoในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567 โดยเทศกาลนี้เป็นการอธิษฐานเพื่อการเจริญเติบโตที่แข็งแรงของเจ้าตัวเล็ก
ขอขอบคุณรูปจาก Xinhua
นักซูโม่มืออาชีพจับเด็ก ๆ ในงาน Naki Sumoในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567 เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่ออวยพรให้เด็กอ้วนท้วน และมีความสุข
ขอขอบคุณรูปจาก Xinhua
เทศกาล Naki Sumo คืออะไร
Naki Sumo เป็นเทศกาลของประเทศญี่ปุ่นมาจากคำว่า Naku Ko Wa Sodatsu ที่แปลว่า เด็กที่ร้องไห้จะอ้วนท้วน โดยเทศกาลนี้ มีมานานแล้วมากกว่า 400 ปี เกิดจากความเชื่อที่ว่า เด็กที่ร้องไห้จะเป็นเด็กที่โชคดี มีความสุข แข็งแรง สุขภาพดี และอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งคนญี่ปุ่นยังเชื่อกันอีกว่า เทศกาลนี้ช่วยเด็กขับไล่ปีศาจ และความชั่วร้ายออกไปให้พ้นตัวในตอนนี้ หลาย ๆ คนคงนึกภาพนักซูโม่จับเด็กทุ่มลงบนพื้น
เพื่อทำให้เด็กร้องไห้ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น เทศกาลนี้ นักซูโม่ 2 คน จะต้องแข่งกันอุ้มเด็ก และหาวิธีทำให้เด็กร้องไห้ให้ไวที่สุด และนานที่สุด เด็กคนไหนทำได้ก็ชนะไป แต่หากเด็กทั้ง 2 คน ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน กรรมการก็จะดูว่า เด็กคนไหนร้องไห้ดังและนานมากกว่า
เทศกาลเด็กร้องไห้ จัดขึ้นที่ไหน
โดยปกติแล้ว เทศกาล Naki Sumo จะถูกจัดขึ้นที่วัดหลาย ๆ แห่งในประเทศญี่ปุ่น แต่วัดที่โด่งดังและคนนิยมไปร่วมงานกันคือ วัดเซ็นโซจิ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ส่วนใหญ่เทศกาลนี้จะจัดขึ้นใกล้ ๆ กับวันเด็กของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็คือวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะทำกันได้ หรือไม่ใช่ว่าจะไปจับเด็กที่ไหนมาแข่งกันก็ได้ แต่พ่อแม่ของเด็ก จะต้องสมัครใจให้เด็กลงแข่ง รวมทั้งต้องจ่ายเงินค่าสมัครคนละ 15,000 เยน (หรือประมาณ 4 พันกว่าบาท) โดยจะได้เครื่องรางของขลังเป็นของแถมจากวัด
ซึ่งบรรยากาศการแข่งขันทุกครั้ง ก็มักจะเต็มไปด้วยเสียงเชียร์จากพ่อแม่ หรือญาติ ๆ ของเด็กจากขอบสนาม บางครอบครัวก็เตรียมกล้องมาถ่ายเด็ก เพื่อเก็บภาพความประทับใจไปด้วย ซึ่งในปี 2018 มีทารกที่เกิดใหม่มากกว่า 160 คน เข้าร่วมเทศกาลนี้กันอย่างคับคั่ง ในแต่ละปี พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจะแข่งกันลงทะเบียน เพื่อให้ลูกน้อยของตัวเองเข้าร่วมงานให้ได้ ซึ่งบางทีถึงกับต้องจับสลาก เพื่อลุ้นว่าเด็กคนไหนจะได้รับเลือกเข้าร่วมงานกันเลยทีเดียว
พิธีกรรมในปัจจุบัน
ก่อนเริ่มการแข่งขัน นักบวชจะเปิดพิธีด้วยการสวดมนต์ เพื่ออธิษฐานให้ทารกแต่ละคนเติบโตเป็นเด็กที่แข็งแรง และเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้า ก็จะทำหมวกคาบูโตะสี่แฉก ให้เด็กแต่ละคนสวมใส่ระหว่างการแข่งขัน และมอบของขวัญ และของที่ระลึก ให้กับพ่อแม่ของเด็ก ๆ ทั้งนี้ เด็กที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน จะต้องเป็นเด็กที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 18 เดือนเท่านั้น และเเม้ว่าพ่อแม่ของเด็ก ๆ จะต้องจ่ายเงินค่าสมัคร เพื่อให้เด็กได้เข้าร่วมการแข่ง แต่ผู้ชมทั่วไป สามารถเข้ามาชมเทศกาลนี้ได้ฟรี ไม่เสียตังค์
ส่วนการแข่งขัน ก็จะถูกจัดขึ้นบนเวทีซูโม่กลางแจ้ง โดยนักซูโม่ที่เข้าร่วมการแข่ง จะเป็นนักซูโม่มืออาชีพ หรือจะเป็นมือสมัครเล่นก็ได้ ส่วนวิธีที่นักซูโม่ใช้ เพื่อทำให้เด็ก ๆ ร้องไห้ ก็จะต่างกันออกไป บางคนชูเด็กขึ้นไปบนอากาศและตะโกนเสียงดังใส่เด็ก ในขณะที่บางคน อาจจะทำหน้าตาน่ากลัว ทำหน้าตาบู้บี้ หรือใส่หน้ากากแปลก ๆ เพื่อทำให้เด็กตกใจกลัวจนร้องไห้ และตะโกนคำว่า Naki ! ดัง ๆ ซึ่งแปลว่า ร้องไห้ ! ในภาษาญี่ปุ่น
เทศกาล Naki Sumo โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจะส่งลูก ๆ ของตัวเองลงแข่งแล้ว ก็ยังมีพ่อแม่ของเด็ก ๆ จากต่างประเทศ ที่บินมาญี่ปุ่น เพื่อให้ลูก ๆ ของตัวเองเข้าร่วมเทศกาลนี้ในแต่ละปีด้วย แต่ก็นับว่าเป็นที่น่าเสียดาย ที่เทศกาล Naki Sumo ถูกยกเลิกในปี 2020 เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ส่วนในปีนี้งานกลับมาจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567
ที่มา : Xinhuanet, JGBThailand
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
8 ไดโนเสาร์ของเล่น เล่นสนุก ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและจินตนาการให้ลูกรัก
15 พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก จุดประกายให้เด็กฝัน อยากพาลูกเที่ยวมาดูเลย!
ประโยชน์ของชาเขียวญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง ดีต่อสุขภาพมากแค่ไหน ชาเขียวมีกี่ประเภท?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!