X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

พ่อแม่ไต้หวันช็อก ! ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก ล่าสุดคดียังไม่คืบหน้า

21 Jun, 2023
พ่อแม่ไต้หวันช็อก ! ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก ล่าสุดคดียังไม่คืบหน้า

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวบีบีซีมีรายงานว่า ตำรวจไต้หวันกำลังดำเนินการสืบสวนกรณี ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก ในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งบนเกาะไต้หวัน โดยเรื่องดังกล่าวได้สร้างความตระหนกตกใจให้กับผู้ปกครองเป็นอย่างมาก และได้เป็นชนวนให้หลาย ๆ ครอบครัวออกมาประท้วงที่ด้านหน้าสถานที่ราชการ พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ และเร่งรัดการสืบสวนให้กระจ่างโดยเร็วอีกด้วย

 

ในข่าวระบุว่า มีครูหลายคนของโรงเรียนอนุบาลในนครนิวไทเป ไต้หวัน ถูกกล่าวหาว่า วางยาระงับประสาทเด็กอนุบาล ด้วยวิธีการให้เด็ก ๆ กินยาแก้ไอชนิดน้ำ ซึ่งมีส่วนผสมของฟีโนบาร์บิทัล และเบนโซไดอะซีพีน โดยทั้งสองส่วนผสมนั้นล้วนเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่ง

 

ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก

 

หนึ่งในผู้ปกครองของเด็กอนุบาล วัย 5 ขวบ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวว่า ครูในโรงเรียนอนุบาลได้นำเอายาที่ไม่รู้จัก ให้ลูกของเขากิน โดยเขาและครอบครัวได้สังเกตเห็นว่า ลูกเริ่มมีอาการผิดปกติในช่วงวันหยุดยาวของเดือนกุมภาพันธ์ เช่น อาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย หรือกรีดร้องตอนนอนหลับ บางครั้งถึงกับร้องไห้ด้วยอาการตะคริวที่ขา หลังจากนั้น จึงได้มีผู้ปกครองหลายครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยพบว่ามีเรื่องหนึ่งที่เด็ก ๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน คือ ครูเอายาที่ไม่รู้จักให้กิน ทำให้ผู้ปกครองต้องเข้าแจ้งความต่อตำรวจ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีผู้เข้ามาแจ้งความเรื่อย ๆ

 

จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันเริ่มดำเนินการสืบสวน และพบว่า มีเด็กอย่างน้อย 8 คน ที่มีปริมาณสารฟีโนบาร์บิทัล และเบนโซไดอะซีพีนจำนวนหนึ่งในร่างกาย จึงทำให้โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในนครนิวไทเป ถูกสั่งปิดในวันที่ 12 มิถุนายน และทางกรรมการบริหารของโรงเรียนเองก็ถูกสั่งปรับเป็นจำนวน เงิน 150,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 168,000 บาทไทย

 

ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก

 

ซึ่งเหตุการณ์ ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เพราะทางตำรวจไต้หวันเองก็ได้มีการสืบสวนมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และในขณะนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทำไมทางคุณครูถึงได้ให้เด็ก ๆ กินยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของสารเสพติด ส่งผลให้ครอบครัวรายร้อยคนต้องออกมาประท้วงที่ด้านหน้าสถานที่ราชการ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวน และเร่งเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะโดยเร็ว

 

นอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซียังได้มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 ก็มีอีกกรณีคล้าย ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาลในนครนิวไทเป แต่ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับแพทย์ในเมืองเกาสง ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะไต้หวัน โดยพบแพทย์ 4 คน ได้ใช้ยาฟีโนบาร์บิทัลผิดวัตถุประสงค์กับเด็กประมาณ 20 คน และในตอนนี้ได้มีคำสั่งให้แพทย์กลุ่มนี้งดปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 6 เดือน และปรับเป็นเงิน 1.4 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1.5 ล้านบาทไทย

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้ง 2 เกิดขึ้น ทำให้คนกลัวเป็นอย่างมาก และในขณะนี้ทางโรงพยาบาลเมืองไทเปก็เริ่มให้บริการตรวจเลือดฟรีสำหรับเด็กปฐมวัย เพื่อตรวจหาร่องรอยของยาระงับประสาท อย่างไรก็ตาม เภสัชกรชาวไต้หวันก็ได้มีการกล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้จะพบได้ยาก แต่ยาแก้ไอและยาโรคทางเดินอาหารบางชนิดก็มีสารฟีโนบาร์บิทัลอยู่ด้วย

 

ทั้งนี้ การใช้งานฟีโนบาร์บิทัล ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อรักษาโรคลมบ้าหมูและใช้เป็นยาสลบเพื่อการผ่าตัดเท่านั้น แถมยังหาซื้อได้ยาก ในขณะที่สารเบนโซไดอะซีพีนเป็นกลุ่มยาซึมเศร้าที่ใช้กันมากที่สุด เพื่อรักษาความวิตกกังวล จึงทำให้ยาทั้งสองชนิดนี้เสพติดได้ง่าย ถ้าหากมีการใช้ยาเกินขนาดจะทำให้เกิดอาการง่วงนอนและหายใจถี่ขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : พ่อแม่ต้องรู้ !! ยาลดไข้เด็กแต่ละช่วงวัย แตกต่างกันอย่างไร?

 

ฟีโนบาร์บิทัล คือยาอะไร ทำไมอันตรายต่อเด็ก

ฟีโนบาร์บิทัล จัดเป็นยาในกลุ่มยากันชัก และกลุ่มยากดประสาท โดยปกติแล้วจะใช้เพื่อช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับในระยะสั้น และช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวล ลดความตึงเครียด ลดความหวาดกลัวลงได้ ทำหน้าที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ยังใช้รักษาอาการชักในกรณีฉุกเฉิน และอาจใช้เพื่อรักษาอาการอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ได้อีกด้วย

 

ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก

 

คำเตือนการใช้ยาฟีโนบาร์บิทัล

  • พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยา เมื่อผู้ป่วยมีอาการแพ้ของยา Phenobarbital
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคโพรีเรีย หรือ โรคผีดูดเลือด ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้
  • หากอยู่ระหว่างการใช้ยาโซเดียมออกซิเบท ห้ามใช้ยาดังกล่าว
  • สตรีมีครรภ์ วางแผนตั้งครรภ์ ไม่ควรใช้ยานี้เพื่อลดความเครียดหรือความกังวลใด ๆ เด็ดขาด
  • ถ้าผู้ป่วยใช้ยาอื่นอยู่ ควรแจ้งแพทย์ก่อนได้รับยานี้ทุกครั้ง เพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  • ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร ต้องแจ้งแพทย์ก่อนได้รับยา
  • หากมีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือโรคระบบทางเดินหายใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวด หรืออยู่ในภาวะช็อกควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้

 

การใช้ยาฟีโนบาร์บิทัล

ยาฟีโนบาร์บิทัล ถือเป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำทางแพทย์เท่านั้น ถ้าเป็นชนิดรับประทานก็ต้องได้รับตามที่แพทย์กำหนด ถ้าหากเป็นยาชนิดฉีดจะต้องได้รับภายในสถานพยาบาล หรือหากได้รับอนุญาตให้ใช้ที่บ้าน ผู้ป่วยจะต้องได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้อย่างถูกต้องและละเอียดที่สุด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจจะตามมาได้

 

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า ยาชนิดนี้ค่อนข้างเป็นยาอันตราย ควรระมัดระวังในการใช้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุ และไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะมันยังไม่มีผลการยืนยันเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพในการใช้ยานี้นั่นเองค่ะ

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ยาแก้ไอเด็ก แบบไหนกินได้ แบบไหนอันตรายห้ามให้ลูกกิน

ยาอันตรายห้ามใช้กับลูก 8 ยาอันตรายอย่าให้หนูกินเลยแม่!

เทคนิคสุดปัง! วิธีป้อนยาเด็ก ลูกกินยายาก ป้อนอย่างไรให้ถูกต้อง

ที่มา :

beartai.com

pobpad.com

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

supasini hangnak

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • พ่อแม่ไต้หวันช็อก ! ครู รร. อนุบาลวางยาเด็ก ล่าสุดคดียังไม่คืบหน้า
แชร์ :
  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

    นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

  • เงินสงเคราะห์บุตร 2568 เดือนละ 1,000 บาท เข้าเมื่อไหร่ สมัครยังไง?

    เงินสงเคราะห์บุตร 2568 เดือนละ 1,000 บาท เข้าเมื่อไหร่ สมัครยังไง?

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

    นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

  • เงินสงเคราะห์บุตร 2568 เดือนละ 1,000 บาท เข้าเมื่อไหร่ สมัครยังไง?

    เงินสงเคราะห์บุตร 2568 เดือนละ 1,000 บาท เข้าเมื่อไหร่ สมัครยังไง?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว