สลด! เด็ก 9 ขวบ จ.นครราชสีมา ออกมาเล่นกีฬากับเพื่อนในสนามกีฬาของหมู่บ้าน หลังจากที่ฝนหยุดตก โชคร้าย ถูกไฟช็อต ดับคาเสาไฟส่องสว่างข้างทาง พ่อรีบอุ้มขึ้นรถเร่งนำส่ง รพ. ปั๊มหัวใจไปตลอดทาง แต่ยื้อไม่สำเร็จ
เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา นางสาววรัทยา รั้วชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งข่าวว่า มีเด็กถูกไฟฟ้าช็อตที่บริเวณสนามกีฬาหมู่บ้าน พ่อแม่และญาติรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลพิมาย ซึ่งระหว่างทางนำส่ง พ่อเด็กได้ปั๊มหัวใจไปตลอดทาง แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าเด็กได้เสียชีวิตก่อนนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อ เด็กหญิงสรัญรัตน์ หรือเกล มุ้งภู่กลาง อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนกุลโน จ.นครราชสีมา
จากการสอบถามเบื้องต้น นางสายใจ มุ้งภู่กลาง อายุ 40 ปี แม่ของเด็กที่เสียชีวิต เผยว่า มีลูกสาว 2 คน คนโต อายุ 12 ปีเรียน ม.1 โรงเรียนพิมายวิทยา ส่วนคนเล็ก คือเด็กหญิงสรัญรัตน์ หรือ เกล อายุ 9 ปี เรียน ป.4 โรงเรียนกุลโน ซึ่งน้องเกลชอบเล่นกีฬามาก ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำมีฝนตก และหลังจากฝนหยุดตกลูกสาวกับเพื่อน ๆ ประมาณ 9 คน ก็ได้ชวนกันออกมาเล่นกีฬาเตะฟุตบอลในลานกีฬาของหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านเพียง 40 เมตรเท่านั้น ไม่นานตนได้ยินเสียงเพื่อน ๆ ของลูกสาว พยายามตะโกนเรียกตนและสามีบอกว่า น้องเกลถูกไฟฟ้าช็อตตรงเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้าง ๆ สนามกีฬา
เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุก็พบว่า มือของลูกสาวยังติดอยู่กับเสาไฟ จึงได้ช่วยกันดึงออกมา และระหว่างนั้นลูกสาวได้หมดสติไปแล้ว ทางคุณพ่อจึงได้ช่วยปั๊มหัวใจให้ฟื้นคืนมา และใช้รถตัวเองรีบนำลูกส่งโรงพยาบาลพิมาย แต่ก็ยื้อชีวิตลูกสาวไว้ไม่ได้ ซึ่งลูกสาวเคยบอกกับตนและสามีว่า ถ้าหนูโตขึ้นอยากจะเป็นทหารให้ได้เหมือนพ่อ แต่ก็มาถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตไปเสียก่อน และตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามารับผิดชอบ ส่วนสนามกีฬา เป็นของทางเทศบาลตำบลพิมาย และได้เข้ามาติดตั้งไฟส่องสว่างเพื่อให้เด็ก ๆ และเยาวชนใช้ออกกำลังกายภายในชุมชน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เตือนพ่อแม่ ระวังไฟช็อตมือลูก เพราะสร้อยข้อมือเข้าไปในรูปลั๊กไฟ
วิธีเอาตัวรอดจากการ ถูกไฟช็อต
1. ในกรณีที่โดนไฟดูดเอง
- พยายามตั้งสติ แล้วรวบรวมแรงทั้งหมดที่มี กระชากมือ แขน ขา หรืออวัยวะที่สัมผัสกับไฟดูดออกมาให้มากที่สุด หรือถ้ายังไม่ได้ผลให้ตะโกนให้คนอื่นช่วยให้เร็วที่สุด อย่าพยายามด้วยตัวเอง
- ห้ามให้คนที่เข้ามาช่วยสัมผัสกับร่างกายของเราโดยตรง ไม่ว่าจะจับแขน หรือจับขาก็ตาม
- ให้ช่วยเหลือโดยนำสิ่งที่ไม่นำไฟฟ้าอย่างเช่น ไม้ ผ้า พลาสติก หรือไม่ก็ให้ตะโกนบอกผู้อื่นให้มาช่วยเขี่ยสายไฟ และวิธีที่ดีที่สุดคือการรีบกระชากออก
- รอการช่วยเหลืออย่างมีสติ หรือหากผู้ที่มาช่วยทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ ให้รีบโทรหา 1669 สายด่วนกู้ชีพ
2. ในกรณีที่เข้าไปช่วยผู้ที่ถูกไฟดูด
- ห้ามเข้าไปช่วยด้วยการสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายโดยตรง พยายามรักษาระยะห่างกับผู้ที่โดนไฟดูดเล็กน้อย และคอยสังเกตให้ดีว่าไฟฟ้ารั่วออกมาจนดูดนั้นมันมาจากไหน
- ถ้าเกิดว่าอยู่ในบ้านแล้วยังไม่ได้ใส่รองเท้า ให้รีบวิ่งไปใส่รองเท้ามาใส่ อย่าให้เท้าอยู่ติดพื้นเด็ดขาด หากไม่มีรองเท้า ให้ยืนบนผ้าหนา ๆ หรือไม่ก็พวกกล่องไม้
- ให้มองหาสิ่งของที่ไม่นำไฟฟ้าอย่างเช่น ไม้ ผ้า ถุงมือ เป็นต้น โดยคุณสามารถใช้ของเหล่านี้เขี่ยคนที่โดนไฟดูดออกไปได้เลยค่ะ เช่น เขี่ยเอาสายไฟออก หรือจะเขี่ยมือ แขน เท้า หรือหากคนที่โดนไฟดูดทั้งร่าง ก็ให้ใช้ผ้าแห้งพันมือหนา ๆ แล้วผลักหรือฉุดออกทีเดียวเลยค่ะ
- หากช่วยด้วยการถีบ สามารถทำได้แต่ต้องมีพื้นที่โล่ง ๆ เพื่อรองรับร่างกายของผู้ที่ถูกไฟดูดด้วย จะได้ไม่เกิดบาดแผล และถ้าจะถีบให้บอกผู้ป่วยก่อน จากนั้นให้ถีบแรง ๆ พอประมาณ พยายามเอาให้หลุดให้ได้ในครั้งเดียว จะได้ไม่โดนไฟดูดไปด้วยกันค่ะ
- ในกรณีที่พบผู้ป่วยถูกไฟดูดบริเวณที่เสี่ยงเกินไป อย่างในห้องน้ำที่พื้นเปียกชุ่ม ให้ตั้งสติแล้ววิ่งหาตู้จ่ายไฟ จากนั้นให้สับสวิตช์ไฟฟ้าเพื่อทำการตัดไฟ
- เมื่อช่วยเหลือได้แล้ว ให้ตรวจดูว่ายังมีสติอยู่ไหม ถ้ายังมีสติก็ให้นอนพักได้เลยค่ะ แล้วตรวจร่างกายคร่าว ๆ ว่ามีบาดแผลส่วนไหนอีกหรือไม่ ส่วนมากอาจมีผมร่วง หรือเป็นรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ตามแขน ขา และลำตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟดูด ไฟช็อต ไม่ว่าจะเป็นการโดนเองหรือต้องช่วยผู้อื่น สิ่งที่ต้องมีให้มากที่สุดก็คือสติ และความรู้พื้นฐานในเรื่องของกระแสไฟ และตัวนำไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน อีกอย่างคือควรตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่สม่ำเสมอ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สยอง! เด็กหญิงถูกไฟดูดจนนิ้วไหม้เป็นสีดำ
ดูแลของใช้ในบ้าน ที่เป็นอันตรายกับลูกมีอะไรบ้าง รู้แล้วเก็บด่วน!
โดนไฟดูด โดนไฟช็อต อันตรายใกล้ตัว ที่ควรรู้วิธีป้องกันรับมือ
ที่มา :
thairath.co.th
sanook.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!