ผู้ปกครองเดือด รร. สอนเพศศึกษาเด็ก ป.5 ละเอียดยิบ พร้อมรวมตัวประท้วง

บนเว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ มีรายงานว่า ผู้ปกครองของเด็กที่กำลังศึกษาที่โรงเรียนวอลดอร์ฟ ในรัฐนิวยอร์กสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ หลังจากที่โรงเรียนปรับหลักสูตรให้ สอนเพศศึกษาเด็ก ป.5 ที่มีทั้งภาพและคำบรรยายละเอียดเกินไป ผู้ปกครองมองว่าไม่เหมาะสม พร้อมรวมตัวกันเพื่อประท้วง

โดยหนังสือเล่มดังกล่าวมีชื่อว่า It’s Perfectly Normal เป็นหนังสือเรียนสำหรับเด็กโต ที่ได้ถูกนำมาใช้สอนเด็ก ป.5 โดยเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ได้สอนเรื่องการสำเร็จความใคร่ การมีเพศสัมพันธ์ทางรูทวาร รวมไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์แบบละเอียด มีทั้งภาพและคำบรรยายอย่างละเอียด ผู้ปกครองจึงมองว่าไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ป.5 ซึ่งในหนังสือในเล่าเรื่องของการรักใคร่เกี่ยวกับเพศเดียวกัน โดยมีประโยคคำสอนว่า ความรักระหว่างชายสองคนถือเป็นความรักขั้นสูงสุด

ทำให้ผู้ปกครองแสดงความไม่พอใจต่อเนื้อหาดังกล่าว โดยผู้ปกครองมองว่า มันเป็นเรื่องที่เร็วเกินไปสำหรับเด็ก ป.5 ที่จะเรียนรู้เรื่องพวกนี้ และผู้ปกครองบางรายก็ได้ระบุว่าการที่ฟังเด็ก ป.5 พูดเรื่องเพศสัมพันธ์ให้พวกเขาฟังเป็นเรื่องบ้ามาก ๆ พร้อมกับคำขู่ว่าจะไม่ปล่อยให้ลูกเรียนที่นี่อีกต่อไป หากยังไม่มีการแก้ไขเนื้อหาของการเรียนการสอน

ขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารของโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนเป็นผู้นำในการผลักดัน เรื่องเพศศึกษาใหม่ในโรงเรียน และหนังสือ It’s Perfectly Normal ก็เป็นแหล่งข้อมูลเสริมสำหรับผู้ปกครองที่ไม่เคยใช้ในห้องเรียน นอกจากนี้ยังได้กล่าวต่ออีกว่า หลักสูตรทั้งหมดของเราได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี พร้อมยินดีร่วมมือกับผู้ปกครองเพื่อมอบการศึกษาที่ครอบคลุม และเหมาะสมกับวัยให้กับนักเรียนของเราต่อไป เราเป็นโรงเรียนที่สอนให้เห็นคุณค่าของความแตกต่างในแต่ละบุคคล และเราได้ตระหนักดีว่าในความหลากหลายของเรานั้นมีจุดแข็งและภูมิปัญญาอย่างไรบ้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก คุยเรื่องเพศ เพศศึกษา และเพศสัมพันธ์

เพศศึกษา คืออะไร ?

เพศศึกษา คือ การเรียนและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเริ่มจากการทำความรู้จักร่างกายตนเอง รู้จักการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การมีเพศสัมพันธ์ เพศวิถี รวมถึงไปจนถึงบรรทัดฐานและค่านิยมเรื่องเพศ วิธีการแสดงความต้องการทางเพศ การปฏิบัติต่อคู่รัก การยอมรับผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศแตกต่าง เป็นต้น

สอนเพศศึกษาเด็ก ป.5 ไม่เหมาะสมจริงหรือเปล่า ?

ความจริงแล้วเรื่องเพศศึกษานั้น ถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก หากแบ่งตามช่วงอายุ คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยกับลูกได้ดังนี้

• เด็กอายุ 0-2 ขวบ

สำหรับเด็ก ๆ วัยนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะสอนได้แค่เพียงอวัยวะต่าง ๆ ของตัวเอง เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า หน้า แขน ขา รวมไปถึงอวัยวะต่างเพศ โดยให้สอดแทรกข้อมูลเกี่ยวกับเพศในเชิงบวก สอนว่าแต่ละอย่างมีหน้าที่อะไร และช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่เด็ก ๆ เริ่มชอบจับอวัยวะเพศของตัวเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อคุณแม่อาจจะสอนเรื่องกาลเทศะด้วยว่า หากหนูจะจับเจ้าช้างน้อยก็ต้องอยู่ในที่ลับตาคนถึงจะจับได้

• เด็กอายุ 2-5 ขวบ

เด็ก ๆ ในวัยนี้ เริ่มพูดและฟังเราเข้าใจแล้ว ฉะนั้นเด็ก ๆ ก็ควรได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเพศศึกษาบ้าง แต่ก็ต้องมีขอบเขตด้วย เช่น การแตะเนื้อต้องตัวคนอื่น หรือคนอื่นมาแตะเนื้อต้องตัวเรา และอย่าลืมสอนเรื่องมารยาทเรื่องพวกนี้ด้วย รวมไปจนถึงการรู้จักป้องกันตัวเองจากคนแปลกหน้าที่พยายามมาจับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายห่างเราไม่ได้ยินยอม โดยเฉพาะอวัยวะเพศค่ะ

• เด็กอายุ 5-8 ขวบ

เด็กในช่วงวัยนี้เริ่มติดโซเชียลมีเดียมากขึ้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนเป็นสิ่งแรกก็คือเรื่องของการใช้โทรศัพท์ให้เป็นเวลา หรือการเสพสื่อทางโซเชียล แน่นอนอยู่แล้วว่าผู้ปกครองไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลา จึงทำให้เขาสามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้ตามใจ ซึ่งเนื้อหาในโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องเพศก็เข้าถึงง่าย ดังนั้น ควรสอนให้เขารู้จักด้วยตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความอยากรู้อยากลองก่อนวัย

• เด็กอายุ 8-12 ปี

เด็กวัยนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ร่างกายเริ่มหลั่งสารฮอร์โมนเพศ และอวัยวะเพศเริ่มมีการทำหน้าที่ในการเจริญพันธุ์ จึงทำให้เด็ก ๆ บางคนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตัวเอง ที่สำคัญเริ่มมีความรักเกิดขึ้นในช่วงวัยนี้แล้ว ทำให้ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเพิ่มความมั่นใจให้กับลูก ถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของร่างกายว่าเป็นเรื่องปกติ และสอนให้ลูกรู้จักถูกผิดเรื่องเพศสัมพันธ์ หากมีใครเริ่มพยายามชักชวน หรือบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ก็ต้องรู้จักปฏิเสธ เพราะผลกระทบที่ตามมานั้นคือเรื่องของการตั้งครรภ์ โรค และสภาพจิตใจ

เพศศึกษาให้ความรู้เรื่องอะไรบ้าง ?

ในสังคมปัจจุบันเริ่มมีการเรียนรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเพศศึกษาอย่างเสรีมากขึ้น ด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย ซึ่งช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมอย่างเช่น การจำกัดจำนวนคู่นอน การมีเพศสัมพันธ์โดยรู้จักการคุมกำเนิด และวิธีป้องกันโรค เพื่อช่วยลดปัญหาสังคม ลดอัตราผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และช่วยป้องกันการท้องที่ไม่พึงประสงค์

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

จะพูดเรื่องเพศศึกษากับลูกยังไงดี ควรที่จะเริ่มเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ลูกถึงจะพร้อม

ทำไมจึงควรสอนลูกเรื่องเพศศึกษา เพศศึกษาสำคัญไฉน เป็นเรื่องที่ควรพูดหรือไม่

ถุงยางแตกทำไง ปัญหาข้องใจวัยรุ่น รับมืออย่างไรเมื่อถุงยางเกิดรั่ว?

ที่มา :

khaosod.co.th

starfishlabz.com

hellokhunmor.com