เรียกว่าเป็นที่ฮือฮาไปทั้งโซเชียลหลังเจอการแอบเอาข้อมูลแบบใหม่ ซึ่งมาในรูปแบบของ การบ้านระบายสีเด็กแฝงขายประกัน โดยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เฟซบุ๊ก กิตติ สิงหาปัต ผู้สื่อข่าวชื่อดัง ได้โพสต์เรื่องราวของแบบสำรวจข้อมูลขายประกันที่มาในการบ้านเด็ก ซึ่งในโพสต์เป็นภาพของการบ้านเด็กนักเรียนประถม ที่เป็นภาพให้ระบายสีพร้อมให้กรอกข้อมูลของผู้ปกครอง
เตือนภัย! การบ้านระบายสีเด็กแฝงขายประกัน
ในโพสต์ได้ระบุว่า “สำรวจข้อมูลขายประกันผู้ปกครอง โดยแฝงมากับการบ้านเด็ก ??
ผู้ปกครองของนักเรียนท่านหนึ่ง โพสต์ขอความเห็นไว้ในกลุ่ม “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” โดยมีภาพของการบ้านระบายสีเด็กประถม พร้อมแบบสอบถามสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของผู้ปกครอง โดยในกระทู้ดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเหมาะสมของครูและโรงเรียนในการเก็บข้อมูลในครั้งนี้
ซึ่งโพสต์ดังกล่าว มีเนื้อหาดังนี้
********
จากต้นเรื่อง ที่มีบริษัทโทรมาขายประกันวันอาทิตย์ บอกว่ามาจากการบ้านที่ลูกทำ
อยากจะเตือนครูหลาย ๆ โรงเรียน ที่แอบแฝงการขายประกัน เอาข้อมูลผู้ปกครองไปให้บริษัท ในรูปแบบการบ้านของเด็ก ผมขอให้หยุดการกระทำเหล่านี้เลยนะครับ อย่าเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือในการขายประกัน
หรือถ้าคุณจะทำคุณก็ต้องเขียนให้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นการกรอกข้อมูล ไปให้บริษัทประกัน แบบนั้นให้ผู้ปกครองเขาตัดสินใจเองว่าจะกรอกหรือไม่กรอก
ไม่ใช่มาในรูปแบบการบ้านที่บังคับให้เด็กต้องทำเป็นผมผมก็ต้องกรอกข้อมูลให้ครบ เพราะกลัวว่าลูกจะไม่ได้คะแนน ฝากไว้หน่อยนะครับ
ขออนุญาตยืมรูปมาจาก ผู้ปกครองที่โพสต์รอบที่แล้วนะครับแต่คนละโรงเรียน
Edit เพิ่ม สังเกตได้เลยครับว่ามีผู้ที่ถูกกระทำเยอะมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจมาเห็นโพสต์นี้จังเลยครับ มีคนทักข้อความมาต่อว่าผมด้วยว่าไม่ฉลาด ผมขอน้อมรับไว้ละกันนะครับ สิ่งไหนที่มันไม่ถูกต้องผมจะไม่ยอมครับ และสิ่งที่ผมโพสต์ไปผมไม่ได้ทำผิด ผมคิดว่าผมทำถูกแล้วครับขอบคุณครับที่เตือน
*************
ซึ่งล่าสุด โพสต์ดังกล่าว มีประชาชนพากันมาบอกเล่าเหตุการณ์ที่เคยเจอมาในลักษณะเดียวกันเป็นจำนวนมาก”
โดยในโพสต์ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำแบบนี้ดูไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งต่อมา เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ออกมาเปิดเผยว่าพบอีกสองเคส เป็นโรงเรียนในกทม. และโรงเรียนในภาคเหนือที่ผู้ปกครองส่งมาร้องเรียน ซึ่งในโพสต์ระบุว่า
“อันนี้คุณแม่อีกท่านส่งมา จาก รร แถวภาคเหนือ มึงทำทั่วประเทศเลยนี่หว่า
ผู้ปกครองอีกท่านระบุว่า ใบงานแบบนี้เคยโดน พออ่านแล้วเอะใจทันทีว่าประกันแน่ ๆ เลยถามครู ครูคืออ้ำอึ้งนิดนึงก่อนตอบว่าเป็นของบ.ประกัน ถ้าไม่สะดวกไม่ต้องส่งก็ได้
แต่ลูกเราจะร้องบอกว่าต้องส่ง เหมือนครูบังคับเด็กมากลาย ๆ ว่าต้องส่ง
เพื่อนส่งไป 3 อาทิตย์ประกันโทรมา พูดวกไปวนมาจนงงไปหมด บอกเป็นประกันการศึกษา แล้วโทรมาคือ ของสายผปค…. จนเพื่อนนึกว่าครู หรือเจ้าหน้าที่รร. กว่าจะรู้ทำประกันไปเป็นประกันอุบัติเหตุ ไม่ได้เกี่ยวกับรร.หรืออะไรเลย
อีกคนลูกอยู่ชั้นโตหน่อย ให้ใบงานให้เด็กทำส่ง พอเด็กทำส่ง สรุปคือเด็กทำประกัน ประกันโทรไปหาผปค ขอเรียกเงินเพราะเด็กทำประกันยังไม่จ่ายเงิน เพื่อนก็แบบลูกเพิ่ง 15 ไปทำประกันอะไรตอนไหน ก็คืองงมาก”
บทความที่เกี่ยวข้อง : ภัยใกล้ตัว! สอนลูกให้รู้ทันก่อนถูก มิจฉาชีพลักพาตัว
ขณะที่อีกโพสต์เป็นเหตุการณ์ที่พบที่โรงเรียนในกทม. ระบุว่า
“คุณแม่อีท่านนึงส่งมา บอกลูกเขาได้รับใบงานแบบนี้ แต่พ่อแม่ไม่กรอก เพราะเห็นปุ๊บ รู้เลย ประกันชีวิตแหง ๆ อันนี้ รร ไม่ใกล้ไม่ไกล ใน กทม นี่เอง”
ถือเป็นข่าวที่ผู้ปกครองหลายคนเจอเหมือนกัน ซึ่งชาวเน็ตหลายคนก็ได้เรียกร้องให้ผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกมาจัดการ เพราะสิ่งที่โรงเรียนทำอาจดูไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เตือนภัย! มิจฉาชีพในลานจอดรถ ภัยร้ายที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง
ดีใจ! เด็ก ๆ ได้กินไก่ทอดกันแล้ว หลังโดนมิจฉาชีพหลอกให้รอเก้อ
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเด็ก ม.1 อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. ขู่เรียกเงินแสน!
ที่มา : komchadluek.net, mgronline.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!