เพจ หมอแล็บแพนด้า โพสต์เตือนอุทาหรณ์ ครีมกำจัดขนตามกระแส หลังมีลูกเพจใช้จนเกิดอาการแพ้ จนกลายเป็นแผลแดงตามผิวหนัง เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านทาง แฟนเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ที่ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวการใช้ “ครีมกำจัดขน” แต่กลับเกิดอาการแพ้รุนแรง มีผื่นแดงขึ้นเต็มขา แถมบางจุดเริ่มติดเชื้อเป็นหนอง โดยทางหมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาเตือน และให้คำแนะนำ ระบุข้อความว่า
“ครีมกระแสต่าง ๆ อย่าลืมทดสอบกับผิวก่อนใช้นะครับ พวกครีมกำจัดขน เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยาเป็นด่างสูง มันจะเข้าไปทำลายโครงสร้างของเส้นขนที่ประกอบไปด้วยโปรตีน “เคราติน” พอเส้นขนที่อยู่เหนือผิวหนังสัมผัสกับครีม ขนก็จะถูกทำลายจนอ่อนตัวลง แล้วก็ขาดในที่สุด แต่รากขนก็ยังอยู่ใต้ชั้นผิวหนังเหมือนเดิม ผ่านไป 2-3 วันก็ยาวใหม่ได้ตลอด ไม่ต่างจากการโกน
ครีมกำจัดขน อย่าไปทาค้างไว้บนผิวหนังนาน ๆ เพราะมันก็จะทำลายผิวหนังด้วย ให้ทาตามระยะเวลาที่บอกไว้บนฉลากดีที่สุด แล้วครีมที่ขายตามเน็ตเราไม่มีทางรู้เลยว่า ใส่สารอันตรายอะไรเพิ่มเข้าไปบ้าง
ทีนี้มันต้องใช้บ่อย ๆ เพราะซักพักเดี๋ยวขนก็ขึ้นใหม่ ต้องคอยทาอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นคนที่แพ้ง่าย อย่าลืมทดสอบครีมกับผิวหนังของตัวเองก่อนใช้จริงนะครับ ไม่งั้นอาจเป็นแบบในรูป ซึ่งมีหลายคนที่แพ้ แฟนเพจส่งมาให้ดู เสียดายขา จากขาเนียน ๆ กลายเป็นหลุมหมดเลย”
ซึ่งในภาพจากเฟซจะเห็นได้ว่า เป็นรูปแขนและขาที่เกิดอาการผื่นแพ้ นับเป็นอาการแพ้อย่างหนัก ที่ถึงขั้นเป็นจุดแดงคล้ายจ้ำเลือด ทั้งนี้การโพสต์ของ หมอแล็บฯ ยังระบุอีกว่า เป็นการกระจายข่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ เตือนภัยถึง ครีมกำจัดขนตามกระแส เพื่อตระหนักให้ทุกคน ทดสอบกับผิวหนัง ก่อนใช้งานจริง ๆ เพราะไม่เช่นนั้น จากขาเนียนสวย อาจจะเกิดเป็นผื่นแดง หรือแพ้จนน่าห่วงเช่นนี้ได้
นอกจากนี้ภายในคอมเมนต์ ยังมีแฟนเพจที่มาโชว์ภาพที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง โดยเป็นอาการแพ้เช่นกัน พร้อมทั้งยังมีความเห็นระบุอีกว่า เรื่องนี้คนที่เป็น น่าสงสารมา เพราะนอกจากกว่าแผลจะหายแล้ว ยังต้องมารักษาแผลในใจอีก
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีช่วยเหลือแบบเห็นภาพ จากหมอแล็บแพนด้า “สำลักอาหารต้องทำยังไง”
ครีมกำจัดขน อันตรายต่อผิวหนังหรือไม่ ?
ครีมกำจัดเส้นขน มีส่วนประกอบของสารเคมีที่มีความเป็นด่างสูง คือ แคลเซียม ไฮดรอกไซด์ ซึ่งมีอยู่ในเนื้อครีมปริมาณมาก และตัวยา แคลเซียม ไทโอไกลโคเลท
เส้นขนของคนเรามีโครงสร้างหลักคือโปรตีน เรียกว่า เคราติน โปรตีน ในปริมาณ 65%-95% ทำให้เส้นขนหรือเส้นผมแข็งแรง ตัวยาไทโอไกลโคเลท จะมีกลิ่นฉุนและมีฤทธิ์เป็นด่างสูง จะทำหน้าที่ละลายโครงสร้างคีราตินโปรตีนของเส้นขนที่อยู่เหนือผิวหนัง ทำให้เส้นขนนุ่มลงและถูกตัดขาดจากรากขนหรือส่วนที่อยู่ใต้ผิวหนังได้ง่าย ทำให้เช็ดออกได้ง่าย แต่รากเส้นขนยังคงอยู่ในชั้นผิวหนัง ผิวหนังชั้นบนสุดก็ประกอบด้วยโครงสร้างคีราตินโปรตีนเช่นเดียวกับเส้นขน
ดังนั้นครีมกำจัดขน จึงไม่ควรทาค้างไว้บนผิวหนังนาน ๆ เพราะตัวยาจะไปทำลายเซลล์ผิวหนังด้วย ทำให้ระคายเคืองได้ สามารถใช้ได้ในบริเวณผิวหนังที่ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ควรใช้บ่อย ๆ ในระยะเวลาใกล้ ๆ กันในบริเวณเดียวกัน เช่น ทาบนรักแร้ทุก ๆ 2-5 วัน อาจเป็นอันตราย เกิดผิวหนังระคายเคืองได้
วิธีกำจัดเส้นขน
- ใช้ครีมกำจัดเส้นขน (Dipilatories)
- ใช้วิธีถอนเส้นขนออกทั้งราก (Epilation) โดยใช้อุปกรณ์ช่วย หรือใช้แวกซ์ถอนขน
- ใช้อุปกรณ์การแพทย์ เช่น แสงเลเซอร์
ในปัจจุบัน ครีมกำจัดขน เป็นหนึ่งในทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้ ด้วยเพราะเป็นวิธีที่สะดวก แถมครีมกำจัดขนก็หาซื้อง่าย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถกำจัดขนบริเวณที่ไม่ต้องการได้หมด ส่วนวิธีที่ 3 เป็นการใช้อุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งต้องให้แพทย์เป็นผู้ลงมือทำให้ ค่าใช้จ่ายก็ต้องแพงเป็นธรรมดา
ข้อดีของครีมกำจัดขน
- ประหยัด
- หาซื้อมาใช้ได้เองที่บ้าน
- ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
- ไม่มีความเจ็บปวดขณะทำ
ข้อเสียของครีมกำจัดขน
- ได้ผลระยะสั้น ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เส้นขนจะงอกขึ้นมาอีกเหมือนเดิม ภายในเวลาแค่ 2-5 วัน
- บางรายอาจกำจัดขนได้ไม่เห็นมากเพียงพอ อาจมองเห็นเป็นรอยดำบนผิวหนัง ที่เป็นสีของเส้นขนที่ตกค้างอยู่ใต้ผิวหนัง
- ผลิตภัณฑ์มักมีกลิ่นฉุน
- ห้ามทำการโกน หรือแว็กซ์ขนบริเวณนั้น ก่อนใช้ครีมกำจัดขนโดยเด็ดขาด
- ในบางรายอาจระคายเคืองผิวหนัง เนื่องจากมีความเป็นด่างสูง
ข้อควรระวังในการใช้ครีมกำจัดขน
- ในรายที่มีอาการแพ้ง่าย ควรทดสอบตัวครีมกับผิวหนังของตัวเองก่อนใช้จริง
- ห้ามทิ้งตัวครีมเอาไว้บนผิวหนัง มากกว่าที่กำหนดไว้ในฉลากผลิตภัณฑ์ เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
- ไม่แนะนำให้ใช้ซ้ำบ่อย ๆ ในบริเวณเดียวกัน เช่น มีการพอกบนผิวหนังทุก 2-5 วันซ้ำ เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบ แดง ได้
- ใช้ครีมกำจัดขนในบริเวณที่กำหนดไว้ในฉลากผลิตภัณฑ์เท่านั้น เช่น ครีมกำจัดขนเฉพาะรักแร้ และขา ไม่ควรนำมาใช้กำจัดขนคิ้ว หรือที่จุดซ่อนเร้น เพราะในผิวหนังส่วนอื่น ๆ อาจเป็นผิวหนังอ่อนไหวและชั้นหนังกำพร้าบาง อาจระคายเคืองได้ง่าย
สรุปแล้วครีมกำจัดขน ก็เป็นวิธีการกำจัดขนที่ประสิทธิภาพไม่สูงมากนัก เพราะเป็นเพียงการกำจัดขนที่อยู่เหนือผิวหนังเท่านั้น แต่ไม่ได้ลงไปลึกถึงรากขน ทำให้เส้นขนยังสามารถกลับมายาวได้เหมือนเดิม ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ นอกจากนี้สารเคมีที่อยู่ในครีมกำจัดขน ก็ยังอาจเป็นอันตรายต่อผิว และทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อปัญหาผิวหนังตามมาได้อีกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แม่แชร์ประสบการณ์ ครีมกำจัดขน ช่วยลูกไม่ต้องถูกตัดนิ้วเท้า
สาว ๆ ต้องลอง สูตรกำจัดขนบนใบหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ
11 เครื่องสำอางค์ต้องห้ามขณะตั้งครรภ์
ที่มา : หมอแล็บแพนด้า, pharmacy.mahidol
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!