X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

นาทีชีวิต! เด็กโดนไซยาไนด์ จากน้ำยาล้างเครื่องเงิน แพทย์เร่งช่วยจนรอดชีวิต

10 Jan, 2024
นาทีชีวิต! เด็กโดนไซยาไนด์ จากน้ำยาล้างเครื่องเงิน แพทย์เร่งช่วยจนรอดชีวิต

ไซยาไนด์ เป็นสารพิษที่อันตรายต่อชีวิตเป็นอย่างมาก เพียงแค่สูดดมหรือรับประทานเข้าไปก็อาจเสียชีวิตได้เลยทันที ซึ่งเรามักจะเห็นการใช้สารพิษชนิดนี้ในภาพยนตร์หรือเหตุฆาตกรรม ทำให้หลายคนระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสไปโดนพิษตัวนี้ใหม่ ดังเช่นข่าวนี้ เด็กโดนไซยาไนด์ หลังเผลอกินน้ำยาล้างเครื่องเงิน ทีมแพทย์ช่วยกันให้ยาต้านพิษ จนเด็กรอดชีวิต

 

นาทีชีวิต! เด็กโดนไซยาไนด์ จากน้ำยาล้างเครื่องเงิน

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก “Ramathibodi Poison Center” ได้โพสต์ชื่นชม 2 โรงพยาบาลและทีมแพทย์ไทย ที่สามารถช่วยชีวิตเด็กหลังจากเผลอกินน้ำยาล้างเครื่องเงินเข้าไป จนรอดชีวิตได้อย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งในโพสต์ระบุข้อความว่า “โพสต์นี้แอดขอเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี ชื่นชมและขอบคุณ ทีม รพ.ขุนยวม และ รพ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ช่วยเหลือประสานงานการส่งตัวผู้ป่วยเด็กที่หมดสติและมีเลือดเป็นกรดรุนแรงจากพิษไซยาไนด์จากน้ำยาล้างเครื่องเงิน

 

ไซยาไนด์ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลวและอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับยาต้านพิษทันเวลา การได้รับยาต้านพิษทันเวลาสำคัญต่อการกู้ชีวิตเด็กคนนี้มาก ๆ เรียกว่าทุกวินาทีมีค่า ด้วยว่าเป็นภาวะที่เกิดไม่บ่อย (ตลอดชีวิตการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์บางท่านอาจยังไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำ) ยาต้านพิษนี้จึงจะไม่ได้มีในทุก รพ. แต่มีระบบการเก็บไว้ในโรงพยาบาลจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศให้มีการส่งหรือยืมเพื่อช่วยผู้ป่วยตามระบบของโครงการยาต้านพิษ

 

การที่ทีมทั้งสอง รพ.ตัดสินใจให้ ทางรพ.ขุนยวม มีแพทย์และพยาบาลอีกสองท่านออกรถไปกับเด็ก ขณะเดียวกันทาง รพ.ศรีสังวาลย์ก็ออกรถนำยาต้านพิษ (Sodium Nitrite และ Sodium Thiosulfate) มาพบกันครึ่งทางและให้ยาต้านพิษบนรถพยาบาลกลางทางแล้วรับตัวน้องเด็กไปดูแลต่อที่ไอซียู ทำให้ประหยัดเวลาและรักษาชีวิตคนไข้ได้อย่างทันท่วงที แม้เส้นทางจะคดเคี้ยวหรือทำเวลาได้ยาก แต่ด้วยการประสานพบกันกลางทางนี้ก็ทันเวลาที่จะช่วยคนไข้ให้ฟื้นตัวและตื่นรู้ตัวเป็นปกติได้ในเวลาต่อมา

 

Advertisement

ขอบคุณที่ให้ทีมศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนไข้ในครั้งนี้ ขอบคุณที่ให้พวกเราได้เห็นตัวอย่างการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมระหว่างหน่วยงาน ขอชื่นชมทีมทั้งสองโรงพยาบาล พวกคุณสุดยอดมากครับ ขอคารวะทั้งสองทีมจากใจจริง

ปล. ไซยาไนด์พ่ายยาต้านพิษ คิดประสานนำส่งตรงเวลา จักรักษาชีวิตได้ทันควัน หากโคนันมาไทยคงตกงาน”

 

ล่าสุดวันที่ 9 มกราคม 2567 เฟซบุ๊ก “ธีระดา วงค์ใจ” ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เด็กน้อยอายุ 5 ปี มาด้วยอาการไม่รู้สึกตัว แน่นิ่งไม่ตอบสนองใด ๆ แม่ให้ประวัติดื่มน้ำยาแช่เครื่องเงินประมาณ 1 อึก ซึ่งน้ำยาเป็นสารไซยาไนด์ รพ.ที่ไปรักษาเป็นรพ.ชุมชน ซึ่งไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน อย่าว่าแต่รพ.ชุมชนเลย เราที่อยู่รพ.จังหวัด ทำงานมานานก็ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลย หมอจึงรีบโทรไปหาศูนย์พิษรามาทันที เพื่อปรึกษาเรื่องการรักษาพิษจากไซยาไนด์

 

อาจารย์แพทย์ที่ศูนย์พิษรามาได้มีคำสั่งการรักษาผู้ป่วยด้วยยาหลายตัว ยาบางตัวมีให้ได้เลย แต่ยาที่เป็นพระเอกใช้แก้พิษไซยาไนด์ ไม่มีในรพ.ขนาดเล็ก ๆ แบบนี้ ต้องพาเด็กไปรักษาที่รพ.จังหวัด ห่างออกไป 60 กม.ทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดขับเร็วไม่ได้ ทำเวลาไม่ได้

หมอปุ้ยโทรปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และกุมารแพทย์เพื่อจะมารักษาต่อที่นี่ และกระโดดขึ้นรถรีเฟอร์มพร้อมพยาบาลอีก 2 คน เพื่อดูแลเด็กระหว่างทาง หมอกรีคำนวณเวลาแล้ว กว่าเด็กจะมาถึง  ไซยาไนด์คงทำพิษต่อร่างกายเสียหายไปมาก และเด็กอาจจะเสียชีวิตระหว่างทาง หมอกรีจึงมีคำสั่งให้เอายาแก้พิษไซยาไนด์ 2 ตัว ให้พนักงานขับรถนำยาไปส่งให้ทีมหมอปุ้ยที่กำลังเดินทางมา เพื่อที่จะได้รีบให้ยาแก้พิษทันที

 

หมอปุ้ยและทีมรีเฟอร์รพ.ขุนยวม เมื่อได้รับยาจากพชร. แล้วก็ให้ยาแก้พิษ จากนั้นเด็กเริ่มตื่นดิ้นจากที่นอนแน่นิ่งไม่ตอบสนองใด ๆ หมอฉุกเฉิน Kreetha Kamniam หมอแพรซึ่งเป็นหมอเด็ก มารอเตรียมรับผู้ป่วยที่ ER พอมาถึงที่นี่ ให้ยาแก้พิษซ้ำไปอีก เจาะเลือด ติดตามพิษในเลือด ติดตามสัญญาณชีพ  ส่งเด็กนอนรักษาต่อที่ ICU ลุ้นให้เด็กน้อยรอด เช้านี้ติดตามอาการเด็กน้อย ตื่นดี ถอดท่อช่วยหายใจแล้ว E4V5M6

การรักษาเด็กน้อยครั้งนี้ เปรียบเสมือนการวิ่งแข่งกับสารพิษไซยาไนด์ ที่เข้าไปทำลายเซลล์ในร่างกาย โดยเราปล่อยยาแก้พิษ (Sodium Nitrite และ Sodium Thiosulfate) เข้าสู่กระแสเลือดให้วิ่งเข้าไปจับไซยาไนด์ล็อกไซยาไนด์ไว้ให้สิ้นพิษ

 

คำเตือน ใครมีลูกเล็กควรจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ไซยาไนด์มีพิษร้ายแรงมาก สามารถฆ่าคนในเวลาไม่กี่นาที คำเตือนอีกข้อ หากผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น กดหัวใจได้ แต่อย่าผายปอด เพราะอาจจะได้รับไซยาไนด์ด้วย คำเตือนสุดท้าย อย่าประมาทไปทานข้าวกับคนแปลกหน้านะคะ”

 

 

ไซยาไนด์ คืออะไร

ไซยาไนด์ (Cyanide) คือ สารประกอบชนิดหนึ่งที่ใช้ในอุตสาหกรรม มีทั้งแบบเกล็ดของแข็งผลึกสีขาว แบบของเหลวสีใส และแบบก๊าซ ใช้ทำความโลหะ ชุบโลหะด้วยไฟฟ้า สกัดแร่ทองและเงินออกสินแร่ และใช้เป็นวัตถุดิบในการย้อมสี ซึ่งมักจะพบในยาฆ่าแมลง น้ำยาล้างเครื่องเงิน หรือน้ำยาขัดเงาโลหะ เป็นต้น ไซยาไนด์ถือเป็นสารเคมีที่อันตรายเป็นอย่างมาก หากร่างกายได้รับสารพิษชนิดนี้ ผ่านการสูดดม สัมผัส หรือทางปาก ก็อาจเกิดอาการผิดปกติแก่ร่างกาย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

อาการเมื่อโดนพิษจากไซยาไนด์

หากร่างกายได้รับสารไซยาไนด์ ก็จะเข้าไปยับยั้งการหายใจของระดับเซลล์ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ขาดออกซิเจน และส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติแก่ร่างกาย เช่น

  • ปวดท้อง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • หน้าแดง ผิวแดง
  • ใจสั่น กระวนกระวาย
  • ปวดศีรษะ สับสน หรือมึนงง
  • แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
  • ความดันโลหิตสูง หมดสติ
  • เสียชีวิตเฉียบพลัน

อย่างไรก็ตาม อาการจากพิษไซยาไนด์จะมีอาการแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณสารที่ได้รับหรือสัมผัส หากโดนผิวหนังก็อาจจะมีการระคายเคืองทันที หรือหากรับประทานเข้าไปในปริมาณ 15 มิลลิกรัม ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ใน 10 นาที

บทความที่เกี่ยวข้อง : สุดสลด สัตวแพทย์หญิงซดไซยาไนด์ดับ พร้อมลูกสาววัย 12

 

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

เด็กโดนไซยาไนด์

 

วิธีแก้พิษไซยาไนด์

หากโดนพิษไซยาไนด์ เราสามารถใช้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

  • หากเผลอสัมผัส รีบถอดชุดที่เปื้อนสารทันที ใช้กรรไกรตัดผ้าออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสกับผิวหนังส่วนอื่น ๆ และรีบล้างด้วยสบู่และน้ำโดยเร็วที่สุด จากนั้นไปโรงพยาบาลทันที โดยผู้ที่ช่วยเหลือจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองด้วย
  • หากเผลอสูดดม รีบออกจากพื้นที่นั้นโดยเร็วที่สุด แต่หากหมดสติ ให้กู้ชีพด้วยการ CPR ห้ามเป่าปากผายปอดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผู้ช่วยเหลือได้รับสารพิษไปด้วย และต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
  • หากสัมผัสทางดวงตา หากสวมคอนแทคเลนส์ ให้ถอดออกทันที แล้วใช้น้ำสะอาดล้างดวงตาอย่างน้อย 10 นาที และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
  • หากรับประทานเข้าไป รีบล้างปาก และห้ามอาเจียนเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ไซยาไนด์ดูดซึมอย่างรวดเร็ว และต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

 

วิธีรักษาเมื่อได้รับไซยาไนด์

วิธีการรักษาเมื่อได้รับพิษไซยาไนด์ แพทย์จะมียาแก้พิษ คือ ยาฉีดไฮดรอกโซโคบาลามิน (Hydroxocobalamin) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินบี  เพื่อเปลี่ยนไซยาไนด์ให้กลายเป็น ไซยาโนโคบาลามิน (Cyanocobalamin) หรืออาจให้ยาโซเดียมไทโอซัลเฟต (Sodium thiosulfate) ที่จะเปลี่ยนสารไซยาไนด์ให้กลายเป็นไทโอไซยาเนต (Thiocyanate) ที่เป็นสารพิษที่มีพิษน้อยกว่า และขับออกทางปัสสาวะ

นอกจากนี้ ยังมียาฉีดโซเดียมไนไตรต์ (Sodium Nitrite) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับแก้พิษไซยาไนด์ แต่สารเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น สีผิวเปลี่ยน ปัสสาวะมีสีแดง ความดันโลหิตตก ชีพจรเต้นเร็ว ปวดเมื่อย หรือคลื่นไส้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่โดนพิษไซยาไนด์ หากรอดชีวิตก็อาจมีอาการคล้ายโรคพาร์กินสัน เนื่องจากสมองส่วนเบซัลแกงเกลีย (Basal ganglia) ถูกทำลาย

 

สารไซยาไนด์ มีความอันตรายเป็นอย่างมาก หากพบว่าภายในบ้านมีสารพิษที่มีส่วนประกอบของไซยาไนด์ คุณพ่อคุณแม่ต้องเก็บให้พ้นมือเด็กโดยเด็ดขาด เพราะหากลูกได้รับสารพิษเข้าไป ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ซึ่งหากพบว่ามีอาการหลังโดนพิษ ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ต้นตีนเป็ด แค่ส่งกลิ่นฉุน แต่ไม่มีพิษไซยาไนด์ อย่าแชร์กันผิด!

ระวัง! 8 สารพิษที่ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ป้องกันอันตรายใกล้ตัวลูก

วิธีป้องกันลูกจากสารพิษ เมื่อห้ามลูกวัยซนไม่ได้ พ่อแม่ก็ต้องหาวิธีดูแลลูก!

ที่มา : mgronline.com, khaosod.co.th, health.kapook.com

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sittikorn Klanarong

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • นาทีชีวิต! เด็กโดนไซยาไนด์ จากน้ำยาล้างเครื่องเงิน แพทย์เร่งช่วยจนรอดชีวิต
แชร์ :
  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว